thirty-nine-ep7-8

Thirty-Nine Ep.7-8 เมื่อไม่เห็นหนทางไปต่อ จึงต้องการตัวเร่งปฏิกิริยามาปลดล็อกสิ่งที่ค้างคาใจ

จาก Thirty-Nine ตอนก่อนหน้านี้ เมื่อมารวมกับ EP.7-8 ที่เพิ่งจบไป ก็ทำให้เราเข้าใจแล้วว่าการเลือกที่จะไม่บอกความจริง ในบางครั้งเป็นเรื่องดี แต่ในบางครั้งอีกเช่นกัน การพูดความจริงออกไปกลับช่วยให้สถานการณ์ที่แสนอึดอัดปลอดโปร่งขึ้น สบายใจขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ต้องมีความลับอะไรค้างคาต่อกัน 

อย่างเช่นตัวชานยองที่ยังไม่บอกความจริงพ่อแม่เรื่องโรคมะเร็งระยะสุดท้ายของตัวเอง นั่นก็เพราะกลัวว่าคนรอบข้างจะทำใจได้ลำบาก และไม่สามารถจะใช้ชีวิตต่อไปอย่างปกติธรรมดาได้

ถึงแม้การไม่พูด ไม่บอก จะเป็นทางเลือกที่เราคิดว่ามันช่วยปกป้องคนที่รักให้รอดพ้นความเจ็บปวดจากความจริง หรือสามารถยืดเวลาอีกสักนิดให้เรารวบรวมความกล้าจนพร้อมที่จะเอ่ยความจริงแสนเศร้าออกมา แต่ความจริงก็คือความจริง เราไม่สามารถปกปิดมันไปได้ตลอด

Thirty-Nine EP.8 ดึงเราออกจาก ‘โลกของผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่มีความสุขที่สุด’ กลับสู่โลกความเป็นจริงอีกครั้ง แน่นอนว่าชานยองเองก็อยากดื่มด่ำช่วงเวลาอันหอมหวานไปจนวินาทีสุดท้าย แต่ชีวิตคนเรายังมีตัวแปรที่ควบคุมไม่ได้อีกมากมาย เมื่อถึงจุดหนึ่ง มันจำเป็นที่เราต้องเผชิญหน้ากับ ‘ตัวเร่งปฏิกิริยา’ ที่มาทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ แต่ทั้งหมดนั้นก็เหมือนเป็นแรงผลักให้เราก้าวข้ามความกลัว และใช้ชีวิตต่อไปได้อย่างไม่ติดค้างอะไรในใจ




thirty-nine-ep7-8

ตัวเร่งปฏิกิริยาที่มาได้ทันเวลา

ชีวิตของชานยองดูเริ่มจะเข้าที่เข้าทางในโลกของผู้ป่วยระยะสุดท้ายที่มีความสุขที่สุด เธอได้เป็นนักแสดงตามความฝัน มีเพื่อนและคนรักที่ดูแลเธอเป็นอย่างดี แต่แล้วชีวิตก็ส่งตัวเร่งปฏิกิริยาสุดโหดมาให้ จนทำเอาทุกคนใจแตกสลายไปตามๆ กัน แต่มันก็เป็นตัวช่วยในการเปิดเผยความจริงที่ดีมากเช่นกัน

เวลามีเรื่องไม่สบายใจ หลายๆ คนคงไม่ค่อยอยากบอกให้พ่อแม่รู้ เพราะรู้ดีว่าคนที่เลี้ยงเรามาตั้งแต่เกิด เขาจะมีปฏิกิริยาอย่างไร เช่นเดียวกับชานยอง ยิ่งเป็นเรื่องอาการเจ็บป่วยคอขาดบาดตาย การจะบอกให้พ่อแม่ที่รักเธอมากที่สุดในโลกรับรู้ว่าเธอจะไม่ได้อยู่ในโลกใบนี้แล้ว จึงเป็นสิ่งที่ชานยองกลัวว่าจะทำให้หัวใจของพวกเขาสลาย นั่นคงเป็นเหตุผลว่าทำไมชานยองจึงได้แต่เก็บงำความจริงนี้เอาไว้ โดยที่ตนเองก็รู้สึกมืดแปดด้าน มองหาทางออกไม่เจอเช่นกัน

แต่เมื่อ ซอนโจ ภรรยาของจินซอก เข้าไปเป็นตัวเร่งปฏิกิริยา ด้วยการเดินทางไปมอบข่าวร้ายเรื่องชู้ให้พ่อแม่ของชานยอง นั่นทำให้เกิดเหตุการณ์ชวนอึดอัดทับทวีคูณ เมื่อความจริงเปิดเผยว่าเวลาของชานยองเหลือน้อยลงทุกที นั่นทำให้การเป็นมือที่สามดูเป็นเรื่องเล็กน้อยลงไปเมื่อเทียบกับความตายที่ใกล้เข้ามา ซึ่งแม้ว่าความจริงนั้นจะเจ็บปวดมากจนแม่ของชานยองพยายามกลั้นน้ำตาต่อหน้าลูกสาวแล้วไปแอบร้องไห้ทีหลัง แต่สุดท้ายแล้วครอบครัวคือคนที่จะจับมือและดูแลเราอย่างดีที่สุดไปจนถึงวินาทีสุดท้ายของชีวิต

จริงๆ แล้วก็คงต้องขอบคุณตัวช่วยอย่างซอนโจที่มาได้ทันเวลาพอดี เพราะไม่เช่นนั้นชานยองอาจไม่กล้าพอที่จะบอกความจริงกับครอบครัว และสถานการณ์เลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้น คือการไม่ได้บอกลาพ่อและแม่ก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไปตลอดกาล

ทั้งๆ ที่ลิสต์ข้อแรกที่ชานยองจดไว้ว่าอยากทำก่อนตายคือการบอกความจริงพ่อแม่




thirty-nine-ep7-8

แม่ของจูฮี กับความลับนานนับ 20 ปี

หนึ่งในลิสต์สิ่งที่ชานยองอยากทำคือการตามหาแม่แท้ๆ ให้กับมีโจ แต่การตามหาคนโดยที่ไม่มีเบาะแสอะไรเลยเป็นสิ่งที่ยากลำบาก ประกอบกับสิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ของมีโจไม่ใช่เรื่องการตามหาแม่ที่แท้จริง เพราะเธอได้อยู่ในครอบครัวที่ดีที่สุดแล้ว และในเฉพาะหน้าก็มีเพียงแค่การอยากทำให้ทุกๆ วันของชานยองมีความสุข 

และแล้วก็ถึงเวลาของตัวเร่งปฏิกิริยา เมื่อแม่ของจูฮียอมเปิดเผยความจริงในเรื่องนี้ หลังจากที่ 20 ปีก่อน มีโจเคยเดินทางมาที่ร้านอาหารว่างของเธอเพื่อตามหาแม่ จากข้อมูลที่มีไว้ในบ้านอุปการะ

ถึงแม้มีโจจะรู้สึกเจ็บปวดที่แม่ของเพื่อนรักปิดบังความจริงมาโดยตลอด ซึ่งเราคิดว่าแม่ของจีฮูรู้อยู่แก่ใจว่ามีโจมีชีวิตครอบครัวที่ดีแล้ว เธอจึงไม่ควรต้องรับรู้ความจริงเรื่องแม่ที่เป็นคนฉ้อโกง แต่สุดท้ายความจริงก็คือความจริงที่เราต่างหลีกหนีไม่พ้น ไม่ว่าในวัย 8, 18, 39 ปี เราต่างก็ต้องได้พบกับความจริงนี้ และถึงแม้ว่าจะเจ็บปวดจนหัวใจแหลกสลาย ร้องไห้ราวกับว่าไม่เหลืออะไรอีกแล้วในชีวิต แต่ความจริงที่มีโจเผชิญหน้าในการไปพบแม่ผู้ให้กำเนิดสักครั้ง คือความกล้าหาญและเข้มแข็งที่สุดเท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะมีได้ 

และเราก็เชื่อว่าความจริงที่มีโจได้เผชิญทั้งหมดนี้จะทำให้ชีวิตของเธอเดินต่อไปได้อย่างไม่มีความคับข้องใจอะไรติดค้างอีกแล้ว




thirty-nine-ep7-8

ซอนอู กับมื้อเช้าของพ่อ

คิมซอนอู ผู้ชายอบอุ่นยิ่งกว่าไมโครเวฟที่คอยอยู่ข้างๆ เสมอ แม้ว่ามีโจจะมีปัญหาล้านแปดก็จะคอยซัพพอร์ต แต่พอเป็นปัญหาเรื่องครอบครัวของตัวเอง ซอนอูกลับปล่อยให้คาราคาซังมาตลอด ทั้งๆ ที่เขาก็รับรู้อยู่เต็มอกว่าพ่อไม่เคยรักและเห็น โซวอน น้องสาวบุญธรรมของเขา เป็นลูกเลยสักครั้ง 

ซีรีส์ Thirty-Nine EP.7-8 ชีวิตของซอนอูเดินมาถึงทางตัน เมื่อการที่พ่อบินจากอเมริกาเพื่อมาพาตัวเขากลับไปนั้น มันทำให้ซอนอูที่ไม่แน่ใจกับทางออกค้นเจอคำตอบที่เขารู้แล้วว่าเป็นความสุขที่สุดสำหรับตัวเอง 

การได้รู้ความจริงว่าพ่อบีบบังคับให้โซวอนยกเลิกการอุปการะเป็นเหมือนระเบิดเวลาที่ทำลายความไม่แน่ใจของซอนอู เป็นเหมือนตัวเร่งปฏิกิริยาที่มาช่วยให้เขามองเห็นทางออก และในเช้าวันที่เหมือนเป็นวันดีๆ วันหนึ่ง ซอนอูไปกินมื้อเช้ากับพ่อ ดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังจะไปได้ด้วยดี เขาให้โอกาสพ่ออีกครั้งในการไปขอโทษโซวอน แต่คำตอบนั้นก็เป็นอย่างที่รู้กันดีอยู่แล้ว 

ซอนอูตัดสินใจเลือกเดินออกมาจากพ่อเพื่อปกป้องน้องสาว ทั้งยังเป็นการปกป้องโซวอนให้เห็นว่าความรักแท้ๆ ของครอบครัวเป็นอย่างไร ถึงแม้เลือกตัดความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่มันกลับกลายเป็นสิ่งที่ปลดล็อกปัญหาในใจตลอดมา และต่อจากนี้ไม่ว่าจะอย่างไร เขาหวังแต่ว่าน้องสาวจะมีความสุขได้บ้างกับตัวตนที่ไม่จำเป็นต้องพึ่งพาใครอีกแล้ว




โรคร้าย ตัวเร่งปฏิกิริยาให้เราได้ทำในสิ่งที่ต้องการ

ซีรีส์ Thirty-Nine ตัวละครชานยองน่าจะเป็นตัวแทนของผู้คนในวัย 39 จำนวนมากมายที่เดินทางผ่านชีวิตมาแล้วครึ่งหนึ่ง โดยที่ไม่ทันรู้ตัวเลยว่ากำลังใช้เวลาไปอย่างเปล่าเปลือง ความฝันที่อยากเป็นนักแสดงก็ผัดผ่อนเอาไว้ และเลือกเป็นครูสอนการแสดงไปเรื่อยๆ, บุหรี่ที่ติดมาตลอดก็ยังไม่เคยหนักแน่นพอที่จะเลิก, ผู้ชายในชีวิต ก็ยังคงเข้าข้างตัวเองว่า ‘มาก่อน’ และใช้คำๆ นี้เป็นกับดักขังตัวเองเอาไว้ในโลกที่ไม่เคยเปิดโอกาสให้ทั้งกับตัวเองและคนอื่น

ดูภายนอก ชานยองอาจจะเป็นคนตรงไปตรงมา กล้าพูดกล้าทำ แต่อย่างหนึ่งก็คือความไม่หนักแน่นพอจะตัดใจ อาจเป็นเส้นบางๆ ที่ตัวเธอเป็น จนทำให้การเอ่ยปากบอกความจริงกับพ่อแม่เรื่องอาการป่วยจึงไม่เกิดขึ้นแต่แรก การหันหลังให้กับจินซอกก็ดูเหมือนว่าไม่เคยประสบความสำเร็จเลย จนกระทั่งโรคมะเร็งตับอ่อนระยะสุดท้ายที่มาเป็นตัวเร่งปฏิกิริยาให้ชานยองต้องเดินหน้าทำทุกอย่างที่เคยตั้งใจไว้ 

เพราะถ้าไม่เป็นโรคร้าย ก็เป็นไปได้ทีเดียวว่าเธอยังคงใช้ชีวิตต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้ และสิ่งที่เคยตั้งใจก็จะไม่เคยถูกแก้ไข

ซีรีส์ Thirty-Nine เอาจริงๆ แล้วก็เหมือนหลอมรวมเรื่องราวในชีวิตมนุษย์เอาไว้ ความสุข ความเศร้า ความทุกข์ใจ ครอบครัว บาดแผลวัยเด็ก เพื่อนที่แท้ กลมกลืนอยู่ในความสัมพันธ์ของตัวละครหลักที่เราหยิบเอาไปใช้ได้กับชีวิตจริง 

อย่างน้อยๆ ใน EP.7-8 ถ้าเรามีสิ่งที่เคยตั้งใจไว้ ไม่ต้องรอให้เกิดตัวเร่งปฏิกิริยา เราเองก็ผลักดันให้มันเกิดขึ้นได้ อย่างที่เขาว่ากันว่า ถ้ากล้าคิด กล้าฝัน อย่ารอที่จะลงมือทำให้มันเป็นเรื่องจริง

thirty-nine-ep7-8

เรื่องโดย อภิชญา จิราพงษ์

ติดตามเนื้อหาสนุกๆ ของ ‘ดูซีรีส์ให้ซีเรียส’ ได้ที่ช่องทางต่างๆ ดังนี้
Facebook: TheSeriousSeries.TH
Twitter: TheSeriousSerie
YouTube: The Serious Series
Website: Theseriousseries.com
สมัครสมาชิกเพื่อรับข่าวสารและสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ Link นี้