Racket Boys ซีรีส์แบดมินตันที่ดูแล้วอารมณ์ดี ช่วยให้มีความหวังกับชีวิต
Racket Boys ขึ้นเป็นซีรีส์ในดวงใจของ ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ทันทีหลังจบ 2 อีพีแรก ด้วยความสดใสวัยรุ่นของนักกีฬา ‘แบดมินตัน’ และยังเต็มไปด้วยมุกขำๆ ชวนหัวเราะ และมันใสบริสุทธิ์ ผ่อนคลายความรู้สึกในชีวิตจริงที่เราแทบไม่เหลือความหวังกับการมีชีวิตอยู่ aka การเมือง โควิด-19 วัคซีน ลุงพล แป้งมัน งบปี 65 ฯลฯ
ดังนั้นก็ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการเชิญชวนทุกคนมาชมซีรีส์เรื่องนี้ แล้วหลบหนีโลกความเป็นจริงไปสำรวจโลกนักกีฬาแบดมินตันกันดีกว่า และถ้าจะดูให้สนุกมากขึ้น เราขอนำเสนอความรู้คู่ซีรีส์เบื้องหลัง Racket Boys เพื่อจะได้เข้าใจบริบทแวดล้อม เพิ่มความอินมากกว่าเดิม
Racket Boys เรื่องย่อและความน่าสนใจ
Racket Boys เขียนบทโดย ชองโบฮุน เจ้าของผลงาน Prison Playbook กำกับโดย โชยองกวัง ที่เคยมีผลงานอย่าง Heart Surgeons, Defendant, Hyde Jekyll, Me ถ้าใครเคยดู Prison Playbook น่าจะจดจำความรู้สึกของเรื่องราวโทนบวกที่มาพร้อมอารมณ์ขันตลอดเรื่อง แม้ว่าจะเล่าถึงชีวิตในคุกก็ตาม ส่วน Racket Boys นักเขียนชองโบฮุนก็ยังสอดแทรกเรื่องราวสังคมต่างๆ ที่สะท้อนความแตกต่างของสังคมเมืองและชนบท รวมถึงความแตกต่างระหว่างวัยที่เป็นปัญหาสังคมในตอนนี้อยู่ด้วย
โดยเรื่องราวที่ปูพื้นครบถ้วนในอีพี 1 ได้เล่าถึง โค้ชยุนฮยอนจง (รับบทโดย คิมซังกยอง) ที่เกิดวิกฤตทางการเงินจนต้องย้ายจากโซลไปดูแลทีมแบดมินตันชายโรงเรียนมัธยมแฮนัม เมืองเล็กๆ ติดชายแดนที่ห่างไกล โดยสมาชิกทีมแบดมินตันก็มีเพียง 3 คน เขาจึงต้องให้ ยุนแฮกัง (รับบทโดย ทังจุนซัง) ลูกชายคนโตมาลงแข่งแทน ร่วมกับ บังยุนดัม (รับบทโดย ซนซังยอน) กัปตันทีมแบดมินตันที่โรงเรียนมัธยมแฮนัม, นาอูชาน (รับบทโดย ชเวฮยอนอุค) สมาชิกทีมที่เป็นคนเฟรนด์ลี่ รักในฮิปฮอป และอียงแท (รับบทโดย คิมคังฮุน) สมาชิกที่อายุน้อยที่สุดในทีม แต่มีแพสชันกับแบดมินตันสุดๆ
นักแสดงที่ดีมีให้ดูใน Racket Boys
แม้แคสต์รายชื่อนักแสดงจะไม่ใช่ระดับแม่เหล็ก แต่ก็ต้องถือว่ารวมเอาดาวรุ่งมาแรงเอาไว้ได้แบบเคมีเข้ากันสุดๆ เพราะพวกเขาที่เป็นเดอะแบกซีรีส์เอาไว้ต่างร่วมกันถ่ายทอดชีวิตวัยรุ่นออกมาได้ดีจริงๆ
ทังจุนซังที่เพิ่งโกยคะแนนการแสดงจาก Move to Heaven พอมาแปลงร่างเป็นนักแบดมินตันหัวร้อนแล้ว เขาก็ทำได้ออกมาดีจนเราลืมฮันกือรูไปเลย
ชเวฮยอนอุค ที่เพิ่งรับบทนักเรียนเลวในซีรีส์ Taxi Driver ก็พลิกกลับมาเป็น นาอูชาน นักแบดมินตันที่รักในฮิปฮอป ไม่เหลือเค้าเด็กนักเรียนจอมบูลลี่คนนั้นอีกแล้ว
คิมคังฮุน นักแสดงเด็กที่มาแรงสุดๆ ก็สละเรือเด็กไซโคพาธจากซีรีส์ Mouse มาเป็นสมาชิกอายุน้อยสุดในทีม กับการแสดงใกล้เคียงอายุและชีวิตจริง โดยที่ไม่ต้องทำหน้าเครียดตลอดเวลาอีกแล้ว
ใครคือ ‘อียงแด’ และ ‘อียงแท’ ใน Racket Boys
Racket Boys เป็นซีรีส์ที่เล่าถึงวงการ ‘แบดมินตัน’ เรื่องแรก ซึ่งการผูกเรื่องไว้กับกีฬาที่ได้รับความนิยมนี้ก็เป็นเพราะว่าเกาหลีใต้มีนักกีฬาแบดมินตันฝีมือดีๆ มากมาย หนึ่งในนั้นคือ ‘อียงแด’ นักแบดถนัดขวาที่ตีแบดมาตั้งแต่ ป.2 และฉายแววความเก่งกาจจนอายุ 15 ปี ได้สร้างสถิติเป็นนักแบดอายุน้อยที่สุดที่ติดทีมชาติ และคว้าเหรียญทองโอลิมปิกคู่ผสมมาได้สำเร็จ
ปัจจุบันอียงแดมีอายุ 32 ปี แม้ว่าจะประกาศวางแร็กเก็ตระดับนานาชาติไปในปี 2016 แต่ก็ยังกลับมาลงแข่งอยู่บ้าง และชื่อของเขาก็ได้กลายเป็นที่จดจำให้นักแบดรุ่นหลัง
รวมถึง ‘อียงแท’ (รับบทโดย คิมคังฮุน) ที่นอกจากชื่อจะคล้ายกันแล้ว เขายังยกให้อียงแดซึ่งเป็นนักแบดชื่อดังของเกาหลีเป็นไอดอลของเขาในการเล่นแบดมินตันอีกด้วย
กฎ กติกา มารยาท ในกีฬาแบดมินตัน
แบดมินตันจะมีการแข่งขันเป็นประเภทเดี่ยวและประเภทคู่ ซึ่งแบ่งออกไปได้อีกเป็นชายคู่ หญิงคู่ และคู่ผสม ซึ่งจะมีกติกาที่เหมือนกัน
– ผู้ส่งจะเสิร์ฟจากพื้นที่ส่งลูกด้านขวาเสมอ และเสิร์ฟทแยงไปยังพื้นที่ส่งลูกด้านขวาของฝ่ายรับลูกเช่นกัน
– ถ้าทำคะแนนจากลูกเสิร์ฟได้จะได้เสิร์ฟต่อ โดยสลับการเสิร์ฟไปมาระหว่างพื้นที่ส่งลูกด้านขวาและซ้าย
– ที่ต่างกันคือถ้าเป็นการเล่นแบบเดี่ยวจะใช้พื้นที่เส้นด้านในซ้ายขวา และพื้นที่เส้นด้านหลังสุด แต่ถ้าเป็นการเล่นแบบคู่จะใช้พื้นที่ทั้งหมดของสนาม
Racket Boys เป็นซีรีส์ที่มีผู้สนับสนุนหลัก
เราชอบซีรีส์เกาหลีตรงนี้ ตรงที่มักจะมีหน่วยงานภาครัฐต่างๆ มาให้การสนับสนุน ‘อย่างสร้างสรรค์’ เพื่อให้เกิด Win-Win Situation กับทุกฝ่าย ทั้งช่องโทรทัศน์ หน่วยงานรัฐ และคนดู อย่าง Racket Boys ก็เป็นการสนับสนุนโดยกระทรวงวัฒนธรรม กีฬา และการท่องเที่ยว ร่วมกับองค์กรสื่อสร้างสรรค์แห่งเกาหลี โดยทำงานร่วมกับช่อง tvN และผู้กำกับโชยองกวัง
ผู้กำกับโชยองกวังให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “Racket Boys ไม่เหมือนกับซีรีส์เกาหลีเรื่องอื่นที่ใช้กีฬาเป็นตัวโชว์เรื่องความรักหรือสถานการณ์ความสัมพันธ์ต่างๆ ซีรีส์เรื่องนี้เกี่ยวกับกีฬาแบดมินตันแท้ๆ ซึ่งคนดูอาจจะไม่คุ้นเคยนัก แต่มันก็มีทิศทางของเรื่องราวที่คนทุกเพศทุกวัยเข้าถึงได้ โดยเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างกันของผู้คนในเรื่องนี้จะเป็นตัวที่ทำให้ซีรีส์มีเสน่ห์มากยิ่งขึ้นครับ”