Youn Stay รายการวาไรตี้ที่ดูแล้วต้องพูดว่า ‘อยากไปเกาหลี’ รอบที่ล้าน

Youn Stay ออกอากาศไปแล้วสองอีพี อีพีแรก 8.2% ส่วนอีพีที่สอง 10.2% ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยสำหรับรายการที่ออกอากาศทางช่องเคเบิล ถ้าปีที่ผ่านมาเคยบ่นกับเพื่อนว่าอยากไปเกาหลีมาแล้วร้อยรอบ เมื่อได้ดูรายการนี้แล้วจะต้องพูดประโยคเดิมซ้ำไปเรื่อยๆ ทุก 15 นาที

วาไรตี้กึ่งเรียลลิตี้แนวสังเกตการณ์จากช่อง tvN รายการนี้ควบคุมการผลิตโดย นายองซอก โปรดิวเซอร์ผู้ช่ำชองในการดึงดูดหัวใจคนดูให้รู้สึกเหมือนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งกับรายการของเขาได้อยู่เสมอ

ก่อนหน้านี้รายการถูกผลิตมาแล้ว 2 ซีซันในชื่อ Youn Kitchen โดยซีซันแรกถ่ายทำที่หมู่เกาะกิลิ ประเทศอินโดนีเซีย และซีซัน 2 ที่เมืองการาชิโก ประเทศสเปน คอนเซปต์เป็นการพาคนดังไปเปิดร้านอาหารเกาหลีที่เมืองเล็กๆ ในต่างประเทศแบบที่ทำจริงทุกขั้นตอน ตั้งแต่เตรียมวัตถุดิบ เข้าครัว เสิร์ฟ ดูแลลูกค้า และจัดการปัญหาต่างๆ ภายในร้าน โดยมีสมาชิกหลักคือ ยุนยอจอง อีซอจิน จองยูมี ชินกู (ซีซัน 1) และพัคซอจุน (ซีซัน 2)

ด้วยสถานการณ์โลกที่ไม่ปกติ แผนในการถ่ายทำซีซัน 3 จึงต้องเปลี่ยนมาเป็นที่เกาหลีแทน แต่ระดับพีดีนายองซอกแล้วจะธรรมดาได้ยังไง เขาเลือกที่จะท้าทายทั้งตัวเองและสมาชิกของรายการด้วยการขยับสเกลขึ้นไปอีกขั้น โดยอัพเกรดจากร้านอาหารเล็กๆ เป็นโฮมสเตย์ 3 หลัง พร้อมบริการอาหารมื้อเย็นและมื้อเช้า และปรับชื่อรายการเป็น Youn Stay แทน แล้วยังได้สมาชิกเดิมจากซีซัน 2 มาครบทีมคือ ยุนยอจอง อีซอจิน จองยูมี และพัคซอจุน เพิ่มเติมด้วยสมาชิกใหม่ที่แสนสดใสอย่างชเวอูชิกอีกหนึ่งคน

กลิ่นอายความอบอุ่นที่ส่งผ่านหน้าจอของคุณในฤดูหนาว

“เราเสียใจที่ต้องฉายรายการเกี่ยวกับการท่องเที่ยวทั้งที่ผู้ชมต้องอยู่ที่บ้าน เราหวังว่าจะผ่านอุโมงค์แห่งวิกฤตนี้ แล้วจะได้สนุกไปกับการเดินเล่นในฤดูใบไม้ผลิอันแสนอบอุ่นที่กำลังจะมาถึง” คำเกริ่นนำจากความรู้สึกของทีมงานที่ถ่ายทอดผ่านตัวหนังสือในช่วงต้นของรายการคือความอบอุ่นแรกที่คนดูอย่างเราได้รับ และในช่วงเวลาที่ต้องเก็บตัวอยู่กับบ้านแบบนี้ Youn Stay คือรายการที่จะเป็นเหมือนเพื่อนผู้สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับคนดู

และเพราะสถานการณ์โควิดนี้เองที่ทำให้ชาวต่างชาติในเกาหลีหลายๆ คนไม่มีโอกาสได้ออกไปสัมผัสวัฒนธรรมและความสวยงามของประเทศอย่างที่ควรจะเป็น PD นายองซอกบอกว่าเขาอยากแนะนำให้ชาวต่างชาติได้รู้จักกับความงามของเกาหลี (Beauty of Korea) ซึ่งไม่ใช่แค่ความสวยงามของวิวทิวทัศน์ แต่รวมไปถึงอาหาร วัฒนธรรม และสถาปัตยกรรมโบราณอย่าง ‘ฮันอก’ บ้านโบราณที่เป็นภูมิปัญญาของชาวเกาหลีที่มีอายุกว่า 300 ปี นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทีมงานเปิดให้ชาวต่างชาติเข้ามาพักที่โฮมสเตย์อันแสนอบอุ่นแห่งนี้ เพื่อให้พวกเขาได้พบกับประสบการณ์สุดพิเศษที่ควรจะได้รับ หากไม่มีโรคระบาดที่เป็นอุปสรรคขวางกั้นอย่างทุกวันนี้

*โฮมสเตย์บ้านฮันอกที่คูรเย จังหวัดชอลลาใต้ (320 กิโลเมตรจากโซล) สถานที่ถ่ายทำรายการ Youn Stay เปิดให้เข้าพักได้จริงๆ ใครที่อยากตามรอยสามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ที่ www.ssangsanje.com

เรียบง่าย สบายตา สบายใจ เสน่ห์ของเกาหลีที่ถ่ายทอดผ่านสายตาของ PD นายองซอก

ถ้าหากว่าชอบรายการอย่าง Coffee Friends, Our Little Summer Vacation, Three Meals a Day หรือ Youth Over Flowers แสดงว่าคุณเองก็กลายเป็นแฟนคลับของ PD นายองซอกไปเรียบร้อยแล้ว และรายการนี้ต้องเข้าทางแน่ๆ

ที่บอกแบบนั้นเพราะสไตล์ของ Youn Stay ยังคงเสน่ห์ในการถ่ายทอดเรื่องราวเล็กๆ น้อยๆ ที่ดำเนินไปในแต่ละวัน ผสานรวมไปกับหน้าที่ความรับผิดชอบของเหล่าสมาชิกรายการที่ต้องทำให้ลุล่วง มีการสอดแทรกฟุตเทจธรรมชาติที่สวยงาม เพลงเพราะๆ บทสนทนาและมุกตลกที่เป็นธรรมชาติของสมาชิก เหมือนว่าไม่ได้มีกล้องเป็นร้อยตัวคอยจับภาพพวกเขาอยู่ทุกฝีก้าว

และเพราะเป็นรายการแนวสังเกตการณ์ (ไม่มีสคริปต์ ไม่มีทีมงานคอยกำกับ มีเพียงกล้องจำนวนมากมายที่ติดตั้งอยู่ทุกมุมเพื่อเก็บภาพเหตุการณ์ต่างๆ) ส่วนตัวเราคิดว่าอะไรแบบนี้มันคือฝีมือที่ต้องยกเครดิตให้ทีมงานเลยจริงๆ ที่สามารถเรียงร้อยชีวิตประจำวันธรรมดาๆ ตื่นนอน ทำอาหารเช้า ดูแลแขกที่มาพัก ทำอาหารเย็น เข้านอน วนไปเรื่อยๆ แต่เราก็ยังเพลิดเพลินไปกับมันได้

ส่วนใครที่คิดว่ารายการนี้ดูเนิบๆ ไปหน่อย เราขอให้ลองเปิดใจก่อน เพราะหลังจากออกอากาศไปแล้วสองอีพีก็ได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดีมากๆ โดยอีพีแรกได้เรตติ้งอยู่ที่ 8.2% ส่วนอีพีที่สองได้เพิ่มขึ้นมาอีกที่ 10.2% ซึ่งถือว่าไม่น้อยเลยสำหรับรายการที่ออกอากาศทางช่องเคเบิ้ล แม้ว่าก่อนหน้านี้จะมีเสียงบ่นเล็กๆ ว่ารูปแบบรายการเปลี่ยนไป (ไม่ได้ไปถ่ายทำที่ต่างประเทศ) แล้วจะสนุกเหมือนเดิมหรือเปล่า ตัวเลขเรตติ้งก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่ามันสามารถดึงดูดผู้ชมได้ไม่แพ้เวอร์ชันก่อนหน้าเลย

สมาชิกรายการทั้ง 5 คนคือส่วนผสมที่ลงตัว

อย่างที่บอกว่ารายการนี้ได้สมาชิกจากซีซันที่แล้วมาครบทีม และเพราะพวกเขาคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว ทำให้แต่ละคนไม่ต้องปรับตัวอะไรกันมาก บรรยากาศของรายการจึงอบอวลไปด้วยความสนุกสนานและเป็นกันเองตั้งแต่อีพีแรก

ยุนยอจอง นักแสดงรุ่นใหญ่มากความสามารถ จะมารับหน้าที่ประธานของโฮมสเตย์ที่คอยดูแลภาพรวมทั้งหมด, อีซอจิน พี่ชายลักยิ้มผู้มาพร้อมภาพลักษณ์ขี้บ่น เขาไม่ค่อยชอบทำอะไรวุ่นวายเท่าไรนัก แต่เพราะความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันของทั้งคู่ ทำให้ถ้าเป็นรายการของนายองซอกก็ต้องมีอีซอจินมาร่วมด้วยทุกทีไป คราวนี้เขามารับหน้าที่ผู้จัดการสุดเนี้ยบ และช่วยดูแลเมนูเครื่องดื่ม-ของหวาน

จองยูมีและพัคซอจุนรับหน้าที่เชฟประจำโฮมสเตย์แห่งนี้ และแต่ละเมนูที่ทำก็ไม่ใช่ว่าจะเป็นอาหารพื้นๆ ที่หากินได้ทั่วไปในเกาหลี ซึ่งทั้งสองต้องไปเข้าคอร์สเรียนทำอาหารกับเชฟมืออาชีพ และฝึกฝนฝีมือกันอย่างแข็งขันก่อนที่จะมาถ่ายทำรายการนี้ โดยมีเมนูไฮไลต์คือ ‘ต๊อกคัลบีไส้เกาลัด’ อาหารแบบชาววังที่เชฟคิดค้นสูตรมาเพื่อรายการนี้โดยเฉพาะ แค่จานนี้จานเดียวก็ใช้เวลามากกว่า 2 ชั่วโมงแล้ว เมนูข้างเคียงอื่นๆ คือเรียกว่าหัวหมุน ซึ่งเราจะได้เห็นสถานการณ์สนุกๆ มากมายในห้องครัวนี้

ที่น่าสนใจมากคือสมาชิกใหม่อย่าง ชเวอูชิก ที่เพิ่งเคยชิมลางวาไรตี้เป็นครั้งแรกในรายการ Our Little Summer Vacation ร่วมกับจองยูมี ซึ่งเป็นที่เอ็นดูของผู้ชมเป็นอย่างมากกับภาพลักษณ์ลูกเจี๊ยบที่กระตือรือร้นในทุกเวลา แต่รายการนี้เขามาในฐานะเด็กฝึกงานที่รับผิดชอบหลายหน้าที่ ตั้งแต่พนักงานขับรถ คนยกกระเป๋า เด็กเสิร์ฟ ล้างจาน หั่นผัก ฯลฯ พร้อมทักษะภาษาอังกฤษที่ยอดเยี่ยมจนคนดูเซอร์ไพรส์ ทำให้มีแววว่าออร่าความน่ารักแบบงงๆ ของชเวอูชิกจะเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่าในฐานะมักเน่ของรายการนี้