my-liberation-notes-our-blues

Our Blues และ My Liberation Notes EP.1-2 ซีรีส์ชวนหาคำตอบว่า… ชีวิตที่ดีคืออะไร

Our Blues และ My Liberation Notes จริงๆ แล้วเป็นสองซีรีส์ที่มีความคล้ายคลึงกันอย่างมาก ตรงที่เราล้วนเป็นชีวิตเล็กๆ เงียบเหงา ใช้ทุกวันเพื่อพยายามมีชีวิตที่ดี แต่คำถามคือ… อะไรล่ะคือชีวิตที่ดี?

our-blues

Our Blues EP.1-2 เปิดฉากด้วยการปูพื้นตัวละครจำนวนมากมายให้พวกเราได้รู้จัก ผ่านการย้ายกลับมาทำงานที่บ้านเกิดของ ฮันซู ที่ย้ายมาเป็นผู้จัดการธนาคารที่สาขานี้ พร้อมพบเพื่อนเก่าในงานคืนสู่เหย้า เขาพบว่าแม้จะดิ้นรนจนตัวเองได้ดีที่โซล มีหน้าที่การงาน ครอบครัว แต่จริงๆ แล้วเขายังไม่ประสบความสำเร็จเลยกับการเป็นลูกชายคนโตของครอบครัว หรือหัวหน้าครอบครัวที่ใครจะเชื่อมั่นได้ 

การแสดงของ ชาซึงวอน สะท้อนให้เห็นความอึดอัดในใจ ที่เชื่อว่าโอกาสยังเป็นของเขาและครอบครัว ถ้าหากหาเงินได้อีกสักก้อนเพื่อต่ออายุการเรียนกอล์ฟของลูกสาวที่อเมริกา แต่การบากหน้าไปขอยืมเงินจากรักแรกก็ดูเป็นการทรยศความรู้สึกของเพื่อน และตัวเขาเองคงไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรให้ยึดเหนี่ยวอีกแล้ว

ซีรีส์ Our Blues นอกจากทำให้เราได้เห็นภาพทะเลมุมกว้างๆ ชายหาดพระอาทิตย์ตกดินสีชมพูฟุ้งๆ น้ำทะเลสีฟ้าใส ยังทำให้ได้เห็นทะเลในสภาพอากาศที่แตกต่างกันไป เช่นเดียวกับชีวิตของผู้คนบนเกาะเซจูที่ล้วนแตกต่าง และต่างเผชิญกับมรสุมชีวิตในคนละรูปแบบ




my-liberation-notes
my-liberation-notes

..

My Liberation Notes EP.1-2 ก็มีความหม่นเศร้าในอีกรูปแบบ เรื่องราวของ 3 พี่น้องครอบครัวหนึ่งในเมืองคยองกี ที่ทุกๆ วันต้องเดินทางไกลเข้าเมืองหลวงเพื่อทำงานหาเลี้ยงชีพ ยอมกีจอง พี่สาวคนโตที่กำลังเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของวัยสาว และยังไม่มีใครให้รัก เพราะทุ่มเทเวลาทั้งหมดให้การทำงานไปแล้ว, ยอมชางฮี ลูกชายคนกลางที่ใช้ชีวิตผ่านไปวันๆ ทำงานเป็นเจ้าหน้าที่เทคนิคร้านสะดวกซื้อ 

และยอมมีจอง น้องสาวคนเล็กพูดน้อย กราฟิกดีไซเนอร์ในบริษัทใหญ่ที่กำลังจะแหลกสลายจากทุกข์ของการทำงาน ชีวิตตามระบบที่แสนเงียบเหงา ความขาดแหว่งในตัวตนที่ไม่รู้จะตามหาอะไรมาเติมเต็ม ความรู้สึกเหนื่อยที่สะสมจนไปต่อไม่ไหว และยังหาเหตุผลไม่ได้

ทุกๆ วัน ยอมมีจองแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าสีเรียบ ขึ้นรถเมล์และรถใต้ดินด้วยสายตาว่างเปล่า ภาพฉายให้เห็นมีจองที่เดินอยู่ในเมืองท่ามกลางผู้คนมากมาย แต่กลับได้ความรู้สึกที่โดดเดี่ยวเปลี่ยวเหงาขึ้นมาจับใจ

จนถึงปลาย EP.2 ที่มีจองก็ระเบิดอารมณ์ออกมาเป็นครั้งแรกกับ คุณกู ชายหนุ่มลึกลับที่มาช่วยงานที่บ้าน ด้วยการบอกกับเขาว่า ‘เชิดชูฉัน’ (추앙) ศัพท์ที่คุณกูเองยังต้องไปกดค้นหาในมือถือ ความหมายของมันคือ ชื่นชม ยกย่อง ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยได้รับ




my-liberation-notes

เรื่องของคนธรรมดาที่กำลังฝ่ามรสุมชีวิต

ซีรีส์ทั้งสองเรื่องมีเนื้อหาที่ออกไปในแนวทางเยียวยาจิตใจ ผ่านเรื่องราวของคนธรรมดาที่เป็นส่วนใหญ่ของสังคม

ในซีรีส์ Our Blues จะเห็นว่ามีทั้งชาวประมง เจ้าของโรงน้ำแข็ง แม่ค้าปลา ผู้จัดการธนาคาร ส่วน My Liberation Notes เล่าเรื่องราวของพนักงานออฟฟิศที่เป็นชนชั้นแรงงานหน้าคอมพิวเตอร์ ซึ่งถูกลดทอนคุณค่าด้วยการเป็นคนชายขอบชานเมืองที่มีโอกาสไม่เท่าคนที่มีที่พักในโซล 

ฉากหนึ่งที่มีคนถามมีจองว่าบ้านเธออยู่ที่ไหน พอเธอตอบชื่อเมืองไป เขาก็ทำสีหน้าสงสัย จนต้องเลือกตอบว่าเมืองคยองกี ที่ค่อยทำให้คนในโซลรู้จักขึ้นมาบ้าง แต่ถึงจะไม่ได้รังเกียจ แต่การที่มีจองมีบ้านอยู่ในที่ที่ไกลเกินจะสนใจ ก็เป็นการบีบให้เธอกลายเป็น ‘คนนอก’ ไปโดยปริยาย

ความเท่าเทียมไม่ได้มีอยู่จริงบนโลกใบนี้ และการที่ซีรีส์ทั้งสองเรื่องเล่าผ่านตัวละครที่อยู่ในสถานะส่วนใหญ่ของสังคมก็ดูจะเชื่อมโยงกับคนดูได้มากกว่า จากที่ซีรีส์ยุคก่อนเลือกเล่าถึงแฟนตาซีเชิงชนชั้น เจ้าหญิงเจ้าชาย มหาเศรษฐีกับยาจก คนสู้ชีวิตสุดรันทด ฯลฯ แต่กับ Our Blues และ My Liberation Notes คือเรื่องของผู้คนทั่วไปที่เผชิญปัญหาต่างๆ อย่างที่พบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน เพียงแต่ว่าพวกเขาเหล่านั้นเลือกจะทำอย่างไรกับปัญหานั้น และหาทางออกแบบไหน นั่นคือสิ่งที่เรารอคอยได้พบต่อจากนี้




our-blues

เวลาฟ้าสีหม่น จงรอคอยวันที่จะปล่อยใจสู่เสรี

Our Blues ใช้ชื่อภาษาไทยว่า ‘เวลาฟ้าสีหม่น’ ตรงกับความหมายในภาษาอังกฤษที่ Have the Blues คือความรู้สึกเศร้า หดหู่ คล้ายๆ ที่ฮันซูค้นพบว่าตำแหน่งผู้จัดการธนาคาร มีอพาร์ตเมนต์ มีรถสวยๆ ขับ แต่กลับยินดีกับชีวิตนี้ได้ไม่เท่า อึนฮี เพื่อนวัยเด็กที่ออกจากโรงเรียนไปเป็นแม่ค้าปลาในตลาด

ขณะเดียวกัน Our Blues ยังสะท้อนความหมายของสีน้ำทะเล และสีฟ้าของท้องฟ้า องค์ประกอบสำคัญของซีรีส์เรื่องนี้ที่ถ่ายทอดเรื่องราวบนเกาะเชจู 

My Liberation Notes ใช้ชื่อภาษาไทยว่า ‘ปล่อยใจสู่เสรี’ ความหมายตรงตัวของชื่อซีรีส์จึงแปลว่า บันทึกการปลดปล่อยสู่อิสระ ยอมมีจอง น้องสาวคนเล็กของครอบครัวย่านชานเมืองที่ไม่รู้ว่าชีวิตหมุนวนในแต่ละวันเพื่ออะไร การเดินทางในแต่ละวันจากบ้าน-ที่ทำงาน และจากที่ทำงาน-กลับบ้าน นับวันยิ่งแห้งแล้ง ขาดแรงบันดาลใจ ภายใต้ใบหน้าเรียบเฉย ยิ้มบ้างเพื่อเข้าสังคม จึงเหมือนการถูกกักขังที่รอคอยการปลดปล่อยให้ได้โบยบินอย่างเสรี 

น่าสนใจว่าซีรีส์ทั้งสองเรื่องยังคงเลือกใช้สรรพนามว่า ‘ของเรา’ และ ‘ของฉัน’ เชื่อมโยงกับคนดูในเชิงว่าเรื่องราวเหล่านี้เป็นของพวกเรา เป็นของเรา

my-liberation-notes

ติดตามเนื้อหาสนุกๆ ของ ‘ดูซีรีส์ให้ซีเรียส’ ได้ที่ช่องทางต่างๆ ดังนี้
Facebook: TheSeriousSeries.TH
Twitter: TheSeriousSerie
YouTube: The Serious Series
Website: Theseriousseries.com
สมัครสมาชิกเพื่อรับข่าวสารและสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ Link นี้