start-up-ep-13

Start-Up EP.13 ใครกันแน่ที่เป็น Comfort Zone ของซอดัลมี

Start-Up EP.13 เรียกว่าตัดจบแบบราดทิงเจอร์ลงบนแผลที่เหวอะหวะ เพราะขณะที่เส้นเรื่องด้านธุรกิจสตาร์ทอัพดำเนินไปถึงความสำเร็จ การเริ่มต้นใหม่กับโปรเจกต์ทาร์ซาน ระบบขับเคลื่อนอัตโนมัติที่ต่อยอดจาก AI ด้วยการใช้คอมพิวเตอร์ขับขี่แทนมนุษย์ ซัมซานเทคกลับมาจากซิลิคอนวัลเลย์พร้อมลุคที่เปลี่ยนไป จนน่าสงสัยว่าไปเป็นนายแบบหรือวิศวกรคอมพิวเตอร์กันแน่ ส่วนฮันจีพยองก็ได้เลื่อนตำแหน่งขึ้นเป็นผู้อำนวยการ SH

อย่างหนึ่งที่เด่นชัดมากๆ ในอีพีนี้คือพื้นฐานของตัวละครที่สะท้อนให้เกิดขึ้นของเหตุการณ์ในเรื่อง โดยเฉพาะนัมโดซานและฮันจีพยอง กับความรักของซอดัลมี ซึ่งเราอยากจะวิเคราะห์สองตัวละครนี้ดูสักหน่อย เผื่อว่าอีพี 14 ที่เดาว่าจะมีจุดพลิกผันสำคัญ เราจะได้เตรียมใจรับมือไหว

start-up-ep-13

ฮันจีพยอง กับโอกาส 50-50 ที่จะชนะ

ยองชิลยังคงเป็นเพื่อนรักเพียงคนเดียวของฮันจีพยอง หลังจากอัปเกรดก็กลับมาพร้อมการทำนายดวงชะตาอีกครั้ง และทำให้เห็นว่าภายใต้ความเป็นคนเฉียบขาดเรื่องงานและธุรกิจ ฮันจีพยองกลับไม่กล้าเดินเกมเรื่องความสัมพันธ์ เพราะ 3 ปีที่ผ่านมา เขาดูเหมือนเขยิบเข้ามาเป็นคนใกล้ชิดในครอบครัวมากกว่าจะเป็นคนใกล้ชิดของซอดัลมี

อะไรคือเหตุผลที่เขามีจุดอ่อนเรื่องนี้ เพราะการเติบโตมาเพียงลำพัง กับปมอดีตของความกำพร้าที่ยังไม่ได้เปิดเผย นี่คือปมปัญหาที่เกิดจากการที่ต้องระวังตัวเอง กันออกจากความสัมพันธ์เพราะกลัวการถูกทิ้งอีกครั้งหรือเปล่า

ซึ่งถ้าเป็นอย่างนั้นจริงๆ ก็นับว่าฮันจีพยองเป็นตัวละครที่แตกร้าวอยู่ภายใน แต่ไม่เคยแสดงออกมา ยกเว้นกับคุณย่าที่เขากล้าเปิดให้หมดหัวใจถึงความอ่อนแอและความรู้สึกทั้งมวล ซึ่งความรักที่เขามีต่อคุณย่า ไม่มากก็น้อยส่งผลต่อความรู้สึกที่เขามีให้กับซอดัลมีอย่างช่วยไม่ได้

และอย่าลืมว่าฮันจีพยองที่เขียนจดหมายหาซอดัลมีนั้น แม้จะบอกว่าเขียนส่งๆ ตามที่คุณย่าบอกให้ทำ แต่การยังคงเขียนจดหมายติดต่อกัน 1 ปีไม่มีขาดก็คงเกินคำว่าทำตามคำสั่งไปแล้ว และเอาเข้าจริงๆ ซอดัลมีก็อาจเป็นเพื่อนวัยใกล้เคียง (ในตอนนั้น) เพียงคนเดียวที่ฮันจีพยองมีด้วยซ้ำ

อีกหนึ่งข้อสังเกตในอีพีนี้คือการเรียกชื่อ จากเดิมที่ฮันจีพยองเรียกชื่อเต็มซอดัลมี พอมาอยู่ Sand Box ก็เรียกให้เกียรติตลอดว่าประธานซอ แต่ฉากในบ้านอีพีนี้เขาเรียกเธอว่า ดัลมีชี (แปลว่าคุณดัลมี) ที่แม้จะมี ชี แต่นามสกุลหายไปแล้ว ระดับภาษานี้แสดงให้เห็นว่ามีความสนิทสนมขึ้น ส่วนซอดัลมี เมื่อก่อนเรียกฮันจีพยองแบบให้เกียรติด้วยตำแหน่งหัวหน้าทีม ส่วนตอนนี้เธอเปลี่ยนไปเรียกผู้อำนวยการตามตำแหน่งใหม่ของเขา ซึ่งเหมือนจะเป็นการบอกใบ้ให้รู้ว่าความรู้สึกของซอดัลมีไม่พัฒนาขึ้นเลย

ในตอนนี้เราไม่รู้หรอกว่าบทสรุปจะเป็นอย่างไร แต่นักเขียนพัคได้ก็ได้เปิดทางลงมาให้แล้วผ่านบทพูดของฮันจีพยองที่บอกกับซอดัลมีว่า “ผมสู้สุดความสามารถ และยอมรับความจริงเมื่อแพ้” ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย แนะนำว่า #ทีมฮันจีพยอง ควรเตรียมผ้าเช็ดตัวไว้ซับน้ำตาก่อน เตือนแล้วนะ!

นัมโดซาน กับการทำเรื่องเข้าใจผิดให้กลายเป็นจริง

3 ปีผ่านไป นัมโดซานก็มาในลุคที่ใช่มาก โททัลลุคสีดำล้วน และยังคงมีความสุขในการคุยกับ Coding ภาษาคอมพิวเตอร์ เขาทำเป็นลืมซอดัลมีด้วยการไม่กลับไปเกาหลีช่วงวันหยุด ไม่ติดต่อ ไม่สนใจข่าวสาร แต่ก็ชัดเจนว่าเขาพร้อมจะทิ้งทุกอย่างทันทีเพื่อไปช่วยเธอในยามคับขัน ทั้งที่ในตอนแรกถอดใจด้วยการดึงป้ายความตั้งใจออกจาก Sand Box ไปแล้ว

อย่างหนึ่งก็คือการเปลี่ยนแปลงของนัมโดซานที่เกิดขึ้น ทั้งการแต่งตัว การงาน รวมถึงบุคลิกภาพที่ไม่ใช่หนุ่มเนิร์ดปล่อยตัว ไม่กล้าสบตาคน หลังค่อมๆ อย่างแต่ก่อน การเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากการทำงานที่ซิลิคอนวัลเลย์หรอก แต่เป็นเพราะซอดัลมีต่างหากที่ผลักดันให้เขาเป็นตัวเองในเวอร์ชันที่ดีที่สุดให้ได้ เพื่อที่เธอจะไม่เสียใจจากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นเมื่อ 3 ปีก่อน

ตัวละครนัมโดซานมีความมุ่งมั่นเป็นนิสัยส่วนตัว เวลาทำอะไรคือเต็มร้อย ทั้งความพยายามแก้ไฟล์แฮกเกอร์ให้ชอลซานในอีพีแรกๆ ที่แม้เพื่อนจะถอดใจไปแล้ว แต่เขายังมุ่งมั่นทำจนสำเร็จ หรือการถักนิตติ้งที่ปูมาตั้งแต่แรกว่าเป็นงานอดิเรกที่เขาชอบ ซึ่งการถักนิตติ้งเป็นงานที่ทำไปเรื่อยๆ แบบที่ไม่ใช่ว่าใครทุกคนจะทำได้ มันต้องอาศัยความตั้งใจและการมีสมาธิไม่ใช่น้อย นั่นทำให้นัมโดซานเป็นคนที่มีความพยายามเพื่อให้ได้มา

และในตอนนี้เมื่อปมชีวิตเรื่องคำโกหกในการแข่งขันคณิตศาสตร์โอลิมปิกวัยเด็ก ปมพ่อกับลูกชาย ปมความล้มเหลวในหน้าที่การงานต่างผ่านพ้นไปหมดแล้ว ก็เท่ากับว่านัมโดซานมีเพียงซอดัลมีที่เป็นความตั้งใจสูงสุดในตอนนี้

และเท่าที่ทำความรู้จักนัมโดซานมา 13 อีพี ก็เชื่อได้ว่าเขาเป็นตัวละครที่ยืนอยู่บนแฟร์เกมเช่นเดียวกับฮันจีพยอง ถ้าพ่ายแพ้ก็จะยอมรับคำตัดสิน ซึ่งจากตัวอย่างในอีพี 14 ก็ยังเดาทางไม่ได้ว่าเรื่องราวจะจบลงอย่างไร

start-up-ep-13

เพราะปัญหาในตอนนี้คงอยู่ที่ตัวคนกลางอย่างซอดัลมีที่รู้ใจตัวเอง แต่อาจไม่แน่ใจด้วยเวลาที่ทิ้งระยะห่างนานถึง 3 ปี หรือพอเป็นเรื่องความรัก หญิงสาวที่เพิ่งรู้จักรักครั้งแรกก็คงยากจะตัดสินใจ เอาจริงๆ ชีวิตคนเรานี่ก็แปลก ถ้าไม่ใช่ในซีรีส์พาฝัน อะไรก็เกิดขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็นความรักที่กลับกลายเป็นตรงข้าม หรือความรักที่ใสสะอาดแต่ไม่ได้ครองคู่

ซึ่งทั้งหมดทั้งมวล ถ้านักเขียนพัคฮเยรยอนไม่ได้เลือกเส้นทางตามขนบมากเกินไป เราอาจได้เห็นทิศทางใหม่ๆ ของซีรีส์เกาหลีที่บทสรุปอาจไม่ใช่แฮปปี้เอนดิ้งก็เป็นไปได้

ติดตามเนื้อหาสนุกๆ ของ ‘ดูซีรีส์ให้ซีเรียส’ ได้ที่ช่องทางต่างๆ ดังนี้
Facebook: TheSeriousSeries.TH
Twitter: TheSeriousSerie
YouTube: The Serious Series
Website: Theseriousseries.com
สมัครสมาชิกเพื่อรับข่าวสารและสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ Link นี้