Alchemy of Souls EP.15-16 ความกลัวที่ผลักดันเราไปข้างหน้า
Alchemy of Souls EP.15-16 เรียกได้ว่าเป็นช่วงคลื่นลมสงบก่อนที่ซีรีส์จะพุ่งทะยานไปสู่จุดพีคใน 4 อีพีสุดท้าย เรื่องราวได้มีการเปิดเผยปมต่างๆ ไปค่อนข้างมากจนพอจะคาดเดาความเป็นไปได้ ซึ่งสุดท้ายก็แล้วแต่ทีมสร้างว่าจะนำพาเรื่องราวไปสู่จุดไหน เพื่อเชื่อมต่อไปยัง Alchemy of Souls 2 ที่มีแผนว่าจะออกอากาศในครึ่งแรกของปี 2023
ประเด็นหนึ่งที่ Alchemy of Souls พูดถึงผ่านตัวละครต่างๆ ก็คือ ‘ความกลัว’ ที่แตกต่างไปในสถานะของแต่ละคน ทั้งจอมเวทย์ผู้ยิ่งใหญ่ ไปจนถึงนายน้อยจอมเสเพล หรือนักฆ่าที่สิ้นลายเป็นสาวรับใช้
มันเป็นความกลัวแบบไหนที่ผลักดันพวกเขาไปยืนอยู่บนหน้าผา และลองเสี่ยงเพื่อท้าทายว่าชีวิตจะพุ่งขึ้นไปได้ถึงจุดไหนกันแน่
จินมู กลัวไม่ได้รับการยอมรับ กลัวการไม่ได้ครอบครองอำนาจ
– จินมู รองหัวหน้าของชอนบุกวานที่ขึ้นมาทำหน้าที่แทนจางกัง หัวหน้าสำนักที่หายสาบสูญไปเกือบ 20 ปี
– โดยชาติกำเนิด เขาเป็นลูกชายของตระกูลจินที่เกิดนอกสมรส จึงไม่ได้รับการยอมรับจากญาติในตระกูลสายตรงมากนัก สิ่งนี้เป็นเหมือนบาดแผลและคำสบประมาทบางอย่างที่ทำให้เขาดิ้นรนเพื่อขึ้นไปให้พ้นการเป็นลูกนอกสมรส
– เพื่อขึ้นสู่อำนาจที่ยิ่งใหญ่ เขาใช้ความกลัวผลักดันตัวเอง ขณะเดียวกันก็ใช้ความกลัวเป็นตัวทำลายคนอื่น บีบบังคับคนอื่นให้ทำตาม ด้วยแต้มต่อที่เขามีวิชาแปรวิญญาณในการเปลี่ยนอนาคตของใครก็ได้
มูด็อก กลัวความรู้สึกตัวเองที่อ่อนแอและอ่อนไหว
– มือสังหารเงา ผู้หญิงที่ถูกมูจินเลี้ยงดูมาอย่างขาดวิ่น และต้องดิ้นรนเพื่อเอาตัวรอด
– เธอถูกปลูกฝังให้รู้เพียงว่าครอบครัวโดนสี่ตระกูลจอมเวทย์ทำลายจนสิ้นซาก
– หมุดหมายในชีวิตคือการแก้แค้น เป็นเพียงอย่างเดียวที่เธอยึดถือมาตลอด นั่นทำให้ความรู้สึกส่วนตัว ความอ่อนโยนที่ได้รับ ทั้งจากซอยูลในวัยเด็ก และจางอุคในวัยสาว เธอต่างพยายามต่อสู้และปฏิเสธมัน
– การที่มือสังหารเงาแปรวิญญาณเข้าในร่างของหญิงตาบอดที่ชื่อมูด็อก ก็เป็นความกลัวอย่างที่สุด เมื่อเธอรู้ว่าตัวเองสูญเสียความสามารถทั้งหมดไปแล้ว และภายในร่างนี้ เธอแทบทำอะไรไม่ได้เลย
– ความรู้สึกที่มีให้จางอุคที่เพิ่มขึ้นทุกวันๆ ทำให้มูด็อกกลัวตัวเองว่ากำลังพลาดให้กับความอ่อนไหวในจิตใจที่เธอไม่เคยเรียนรู้มันมาก่อน และขึ้นชื่อว่าความรัก มันยากเสมอ
จางอุค กลัวการไม่ได้อยู่กับมูด็อก
– จางอุคเคยพูดเอาไว้ว่า “ตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยมีใครรับรู้ความสิ้นหวังที่ข้ามี ไม่เคยมีใครเสี่ยงชีวิตให้ข้าได้อย่างที่เจ้าทำ”
– การที่จางอุคได้พบกับมูด็อก คนที่ยอมเป็นอาจารย์ให้ ในขณะที่จอมเวทย์ทั้งอาณาจักรไม่กล้า รวมถึงการพัฒนาขีดจำกัดของจางอุคให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆ ผ่านการเสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย ก็ทำให้จางอุครักในตัวของมูด็อกในแบบที่ลึกซึ้งเกินกว่านิยามความสัมพันธ์รูปแบบไหนๆ และการที่ในวันหนึ่งมูด็อกจะไม่ได้อยู่ข้างกายเขา ก็คงเป็นเรื่องเศร้าเกินกว่าที่จางอุคจะยอมรับ
– ความกลัวที่จะไม่ได้อยู่ด้วยกัน กำลังเป็นพลังอย่างหนึ่งที่ส่งให้จางอุคเป็นจอมเวทย์ที่แข็งแกร่งที่สุด เพื่อให้ได้มาซึ่งหินน้ำแข็งที่จะช่วยชีวิตผู้หญิงที่เขารักได้
พัคจิน ผู้อำนวยการซงริม กลัวว่าหลานที่รักจะประสบโชคชะตาที่เลวร้าย
– พัคจิน ผู้อำนวยการซงริม ที่รักษาความลับเรื่องชาติกำเนิดของจางอุคมายาวนาน มันเป็นความลับที่เต็มไปด้วยความรัก เมื่อเด็กผู้ชายที่เขาเลี้ยงดูค่อยๆ เติบโตมาเป็นนายน้อยแห่งตระกูลจาง
– ความกลัวว่าวันหนึ่ง ชะตากรรมของหลานชายคนนี้จะพลิกผัน และทำให้เขาต้องเผชิญกับความทุกข์ร้อนมากมาย
– แม้ว่าใจหนึ่งเขาอยากเห็นจางอุคเป็นจอมเวทย์ที่ไม่มีใครสู้ได้ แต่อีกใจหนึ่งก็ต้องบังคับให้เขาเป็นคนธรรมดา เพราะกลัวว่าจะสูญเสียเขาไปตลอดกาล
กษัตริย์ กลัวการสูญเสียอำนาจ
– เป็นปกติธรรมดาของผู้อยู่จุดสูงสุดของอาณาจักรที่ต้องการรักษาอำนาจเอาไว้ในมือตลอดไป เราจึงได้เห็นความพยายามอย่างที่สุดของกษัตริย์องค์ก่อนที่แปรวิญญาณกับจางกังเพื่อสืบทอดทายาท
– และแม้มาถึงสมัยของกษัตริย์องค์ปัจจุบัน ก็ยังคงกลัวใครก็ตามที่จะแข็งแกร่งขึ้นมาจนแย่งชิงอำนาจสูงสุดนี้ไป
– แม้จะมีสี่ตระกูลจอมเวทย์คอยคานอำนาจ แต่วังหลวงก็มีชอนบุกวานเป็นกองทัพคอยหนุนหลัง
– ที่น่าสนใจก็คือ พูดถึงเรื่องของอำนาจแล้ว การได้ครอบครองมันเป็นเหมือนมายาแสนสุขที่เราไม่อยากหลุดออกไปจากมัน