คุยกับ ซออินกุก – พัคโซดัม กับการแสดงสุดท้าทายในซีรีส์โกงความตาย Death’s Game
Death’s Game หรือในชื่อภาษาไทย เกมท้าตาย ซีรีส์เกาหลีเรื่องล่าสุดจากแพลตฟอร์ม Prime Video ที่เพิ่งออนแอร์อีพีแรกไปเมื่อวันที่ 15 ธันวาคมที่ผ่านมา ต้องบอกว่าเป็นอะไรที่น่าจับตามอง เพราะพล็อตเรื่องมาในทรงของการโกงความตายที่น่าลุ้นระทึก มีความดราม่าของเรื่องราว ผสมผสานความแฟนตาซีที่เพิ่มความตื่นตาตื่นใจ
Death’s Game เล่าเรื่องราวของ ชเวอีแจ (รับบทโดย ซออินกุก) ชายหนุ่มธรรมดาๆ คนหนึ่งที่มีเป้าหมายว่าอยากจะประสบความสำเร็จในชีวิต มีงานที่มั่นคงพอจะสามารถเลี้ยงดูแม่และภรรยาได้ แต่เรื่องราวมันไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะเส้นทางชีวิตของเขาไม่ง่ายเอาซะเลย นอกจากสัมภาษณ์งานไม่ผ่านแล้วยังโดนโกงเงินจากเพื่อนสนิท ถูกไล่ออกจากบ้านเช่า และตัดสินใจเลิกกับภรรยา ความทุกข์ที่ถาโถมเหล่านี้ทำให้เขาตัดสินใจหนีปัญหาด้วยการฆ่าตัวตาย
แต่เพราะยังไม่ถึงเวลาตาย ชเวอีแจจึงถูกลงโทษจาก Death (รับบทโดย พัคโซดัม) ให้วิญญาณของเขากลับมามีชีวิตในร่างใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่าทั้งหมด 12 ครั้ง แต่ประเด็นคือแต่ละร่างนั้นทุกคนกำลังจะตาย และชเวอีแจต้องพยายามโกงความตายครั้งนั้นให้สำเร็จ ถ้าทำได้ก็จะสามารถใช้ชีวิตที่เหลือในร่างนั้นต่อไปได้
ดูซีรีส์ให้ซีเรียส มีโอกาสได้พูดคุยกับ ซออินกุก และ พัคโซดัม ถึงเบื้องลึกเบื้องหลังและความรู้สึกของพวกเขาในซีรีส์ Death’s Game ครั้งนี้
ความน่าสนใจของ Death’s Game ที่ทำให้พวกคุณตัดสินใจรับแสดงซีรีส์เรื่องนี้
ซออินกุก: สำหรับผม ผมเป็นแฟนคลับผลงานต้นฉบับที่เป็นเว็บตูนอยู่แล้วครับ ตอนที่รู้ว่าจะทำออกมาเป็นซีรีส์ก็ตั้งตารอมากๆ ดีใจมากๆ เลยครับที่ได้มารับบทชเวอีแจ
พัคโซดัม: ตอนที่ได้อ่านบทซีรีส์เรื่องนี้ ฉันก็ตั้งคำถามกับตัวเองเหมือนกันว่า ในฐานะของพัคโซดัมที่เป็นคนธรรมดาคนหนึ่ง ฉันใช้ชีวิตมาอย่างดีหรือเปล่า ฉันโอเคหรือยัง และมันยังทำให้ฉันคิดถึงคนรอบตัวที่มีความสำคัญกับฉันเยอะมากๆ เลยค่ะ คิดว่าผู้ชมหลายคนที่ดูซีรีส์เรื่องนี้แล้วน่าจะรู้สึกเชื่อมโยงไปกับมันได้อย่างมาก ฉันเองตอนที่อ่านบทครั้งแรกก็เสียน้ำตาไปเยอะมาก มันเป็นผลงานที่ทำให้รู้สึกว่าอยากทำให้ผู้ชมสัมผัสถึงความรู้สึกนี้ไปด้วยกันค่ะ
คาแรกเตอร์ของชเวอีแจในซีรีส์ Death’s Game ต้องเกิดใหม่ถึง 12 ชาติ โดยที่จิตวิญญาณภายในยังเป็นคนเดิม อยากรู้ถึงการเตรียมตัวเบื้องหลังว่า มีวิธีถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดแบบไหนให้ตัวละครออกมาสมบูรณ์แบบ แม้จะต้องเปลี่ยนตัวนักแสดงไปเรื่อยๆ
ซออินกุก: ต้องยอมรับว่าพวกเราทั้ง 12 คนไม่ค่อยมีเวลาได้เจอกันแบบตัวเป็นๆ เท่าไหร่ เท่าที่รู้ก็คือตอนอ่านบทเราก็แยกกันอ่านครับ แต่ผู้กำกับจะถ่ายวิดีโอไว้ แล้วก็จะแชร์ให้นักแสดงท่านอื่นๆ ฟังว่าตอนถ่ายทำกับผม ชเวอีแจมีภาพลักษณ์แบบไหนบ้าง มีวิธีการแสดงออกทางอารมณ์และท่าทางอย่างไร ผมก็ได้ยินมาว่าผู้กำกับก็จะช่วยบรีฟว่าอยากให้ชเวอีแจในแต่ละชาติออกมาแบบไหนด้วยครับ
ยมทูตแห่งความตาย หรือ Death เป็นคาแรกเตอร์ที่ดูมีพลังอำนาจ อยากรู้ว่าแง่มุมใดของตัวละครน่าสนใจที่สุด และคุณนำสิ่งเหล่านี้มารวมเข้ากับการแสดงได้อย่างไร
พัคโซดัม: ตอนที่ฉันอ่านบทครั้งแรก ถึงแม้ว่าฉันจะได้รับข้อเสนอให้เล่นบทยมทูตแห่งความตาย แต่ตัวละครที่ฉันสนใจที่สุดคือชเวอีแจค่ะ ฉันไหลไปกับความรู้สึกของเขาเลยก็ว่าได้ เรื่องราวมันก็เกิดขึ้นจากการที่ฉันอยากให้เขาได้ตระหนักรู้ถึงบาปของการฆ่าตัวตาย ก็เลยลงโทษเขา บทของฉันที่จะต้องตัดสินให้เขาตายและเกิดใหม่ถึง 12 ครั้งจึงเป็นอะไรที่ยากมาก
แต่ในความคิดของฉัน รู้สึกว่าตัวละครนี้เข้าใจความรู้สึกของชเวอีแจและสถานการณ์ที่เขากำลังเผชิญหน้าอยู่ได้ดีกว่าใคร ถึงแม้ว่าตัวละครของฉันจะไม่สามารถแสดงอารมณ์ความรู้สึกออกมาได้ แต่ฉันเข้าใจความรู้สึกของเขาค่ะ
สิ่งยากที่สุดและชอบที่สุดในการแสดงในเรื่องนี้
ซออินกุก: สำหรับความยาก ผมตอบได้แบบชัดเจนเลยครับ คือผมเป็นคนกลัวความสูงมาก เวลาขึ้นไปที่สูงๆ จะรู้สึกกลัว ตอนแรกผมไม่รู้มาก่อนว่าจะกลัวหนักขนาดนี้ แต่ซีรีส์เรื่องนี้ฉากที่ต้องใส่สลิงและยกตัวผมด้วยเครนขึ้นไปสูงมาก ตอนนั้นกลัวมากเลยครับ ไม่ใช่ว่าลำบากกายหรือใจ แต่การต้องก้าวผ่านช่วงเวลานั้นไปให้ได้มันยากมากเลยครับ ตอนถ่ายฉากนั้นยากที่สุดเลย
ส่วนจุดที่ชอบก็คือตลอดระยะเวลาที่แสดงเป็นชเวอีแจ ผมมีความสุขมาก ชเวอีแจเป็นตัวละครที่ผมชอบตั้งแต่ในเวอร์ชันเว็บตูน และการทำงานร่วมกับ ผู้กำกับฮาบยองฮุน (18 Again, Go Back Couple) ก็มีความสุขมากเช่นเดียวกัน ผมได้เห็นภาพผู้กำกับคอยให้คำแนะนำต่างๆ แบบน่ารักและมีมารยาทมาก บางทีก็มีคาริสมาสูง ผมเลยได้ถ่ายทำอย่างมีความสุขอยู่ข้างๆ ครับ
และในส่วนของคุณพัคโซดัม ที่จริงแล้วตัวละครอีแจกับยมทูตแห่งความตายเป็นความสัมพันธ์ที่เกลียดกันมาก ที่เกาหลีจะเรียกว่าความสัมพันธ์แบบนี้ว่า ‘ฮย็อมกวัน’ แต่เวลาแสดงก็คือแสดง พออยู่นอกฉากพวกเราก็สบายๆ เอาใจใส่กันระหว่างถ่ายทำครับ
พัคโซดัม: จุดที่ยากสำหรับฉันคือตอนที่อ่านบท รู้สึกว่าสงสารชเวอีแจมาก อยากจะกอดเขามาก และมันก็เป็นหน้าที่ของฉันในฐานะยมทูตแห่งความตายที่จะทำให้ชเวอีแจตระหนักได้จากการตายและเกิดใหม่ถึง 12 ครั้ง ซึ่งมันจะรู้สึกถึงความเจ็บปวดมากขึ้นเรื่อยๆ เวลาที่เขาร้องไห้คร่ำครวญต่อหน้าฉัน การที่ต้องลงโทษเขาอย่างต่อเนื่องในฐานะพัคโซดัมคนธรรมดา ฉันรู้สึกเจ็บปวดหัวใจมากและสงสารด้วย น่าจะเป็นเพราะฉันอินไปกับบทมากๆ ฉันชอบบทละครเรื่องนี้มากค่ะ
ส่วนจุดที่ชอบก็คือ ถึงแม้ว่าการข้ามผ่านสิ่งเหล่านั้นจะยากก็ตาม แต่ฉันก็ดีใจที่เป็นบุคคลที่ทำให้เขาตระหนักรู้ถึงจุดนั้นได้ค่ะ
ถ้าต้องเลือกระหว่างเกิดเป็นตัวเองได้อีก 12 ครั้ง กับเกิดเป็นคนอื่น 12 ครั้ง จะเลือกแบบไหน เพราะอะไร
ซออินกุก: ผมเลือกเกิดเป็นตัวเองอีก 12 ครั้งครับ เพราะถ้าเกิดเป็นคนอื่น 12 ครั้ง ผมรู้สึกว่าต้องฝ่าฟันสิ่งใหม่ทุกๆ ครั้งเลย ต้องเจอความยากใหม่ๆ ถึงแม้เราจะไม่รู้ว่าชีวิตจะเป็นยังไง แต่ถ้าเกิดเป็นตัวเอง 12 ครั้ง ผมก็จะรู้ดีอยู่แล้วว่าตัวผมมีข้อดีข้อเสียยังไงบ้าง เลยคิดว่าน่าจะใช้ชีวิตได้อย่างชาญฉลาดขึ้นเรื่อยๆ ครับ และผมก็รักตัวเองมากด้วยครับ
พัคโซดัม: ฉันก็เลือกเกิดเป็นตัวเองเหมือนกันค่ะ และฉันก็รักตัวเองเหมือนกัน ต่างคนก็ต่างรักตัวเอง แต่ก็มีบางทีเหมือนกันที่ฉันไม่เข้าใจตัวเอง และมีบางครั้งที่รู้สึกเสียดายกับสิ่งเล็กๆ น้อยๆ ถ้าได้รับโอกาสเกิดเป็นตัวเองถึง 12 ครั้ง น่าจะรู้สึกขอบคุณมากเลยค่ะ
Death’s Game เกมท้าตาย มีทั้งหมด 8 อีพี โดยจะแบ่งออนแอร์เป็น 2 พาร์ต โดยพาร์ตแรกมีให้ชมแล้ว 4 อีพี และครึ่งหลังอีก 4 อีพีจะออนแอร์รวดเดียวจบในวันที่ 5 มกราคม 2024 ติดตามชมพร้อมซับไทยได้ที่ Prime Video