My Liberation Notes EP.13 สุดท้ายของความอดทน ที่มันจะมีอะไรสักอย่างให้เราใช้ชีวิตอยู่ต่อไปได้
My Liberation Notes EP.13 พาเราไปรู้จักชีวิตจริงๆ ของคุณกูที่อยู่ในด้านมืดมนมากกว่าที่คาดคิด เขาเป็นผู้ดูแลคลับที่ใช้ชีวิตผสมปนเปทั้งช่วงกลางคืนกับกลางวัน มืด-สว่างจนเหมือนไม่มีเวลาตื่นหรือนอน
เราได้เห็นบาดแผลในใจของเขาผ่านการที่ไม่ชอบเสียงดัง ไม่ชอบการมีเวลาว่าง และยังคงคิดถึงมีจองอยู่ในแทบทุกเวลานาที ดูเขาสิ้นหวังกับชีวิต และเพียงแค่ใช้เวลาตรงหน้าผ่านไปวันๆ กับการทำงานที่เปรียบเหมือนอยู่ชั้นใต้ดินอันมืดมิด พอๆ กับความรู้สึกของเขา
ชางฮี ที่ตัดสินใจลาออกหลังจากทำงานที่นี่มาเป็นระยะเวลา 8 ปี เขาคงเหมือนกับมนุษย์เงินเดือนวัยหนุ่มสาวทุกวันนี้ที่ใจอยากจะลาออกจากงานที่ทำ เพราะไม่ไหวจะอดทนกับสิ่งที่ต้องเผชิญ “รอหลังพักร้อนก่อน รอหลังวันชูซอกแล้วกัน รอให้ถึงฤดูใบไม้ร่วงก่อน” การผัดวันประกันพรุ่งก็เหมือนกับการพยายามต่อสู้กับตัวเองในการอดทนว่า ระหว่างตัวเรากับชีวิตที่สู้กลับ สิ่งไหนจะทนทานกว่ากัน
แม่ ที่สุดท้ายก็ได้เปิดเผยความในใจถึงความปวดร้าวจากการไม่เคยได้หยุดพัก ความเป็นห่วงที่เธอมีต่อลูกๆ และสามี การที่ต้องทำงานทั้งในบ้านและช่วยงานครอบครัว หนำซ้ำยังต้องทำกับข้าว ล้างจานชาม ซักรีดเสื้อผ้า จนไม่รู้ว่าวันหยุดของตัวเองยังมีอยู่จริงไหม นี่คือความเป็นแม่ที่อดทนที่สุดเพื่อคนอื่น และหวังว่าวันหนึ่งจะได้ปลดความหนักอึ้งลงจากบ่า
และความอดทนต่อการมีชีวิตอยู่เพียงลำพังของ มีจอง ที่แม้จะบอกกับตัวเองว่าพร้อมตายในทุกวัน แต่ขณะเดียวกันก็ยังคอยบอกกับตัวเองว่าเขาจะกลับมาวันนี้ ความอดทนที่จะมีชีวิตต่อไปที่แข็งแรงขึ้น จากการเชิดชูและความหวัง
ความอดทนในรูปแบบหนึ่งคือเรื่องของหัวใจที่คนเรามีไม่เท่ากัน บางคนยืดหยุ่นกับมันพอจะทำให้การดึงรั้งเป็นไปได้เรื่อยๆ บางคนปล่อยให้ดึงจนสุดแรง ยืดยาด และแห้งแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยในที่สุด
บางครั้งเราก็อยากให้มีใครสักคนมาดึงเราออกไปจากความอดทนนี้ คนที่บอกเราว่า “พอเถอะ” “ที่ผ่านมาเราทำได้ดีแล้ว” “ปล่อยมันไป ให้ใจเราได้พักผ่อนบ้าง”
และบางครั้ง กว่าเราจะรู้ตัวว่ามันเกินทน…ก็มักจะสายไปแล้ว