The Glory ซีรีส์การแก้แค้นสุดเจ็บแสบของนักเขียน คิมอึนซุก นำแสดงโดย ซงฮเยคโย อีโดฮยอน และอิมจียอน
The Glory ออริจินัลซีรีส์เรื่องล่าสุดจาก Netflix ที่ ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ตั้งตารอคอย เพราะมาพร้อมคุณสมบัติหลายข้อที่ถ้าไม่ดูคงรู้สึกผิด โดยเนื้อหาซีรีส์จะว่าด้วยเรื่องราวการล้างแค้นของผู้หญิงคนหนึ่งที่ตกเป็นเหยื่อการใช้ความรุนแรงในโรงเรียนเมื่อสมัยเด็ก นำแสดงโดย ซงฮเยคโย อีโดฮยอน และ อิมจียอน
ซีรีส์เรื่องนี้เป็นผลงานของผู้กำกับ อันกิลโฮ (Stranger, Record of Youth, Happiness) และนักเขียนบทอันดับต้นๆ ของวงการบันเทิงเกาหลีอย่าง คิมอึนซุก (Descendants of the Sun, Goblin, Mr. Sunshine) ที่สำคัญคือนี่เป็นครั้งแรกที่คิมอึนซุกเปลี่ยนแนวมาเขียนบทซีรีส์แนวล้างแค้น จากที่เคยประสบความสำเร็จจากซีรีส์แนวรักโรแมนติกมาตลอด
และอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เราค่อนข้างสนใจก็คือทีมผู้สร้างบอกว่าซีรีส์เรื่องนี้สำหรับผู้ใหญ่ (+19) เพราะมีเนื้อหาและคำพูดที่เกี่ยวกับการใช้ความรุนแรง นั่นหมายความว่ามันคงจะไม่ได้เล่าเรื่องการถูกกลั่นแกล้งในโรงเรียนแบบธรรมดาๆ อย่างที่เราเคยเห็นกันแน่นอน
แรงบันดาลใจของ คิมอึนซุก ในการเขียนบทซีรีส์ The Glory
“ฉันเป็นแม่ซึ่งมีลูกสาวที่เพิ่งอยู่ในวัยมัธยมต้น แม้การใช้ความรุนแรงในโรงเรียนจึงเป็นเรื่องค่อนข้างใหม่สำหรับฉัน แต่ก็เป็นเรื่องที่ชวนให้สงสัยเช่นกัน ฉันเริ่มกังวลว่าลูกสาวจะถูกวิจารณ์ที่โรงเรียนเพราะฉันหรือเปล่า หลังจากที่พูดคุยกัน เธอก็ถามฉันต่อว่า แม่จะรู้สึกแย่กับอะไรมากกว่ากัน ระหว่างการที่หนูเป็นคนรังแกคนอื่น หรือการที่หนูโดนรังแกเสียเอง
“ในตอนนั้นเอง ความคิดมากมายก็พรั่งพรูเข้ามาในหัวจนฉันตัดสินใจเปิดคอมพิวเตอร์แล้วเริ่มเขียนบทเรื่องนี้ขึ้นมาค่ะ ฉันครุ่นคิดอยู่นานว่าจะตั้งชื่อเรื่องว่าอะไรดี จึงได้ไปอ่านบทสัมภาษณ์ของเหยื่อความรุนแรงในโรงเรียนหลายๆ คน และมาทราบทีหลังว่าเหยื่อส่วนใหญ่ไม่เคยต้องการคำขอโทษเป็นเงินทองหรือสิ่งของใดๆ หากแต่ต้องการคำขอโทษจากใจจริงมากกว่า ฉันจึงสงสัยว่าคำขอโทษที่จริงใจเหล่านั้นจะทำให้ได้อะไรดีขึ้นมา
“แต่สุดท้ายก็ตระหนักได้ว่าเขาไม่ได้อยากได้คำขอโทษ แต่มันเหมือนเป็นการทวงคืนเกียรติและศักดิ์ศรีที่พวกเขาสูญเสียไปในขณะที่โดนทารุณมากกว่า คำขอโทษที่ออกมาจากใจจะนำพวกเขากลับไปยังช่วงเวลาก่อนที่พวกเขาจะโดนทำร้าย เพราะเหตุนั้นฉันจึงตัดสินใจตั้งชื่อเรื่องว่า The Glory ด้วยความหวังที่อยากจะให้ตัวละครอย่าง ดงอึน ฮยอนนัม และยอจอง ได้กลับไปสดใสและมีเกียรติเหมือนตอนก่อนที่พวกเขาจะตกเป็นเหยื่อของความรุนแรงค่ะ”
ซงฮเยคโย (Descendants of the Sun, Encounter) รับบทเป็น มุนดงอึน ตัวละครที่มีอดีตอันแสนจะเจ็บปวดเพราะความรุนแรงในโรงเรียนตั้งแต่เด็กๆ ทั้งคุณครูและตำรวจก็ไม่แม้แต่จะยื่นมือมาปกป้อง จนเธอตัดสินใจที่จะฆ่าตัวตาย แต่ก็ฉุกคิดได้ว่าทำไมต้องเป็นเธอที่ตาย พวกคนที่ทำร้ายเธอต่างหากที่ต้องได้รับบทลงโทษ นั่นจึงกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการล้างแค้นอย่าสาสมในอีกหลายสิบปีต่อมา
“นับว่าเป็นเรื่องยากที่จะสื่ออารมณ์ของดงอึนซึ่งต้องทนทุกข์ทรมานจากอดีตอันแสนโหดร้ายและต้องเผชิญหน้าต่อสู้กับผู้ที่กระทำผิด แต่แทนที่จะแสดงภาพลักษณ์ที่อ่อนแอ ฉันอยากให้ผู้ชมมองเห็นด้านที่เข้มแข็งแทนค่ะ อยากให้เห็นว่าฉันเป็นดงอึนที่แข็งแกร่งมากกว่าดงอึนในวัยเด็ก ฉันจึงโฟกัสจุดนั้นเป็นพิเศษ The Glory เป็นซีรีส์แนวล้างแค้นที่ฉันอยากลองมาโดยตลอด รู้สึกเหมือนเป็นการผจญภัยอีกครั้งในฐานะนักแสดงค่ะ
“ครั้งแรกที่ได้อ่านบท ในหัวฉันขาวโพลนไปหมด เพราะบทได้รับการเรียบเรียงอย่างสมบูรณ์แบบในตัวของมันแล้วโดยคุณคิมอึนซุก ขอแค่ฉันสื่อสารออกมาได้ดี ก็น่าจะทำให้ออกมาเป็นตัวละครที่สมบูรณ์แบบได้ค่ะ ที่ผ่านมาฉันรับบทในงานแนวเมโลดราม่าค่อนข้างเยอะ แต่ในเรื่องนี้ผู้ชมอาจจะได้เห็นการแสดงสีหน้าและอารมณ์ที่แปลกใหม่ไปจากผลงานเรื่องก่อนๆ นับเป็นประสบการณ์ที่ท้าทายสำหรับฉัน แต่ก็สนุกมากค่ะ”
อีโดฮยอน (18 Again, Youth of May) รับบทเป็น จูยอจอง ตัวละครที่ภายนอกดูสดใส อ่อนโยน ละเอียดอ่อน แต่ภายในกลับมีด้านมืดบางอย่างซุกซ่อนอยู่ โดยบทบาทนี้อาจดูเหมือนอยู่คนละขั้วกับดงอึนในช่วงแรก แต่ผู้ชมจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของมิติตัวละครมากขึ้น เมื่อปมต่างๆ เริ่มเผยออกมา
“ผมชื่นชอบนักเขียนบทคิมอึนซุกและผู้กำกับอันกิลโฮเป็นการส่วนตัวอยู่แล้วมากครับ ตอนที่ได้บทครั้งแรก ผมอ่าน 4 ตอนจบในรวดเดียวเลย ผมสงสัยว่าตัวละครจูยอจองจะเป็นคนแบบไหน เพราะเขาเป็นคนที่ไม่ค่อยแสดงออกมากเท่าไร สิ่งนี้จึงทำให้ผมยิ่งอยากรู้จักตัวละครนี้มากขึ้น และหวังว่าผู้ชมจะเข้าใจสิ่งที่ผมสื่อผ่านตัวละครนี้ด้วยครับ
อิมจียอน (Money Heist: Korea Part II, House of Lies) รับบทเป็น พัคยอนจิน ตัวการสำคัญที่คอยรังแกดงอึนในสมัยเรียน เพราะเกิดในครอบครัวที่ร่ำรวยและมีอำนาจ ต่อให้ทำผิดขนาดไหน สุดท้ายทุกคนก็ยังเข้าข้าง เวลาผ่านไปยอนจินได้แต่งงานและมีครอบครัวที่ดีอย่างที่ปรารถนา จนกระทั่งวันหนึ่งเธอได้รู้ความจริงที่น่าตกใจว่าดงอึนเป็นครูประจำชั้นของลูกสาวเธอ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการแก้แค้นเอาคืนอย่างสาสมของดงอึนที่เก็บสะสมมานาน
“ตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น พัคยอนจินมีความใฝ่ฝันอยากจะมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบและหรูหราไปตลอดชีวิต เธอจึงพยายามทำทุกอย่างเพื่อรักษามันไว้ มันค่อนข้างยากในตอนแรก เพราะฉันพยายามหาคำตอบว่าทำไมยอนจินถึงทำอะไรที่ชั่วร้ายแบบนั้นได้ ทั้งที่เธอเองก็ไม่เคยมีปมด้อยอะไร แต่คำตอบที่ฉันค้นพบก็คือมันเป็นเพราะความรู้ไม่เท่าถึงการณ์ เธอไม่รู้ว่าการทำร้ายผู้อื่นเป็นเรื่องที่ผิด ไม่เข้าใจว่าทำไมการที่ใจร้ายกับคนถึงเป็นเรื่องไม่ควร เพราะเธอเกิดมาในสภาพแวดล้อมที่เธอสามารถครอบครองทุกอย่างที่เธอต้องการ ไม่ต้องไขว่คว้าดิ้นรน และไม่ต้องแบกความรับผิดชอบ จึงทำให้เธอไม่รู้สึกผิด
“ครั้งแรกที่ได้อ่านบท ฉันอึ้งและอินกับบทมาก คิดเลยว่าสมแล้วที่เป็นผลงานเขียนของนักเขียนคิมอึนซุกค่ะ แต่ก็อดเซอร์ไพรส์ไม่ได้ว่านี่ใช่ผลงานของเธอจริงหรือ เพราะมันแตกต่างกับผลงานที่ผ่านมาของเธอ และไม่ใช่แนวเมโลดราม่าด้วยค่ะ นี่เป็นครั้งแรกที่ฉันรับบทตัวร้าย ซึ่งเป็นบทที่อยากเล่นมานานแล้ว ฉันจะลองท้าทายกับมันดูค่ะ”
ผู้กำกับ อันกิลโฮ ได้พูดถึงการตัดสินใจร่วมงานในครั้งนี้ว่า “ผมคิดว่าซีรีส์เรื่องนี้พูดถึงหลายๆ ประเด็น ตอนแรกที่ได้รับข้อเสนอให้กำกับผลงานเรื่องนี้ ผมรู้สึกเป็นเกียรติมากที่ได้ร่วมงานกับนักเขียนบทคิมอึนซุก และตัวบทของซีรีส์เองก็น่าสนใจและน่าสนุกทีเดียว อีกทั้งยังจะได้ร่วมงานกับทีมนักแสดงฝีมือดี จึงไม่มีเหตุผลใดให้ผมต้องปฏิเสธไม่ร่วมงานด้วยเลยครับ
“สำหรับซีรีส์เรื่องนี้ ถ้าผู้ชมได้ดูจนจบหนึ่งรอบแล้ว ผมเชื่อว่าถ้าดูซ้ำรอบที่สองหรือสาม คุณจะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ จากซีรีส์เรื่องนี้แน่นอน พวกเราทุกคนตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ และยังได้นักแสดงและทีมงานเก่งๆ มาร่วมงานมากมายด้วย ผมรู้สึกขอบคุณมากๆ ครับ”
The Glory จะแบ่งออนแอร์เป็น 2 พาร์ต พาร์ต 1 จะพรีเมียร์ในวันที่ 30 ธันวาคมนี้ ส่วนพาร์ต 2 มีกำหนดพรีเมียร์ในเดือนมีนาคม ปี 2023 ทาง Netflix
ภาพ: Netflix