ทำความรู้จัก ‘คิมซอนโฮ’ จากซีรีส์ Start-Up กับเหตุผลที่เราต้องอยู่ทีมฮันจีพยอง
นาทีนี้คงไม่มีใครฮอตไปกว่า คิมซอนโฮ นักแสดงจาก Start-Up ซีรีส์ที่มาแรงแซงทุกโค้งในตอนนี้ กับเรื่องราวที่พูดถึงการก่อร่างสร้างตัวของคนรุ่นใหม่ที่หวังจะเป็นเจ้าของธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยได้สองนักแสดงนำที่การันตีเรตติ้งพุ่งได้เลยอย่าง แบซูจี และนัมจูฮยอก เจอสองคนนี้เข้าไปแล้วใครจะมองข้ามซีรีส์เรื่องนี้ได้ลงคอ
แต่ประเด็นมันอยู่ตรงที่การเล่าเรื่องใน 2 อีพีแรกที่นอกจากการปูเรื่องราวชีวิตสุดดราม่าของนางเอกอย่างซอดัลมีแล้ว ตัวละครสำคัญที่ลืมไปไม่ได้เลยก็คือ ฮันจีพยอง เด็กหนุ่มสู้ชีวิตผู้ไม่ย่อท้อต่อโชคชะตา รักแรกของซอดัลมี หนุ่มน้อยของคุณย่า นักเทรดหุ้นรุ่นเยาว์ ผู้ที่เติบโตขึ้นมาด้วยตัวเองและยังประสบความสำเร็จตั้งแต่ยังหนุ่ม รับบทโดย คิมซอนโฮ
ก่อนที่คิมซอนโฮจะได้รับเลือกมาแสดงในซีรีส์เรื่องนี้ ผู้กำกับเคยให้เหตุผลไว้ว่าเป็นเพราะเขาดูรายการวาไรตี้ 2 Days 1 Night ที่คิมซอนโฮเป็นหนึ่งในสมาชิกหลัก เขาชื่นชอบมากจนกระทั่งมีความสนใจและอยากเจอตัวจริงสักครั้ง “ผมคิดว่าแฟนวาไรตี้ของเขาจะชอบซีรีส์เรื่องนี้นะครับ ผมไปพบกับโปรดิวเซอร์รายการนี้มาด้วยเพื่อที่จะทำความรู้จักเขาให้มากขึ้น ซึ่งผมก็พบว่าเขาเป็นคนที่น่าสนใจและน่ารักมาก”
3 อีพีผ่านไป เราคิดว่าฮันจีพยองถือว่าเป็นพระรองที่เป็นตัวดำเนินเรื่องหลักเลยก็ว่าได้ เพราะเป็นทั้งผู้ที่กุมความลับ (เป็นเจ้าของจดหมายตัวจริงที่ส่งให้ซอดัลมี) และเป็นผู้ที่จะมอบกุญแจแห่งความสำเร็จให้กับนัมโดซาน (เป็นนายทุนที่จะทำให้นัมโดซานกลายเป็นสตาร์ทอัพหน้าใหม่ของวงการ) แต่กลิ่นความผิดหวังของรักข้างเดียวก็เริ่มโชยมาไกลๆ เมื่อนัมโดซานตัวจริงปรากฏตัวต่อหน้าซอดัลมีในรูปลักษณ์สุดเพอร์เฟกต์
แล้วในเมื่อรู้ทั้งรู้ว่านางเอกต้องคู่กับพระเอกอยู่วันยังค่ำ แต่ทำไมเราถึงยังเอาใจช่วยพระรองกันอยู่ล่ะ
ถ้าจะว่ากันด้วยเหตุผลทางวิทยาศาสตร์ มีงานวิจัยชิ้นหนึ่งที่เกี่ยวกับ Underdog Effect เขาบอกว่าตามธรรมชาติของมนุษย์นั้นมีสัญชาตญาณการเอาตัวรอดอยู่ เราจึงมักจะให้ความสนใจคนที่มีโอกาสชนะมากกว่าโดยอัตโนมัติ แต่ในบางครั้งสมองก็ทำงานอีกแบบโดยการหลั่งสารออกซิโทซินออกมา ทำให้เราเกิดความเห็นอกเห็นใจมากขึ้น ยิ่งเขามีโอกาสจะแพ้ เรายิ่งอยากเอาใจช่วย ซึ่งอาจเป็นเพราะเราเอาตัวเองไปแทนความรู้สึกเขาในสถานการณ์นั้นๆ เทียบเคียงได้กับซีรีส์ที่เราดูกัน ที่หลายครั้งเราก็เลือกที่จะเชียร์พระรองมากกว่า เพราะความที่เขาต้องใช้หัวใจต่อสู้เพื่อให้ได้สิ่งใดสิ่งหนึ่งมานั่นเอง
และสำหรับใครที่หลงรักคิมซอนโฮจากเรื่องนี้ เราจะพาทุกคนมาทำความรู้จักเขาให้มากขึ้นกัน 🙂
คิมซอนโฮเข้าวงการในปี 2017 ตอนที่อายุ 31 ปี (ปัจจุบันอายุ 34 ปี) อ่านแล้วสงสัยใช่ไหมว่าเขาไปอยู่ที่ไหนมา ทำไมเพิ่งจะมาเดบิวต์เอาตอนนี้ ก็เพราะว่าก่อนจะมาเป็นนักแสดงในซีรีส์ คิมซอนโฮเป็นนักแสดงละครเวทีมาก่อนถึง 8 ปี
ที่เกาหลีนั้นผู้คนไปดูละครเวทีกันเป็นเรื่องปกติเหมือนกับเราไปดูหนังหรือดูคอนเสิร์ต หรืออาจพูดได้ว่าถ้าอยากดูเมื่อไหร่ก็มีให้เลือกชมได้ทุกวัน (แม้กระทั่งช่วงโควิดแบบตอนนี้) เพราะมีโรงละครทั้งเล็กและใหญ่อยู่นับร้อย จนถึงขั้นที่มีอาชีพ ‘นักแสดงละครเวที’ โดยเฉพาะเลยทีเดียว แถมนักแสดงดังๆ หลายคนก็เริ่มต้นจากการเป็นนักแสดงละครเวทีเช่นกัน เช่น โชจองซอก, จูวอน, ชอนมีโด และคังฮานึล
คิมซอนโฮเริ่มเล่นละครเวทีครั้งแรกสมัยอยู่มหาวิทยาลัย แล้วเขาก็หลงรักมันตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา โดยอยู่ในวงการนี้มาตั้งแต่ปี 2009 แสดงละครเวทีมาก็หลายเรื่อง อย่างเรื่องล่าสุดก็คือ Memory in dream ในปี 2019 ซึ่งเป็นการหวนคืนเวทีอีกครั้งหลังจากมีผลงานทางโทรทัศน์ไปแล้ว
และอย่างที่ใครๆ ก็น่าจะรู้ว่าการแสดงละครเวทีนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องแสดงสด ร้องเพลงได้ ใช้สมาธิสูง จำบทยาวเหยียด แถมยังสั่งคัตไม่ได้อีก ซึ่งเหล่านี้เป็นสุดยอดทักษะที่นักแสดงที่ดีควรจะมี จนมาถึงวันหนึ่งที่การแสดงของคิมซอนโฮไปเตะตาโปรดิวเซอร์เข้า จึงได้รับโอกาสให้มาแคสต์ซีรีส์เรื่องแรก Chief Kim และมีผลงานตามมาติดๆ อีก 2 เรื่องในปีเดียวกันคือ Ultimate Deliveryman และ Two Cops ต่อด้วยผลงานแบบยิงยาวต่อเนื่องเรื่อยมา ที่หลายคนน่าจะเคยดูกันก็เช่น 100 Days My Prince, Welcome to Waikiki 2 และ Catch The Ghost
แต่ถ้าจะพูดถึงความโดดเด่นเฉพาะตัว ส่วนตัวคิดว่าคิมซอนโฮมีเซนส์คอเมดี้ที่ดีมาก แต่บทจะดราม่าก็น้ำตาสั่งได้เหมือนกัน เรียกว่าเป็นนักแสดงคุณภาพคนหนึ่งเลยล่ะ และสำหรับคนที่อยากดูผลงานเรื่องเด็ดๆ ของคิมซอนโฮ ดูซีรีส์ให้ซีเรียส คัดมาให้แล้วแบบเน้นๆ ไม่ต้องสุ่ม ลองตามไปดูกันได้ รับรองว่าสนุก!
You Drive Me Crazy! (2018)
ซีรีส์สบายๆ ดูง่าย 2 ตอนจบ ว่าด้วยพล็อตอันแสนคลาสสิก ผู้หญิงกับผู้ชายจะเป็นเพื่อนกันอย่างบริสุทธิ์ใจได้จริงไหม แล้วถ้าวันหนึ่งดันเผลอใจไปมีอะไรกันขึ้นมา ความสัมพันธ์ฉันเพื่อนของทั้งคู่จะเดินหน้าต่อไปอย่างไร หรือต่อให้อยากจะคบกันจริงจัง มันจะเป็นไปได้ไหมถ้าคำว่าเพื่อนมันค้ำคอ
ดูตัวอย่างซีรีส์ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=uY6VFshRi84
Welcome to Waikiki 2 (2019)
ซีรีส์เบาสมองที่แท้จริง ถ้าคุณอยากหัวเราะ รับรองว่าดูเรื่องนี้ไม่มีผิดหวัง เมื่อธุรกิจเกสต์เฮาส์กำลังจะเจ๊งเพราะไม่มีลูกค้า แก๊งเพื่อน 3 หนุ่มจึงต้องออกไปทำงานหาเงินเพื่อเลี้ยงชีพและจุนเจือธุรกิจ แต่ไม่ว่าจะไปไหนหรือทำอะไร เรื่องราวสุดป่วงก็ตามติดไปทุกครั้ง กลายเป็นเรื่องราวที่ทำเอาคนดูขำกันแบบไม่พักในทุกๆ อีพี
ดูตัวอย่างซีรีส์ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=-VU4sKzRRhQ
Catch The Ghost (2019)
ครั้งแรกกับการก้าวขึ้มานเป็นพระเอกแบบเต็มตัว แต่ก็ยังไม่ทิ้งลายคอเมดี้เล็กๆ ซึ่งเป็นความถนัด เรื่องราวของสองคู่หูตำรวจรถไฟใต้ดิน คนหนึ่งเป็นพวกเป๊ะกฎระเบียบ แต่อีกคนกลับชอบสร้างปัญหา แล้วจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อคู่หูคู่นี้ต้องมาตามล่าฆาตกรในคดีสุดสะเทือนขวัญอย่างการฆาตกรรมต่อเนื่องในรถไฟใต้ดิน แม้พล็อตจะฟังดูโหดๆ แต่ซีรีส์ก็ทำออกมาแบบดูสนุก ไม่ซีเรียสอย่างที่คิด เด็กดูได้ ผู้ใหญ่ดูสนุก
ดูตัวอย่างซีรีส์ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=Ec9Gsf1T33Q