Hospital Playlist เท่าที่รู้… ความกดดันในแผนกสูตินรีเวชที่คนทางบ้านไม่อาจหยั่งรู้

ก่อน Hospital Playlist ซีซัน 2 จะออนแอร์ในอีกไม่กี่วัน ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ได้รับความเห็นจากผู้อ่านที่เป็นหมอเฉพาะทาง ‘สูตินรีเวช’ มาแชร์ประสบการณ์การทำงานซึ่งเชื่อมโยงกับเรื่องราวในซีรีส์ และทำให้เราเข้าใจมิติการทำงานของคุณหมอซอกฮยองมากขึ้น และรู้เลยว่าทำไมทุกเคสหรือทุกซีนการผ่าตัดของแผนกสูตินรีเวชถึงได้บีบหัวใจเหลือเกิน

ความคิดเห็นของคุณหมอมองว่า “หมอสูติฯ ต่างจากคุณหมอแผนกอื่นๆ ตรงที่หมอแผนกอื่นๆ จะรักษาให้อาการป่วยหายไป ซึ่งคนไข้รู้ว่าตัวเองเป็นโรคอะไร และทำใจในการรักษาต่างๆ มาระดับหนึ่ง

“แต่สำหรับหมอสูติฯ ต้องดูแลรักษาคุณแม่ตั้งครรภ์ภายใต้ความคาดหวัง หวังว่าลูกจะเกิดมาครบ 32 เป็นเด็กที่แข็งแรงครบถ้วน ซึ่งในความจริงแล้วเป็นไปไม่ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์อย่างที่คาดหวัง ดังนั้นการดูแลตลอด 9 เดือนจึงอยู่ภายใต้ความคาดหวัง แล้วพอพ่อแม่ผิดหวัง หรือเกิดความผิดพลาดที่อยู่เกินขอบเขตความสามารถของแพทย์ ความกดดันจะไปตกอยู่บนบ่าของหมอสูติฯ จนเกิดการฟ้องร้องมากมายตามมา”

ซึ่งถ้ามองในมุมนี้แล้วก็จะสะท้อนให้เห็นหลายฉากในซีรีส์ Hospital Playlist ที่คนไข้ต่างเลือกมาฝากครรภ์กับหมอซอกฮยองเพราะความใส่ใจของเขา จนมีคนไข้หลายคนที่บ่นเรื่องการรอคอยให้เห็นด้วย

ส่วนฉากที่กลายเป็นความทรงจำก็คือฉากที่คุณหมอซอกฮยองดูแลการผ่าตัดคุณแม่ที่ลูกไม่มีสมองอย่างใกล้ชิด และใส่ใจกระทั่งรายละเอียดที่ใครๆ ก็นึกไม่ถึง

“ฉากที่เราประทับใจที่สุดของหมอซอกฮยองและร้องไห้หนักมากที่สุดเช่นกันคือตอนคุณแม่คลอดลูกที่ไม่มีสมอง แล้วคุณหมอมาให้กำลังใจคุณแม่ ถึงแม้เหตุการณ์จะเลวร้ายที่สุดสำหรับคนเป็นแม่ แต่กำลังใจจากหมอทำให้แม่ไม่เจ็บปวดอยู่นาน และจะสู้เพื่อผ่านมันไปให้ได้

“ตามปกติแล้วหมอไม่จำเป็นต้องมาพูดกับแม่หลังทำคลอดเสร็จทันทีเลยก็ได้ค่ะ ค่อยไปคุยที่ตึกผู้ป่วยทีหลังก็ได้ ฉากนั้นจึงทำให้เรารู้สึกอิ่มเอมใจมากๆ”

ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ขอขอบคุณเรื่องราวที่คุณหมอร่วมแบ่งปันและทำให้เราเข้าใจความหมายลึกซึ้งที่ซีรีส์ Hospital Playlist มอบให้ จนตอนนี้ต้องขอย้อนกลับไปดูซีซั่น 1 อีกรอบ เพื่อสะสมความสุขและความประทับใจก่อนที่ซีซั่น 2 จะเดินทางมาถึง