ไขปริศนา Sisyphus EP.5-6 เมื่อฮันแทซุลรู้ถึงการมีอยู่ของเหล่าคนจากอนาคต
Sisyphus EP.5-6 เริ่มเทิร์นสู่ความเดือด (เหมือนไม่อยากให้คนดูนอนหลับอย่างเป็นสุข) และยังเผยปมบางส่วนจากล้านแปดสิ่ง พร้อมปริศนาใหม่ให้คาดเดาระหว่างรอตอนต่อไป
มาดูกันว่าในสองอีพีที่ผ่านมา ซีรีส์ Sisyphus ได้คลายปมอะไร และเพิ่มเบาะแสใหม่เรื่องใดบ้าง!
*Spoiler Alert*
โพสต์นี้มีการเปิดเผยเนื้อหาของซีรีส์ Sisyphus EP.1-6 ที่ปัจจุบันฮันแทซุลได้ล่วงรู้ความจริงบางอย่างเกี่ยวกับอนาคต พร้อมกับความลับสุดช็อกจากห้องหนังสือชั้นสองในบ้านผู้อำนวยการใหญ่คิมฮันยง ขณะที่คังซอแฮเริ่มเปิดเผยอดีตของตัวเองมากขึ้น ก่อให้เกิดสายใยบางๆ ระหว่างคนสองคนที่ไม่ฝักใฝ่การแต่งงาน นำพามาซึ่งหนึ่งในเหตุการณ์สำคัญ การปรากฏตัวของบุคคลที่ตามหา และการคัมแบ็กของตัวละครที่หลายคนรอคอย!
การเชื่อมโยงของ UPLOADER และ DOWNLOADER
เริ่มจากช่วงแรกของ EP.6 ซีนที่ฮันแทซุลทดลองรันโค้ดบางอย่างจนทำให้ไฟดับทั้งเมืองในปี 2001 ทำให้นึกย้อนไปถึงคำพูดของเขาที่เคยพูดไว้ใน EP.4 ว่า “แล้วเรื่อง DOWNLOADER นี่ยังไง มันเป็นโค้ดที่ฉันเขียนในปี 2001”
เมื่อลองนำเหตุการณ์ข้างต้นมารวมกับเหตุการณ์ที่ฮันแทซัน พี่ชายของเขา พบ ‘คน’ (ซึ่งคาดเดาว่าน่าจะเป็นฮันแทซุล) พร้อมกระเป๋าเดินทางบนรางรถไฟ… จะเป็นไปได้ไหมว่าในจังหวะที่ฮันแทซุลกำลังรันโค้ด DOWNLOADER นั้นเป็นช่วงเวลาเดียวกันกับที่ตัวเขาในปี 2021 (หลังสร้าง UPLOADER สำเร็จ) ขึ้น UPLOADER เพื่อย้อนกลับมาวันที่ 6 สิงหาคม 2001
วันที่ตัวเขาตอนนั้นคิดว่าการรันโค้ดล้มเหลวจนทำให้ไฟดับทั้งเมือง แต่แท้จริงแล้ววันนั้นเขาอาจจะทำสำเร็จ และสามารถพาตัวเองจากปี 2021 เดินทางย้อนเวลามาได้เป็นคนแรก!? (อ้างอิงข้อมูลจากคำพูดของกองควบคุมที่เคยบอกว่ามีการบังเอิญพบผู้ลักลอบเข้าเมืองคนแรกในปี 2002 จนทำให้รัฐบาลสร้างกองควบคุมขึ้นในเวลาต่อมา)
โดยอีกหนึ่งมูลเหตุที่ทำให้คิดว่าฮันแทซุลน่าจะรันโค้ดสำเร็จนั้นมาจากคำอธิบายเพิ่มเติมของ คุณเอ็ดดี้ เจ้าของเพจ Hallyu K Star ว่า “ในเรื่อง The Flash ตอนที่ข้ามเวลาก็ไฟดับ เพราะต้องดึงพลังงานจากทั้งเมืองมาใช้” ซึ่งเป็นหนึ่งในสมมติฐานที่ทำให้คิดว่าเหตุการณ์ไฟดับนี้ไม่น่าจะเกิดจากการที่ฮันแทซุลรันโค้ดล้มเหลว แต่อาจเกิดจากความสำเร็จก็เป็นได้
ฮันแทซุล ชายคนแรกที่เดินทางข้ามเวลา?
แน่นอนว่าหลังจากไฟดับทั้งเมือง อีกหนึ่งซีนไฮไลต์ของ EP.6 ก็ปรากฏให้เห็นตามมา กับชายปริศนาที่อยู่ๆ ก็โผล่บนรางรถไฟพร้อมกระเป๋าเดินทาง โดยในมือของเขาถือรูปถ่ายของฮันแทซันและฮันแทซุลเอาไว้
จากการคาดเดาของ ชายปริศนาคนนั้นน่าจะเป็น ‘ฮันแทซุล’ ที่ย้อนเวลากลับมา สังเกตจากรูปพรรณสัณฐานอย่าง ‘จมูก’ ที่ซีรีส์ดูจงใจให้ฮันแทซันส่องไฟไปตรงนั้น ไปจนถึง ‘นิ้วมือ’ ที่เมื่อลองเอาซีนเก่าๆ มาเทียบแล้วรู้สึกว่ามีความคล้ายคลึงกันในระดับหนึ่ง (ซึ่งจุดนี้คงต้องรอซีรีส์มาเฉลยกันอีกที) และจากเหตุการณ์ไฟดับที่เกิดขึ้น รวมถึงคำอธิบายคร่าวๆ จาก EP.1-6 ที่ทำให้เราเห็นว่าหากมีการ ‘อัปโหลด’ ก็ต้องมีการ ‘ดาวน์โหลด’ ด้วยแล้วนั้น
หากในอนาคตฮันแทซุลสร้าง UPLOADER สำเร็จ คนเดียวที่ล่วงรู้ว่าโค้ด DOWNLOADER ที่ตัวเองเขียนเริ่มรันตั้งแต่วันไหน หรือผลลัพธ์ในแต่ละครั้งออกมาเป็นอย่างไร ก็น่าจะเป็นเจ้าตัวเองที่รู้ดีที่สุด ซึ่งจากจุดนี้เองที่น่าจะทำให้ฮันแทซันล่วงรู้อะไรบางอย่าง จนนำมาสู่การค้นหาความจริงที่สามารถสืบสาวไปจนถึงการมีอยู่ของซิกมา (คาดเดาจากคำพูดของฮันแทซันที่เข้ารับคำปรึกษากับคิมซอจิน และวาดสัญลักษณ์ ∑ จนเต็มกระดาษ)
เหตุการณ์ข้างหลังภาพ (เพิ่มเติม)
หลังแกะลายมือจากไดอะรี่ของคังซอแฮในอีพีก่อนแล้ว ทันทีที่เห็นว่าข้างหลังภาพมีข้อความลายมือปรากฏอยู่ พร้อมหัวข้อ ‘บันทึกการโจมตีฮันแทซุล’ ก็ทำให้เกิดความสงสัยว่านอกจากข้อความ ‘15 ก.ค. 2020 เครื่องบินตก’ และ ‘15 ส.ค. 2020 ยิงที่งานแถลงข่าว’ แล้ว ยังมีอะไรที่ข้อความนั้นบอกไว้อีกบ้าง…
เราขอออกตัวก่อนว่าข้อความลายมือครั้งนี้โหดหินมาก (อ่านยากกว่าลายมือของคังซอแฮคูณร้อย) จึงขอสรุปคร่าวๆ ตามความเข้าใจและอ้างอิงจากเหตุการณ์ที่ลิสต์เก็บเอาไว้ โดยลำดับการเขียนในจดหมายและคำอธิบายเหตุการณ์มีดังนี้
15 ก.ค. 2020 เครื่องบินตก
15 ส.ค. 2020 ยิงที่งานแถลงข่าว
19 ส.ค. 2020 (ไม่สามารถแกะลายมือได้) แต่วันนี้คือวันที่ฮันแทซุลล่วงรู้ถึงการมีอยู่ของ UPLOADER จากเจ้าของร้าน Asia Mart ที่ตลาดแรงงาน และเกิดเหตุการณ์ที่บ้านของตำรวจจองฮยอนกี
27 ส.ค. 2020 (แกะลายมือได้เพียงแค่คำว่า 김한용 (คิมฮันยง) ชื่อของผู้อำนวยการใหญ่) น่าจะหมายถึงเหตุการณ์ในงานปาร์ตี้ที่บ้านคิมฮันยง ซึ่งทำให้ฮันแทซุลได้ล่วงรู้ความจริงบางอย่างเพิ่มมากขึ้น และการโดนจับในห้องหนังสือชั้นสอง
15 ก.ย. 2020 (ไม่สามารถแกะลายมือได้) แต่เหตุการณ์ในวันนี้คือช่วงท้ายของ EP.6 ที่ฮันแทซุลหนีออกมาจากบ้าน และได้รับการช่วยเหลือโดยคังซอแฮ
30 ก.ย. 2020 สวนสนุก (놀이 공원) ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ยังไม่เกิดขึ้น แต่ดูจากวันที่ที่คาดเดาได้ว่าเป็นวันเกิดของคังซอแฮ พร้อมข้อความ ‘สวนสนุก’ จึงคาดเดาว่าฮันแทซุลน่าจะพาคังซอแฮไปเล่นไวกิ้งตามสัญญา (พร้อมฉลองวันเกิด?) และน่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรบางอย่างขึ้น
ต.ค. 2020 (ไม่สามารถแกะลายมือได้)
2020 (ไม่สามารถแกะลายมือได้)
เอกสารแบ่งปันเทคโนโลยี
มาต่อกันที่ซีนงานปาร์ตี้ที่บ้านผู้อำนวยการใหญ่คิมฮันยง ที่เริ่มจากเหตุการณ์ในห้องหนังสือชั้นสองที่จองฮยอนกีเคยเตือนฮันแทซุลแล้วว่า “ต่อให้ไปนายก็ไม่เห็นอะไรดีๆ หรอก… สัญญามาข้อหนึ่งว่าจะไม่ไปเหยียบชั้นสองในห้องหนังสือ” แต่เนื่องจากอนาคตเกิดขึ้นแล้ว และในเมื่อไม่ได้เปลี่ยนแปลงอดีต เหตุการณ์จึงดำเนินไปอย่างที่มันควรจะเป็น
ฮันแทซุลเข้าไปในห้องหนังสือชั้นสองและพบกับภาพถ่ายของเขากับคังซอแฮที่เพิ่งเกิดขึ้น และเอกสาร ‘ข้อตกลงการแบ่งปันเทคโนโลยีเคลื่อนย้ายมวลสารควอนตัม’ ที่มีข้อความระบุว่า ‘Quantum & Time จะแบ่งปันเทคโนโลยีกับซิกม่า’ โดยจากการอ่านเอกสารดังกล่าวทำให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าการแบ่งปันนั้นจะเป็น ‘ทุกอย่างที่เกี่ยวกับแผนผังและการทำงานของเครื่องเคลื่อนย้ายมวลสารควอนตัม’ และ ‘มีผลบังคับใช้หลังวันที่ 10 กันยายน 2020’
ซึ่งมาพร้อมกับคำพูดชวนสงสัยของผู้อำนวยการใหญ่คิมฮันยงที่บอกกับฮันแทซุลว่า “ซิกม่าคือนักลงทุนของเราไง…ตั้งแต่แรกแล้ว ผมก็รายงานอยู่ตลอด” ก่อนที่ฮันแทซุลจะพบลายเซ็นของตัวเองบนเอกสารฉบับนั้น (ส่วนจะเป็นลายเซ็นจริงหรือเกิดการจัดฉากขึ้นของสองพ่อลูกตระกูลคิม อันนี้ก็ต้องติดตามกันต่อไป เพราะถ้าวันที่ยังเซ็ตได้ ลายเซ็นก็ไม่น่าจะเป็นเรื่องยาก)
ฮันแทซันยังไม่ตาย!
หลังจากโผล่แวบไปแวบมาหลายครั้ง ในที่สุด EP.6 เราก็ได้รู้สักทีว่าฮันแทซันยังมีชีวิตอยู่! (เพราะคังซอแฮไม่น่าจะคุยกับภาพหลอนได้แน่ๆ และตอนท้ายอีพีที่อยู่กับซิกม่าก็ไม่น่าจะใช่วิญญาณ) ซึ่งเมื่อนำมาบวกรวมกับข้อความลายมือหลังภาพก่อนหน้าในปี 2001 คาดเดาว่าหลังจากฮันแทซันพยายามตามหาความจริงจนทำให้เขาล่วงรู้การมีอยู่ของคนจากโลกอนาคต (ใน EP.1 ที่เขาพยายามบอกให้ฮันแทซุลรู้) แต่สุดท้ายไม่มีใครเชื่อ ทำให้เขาเลือกที่จะปรากฏตัวตามสถานที่ต่างๆ จากเบาะแสข้างหลังภาพและคอยปกป้องน้องชายอยู่ห่างๆ แทน (ส่วนจะปกป้องอย่างไร วิธีไหน คิดว่าอีกไม่นานซีรีส์น่าจะเฉลยให้เรารู้กัน)
ขอย้อนกลับไปที่คำพูดหนึ่งของผู้อำนวยการคิมฮันยงที่พูดกับฮันแทซุลในห้องหนังสือว่า “ทำไม คิดว่าคุณแทซุลรู้เรื่องอยู่คนเดียวเหรอ ป่านนี้แล้วใครจะไปเชื่อคำพูดคุณ ขอโทษนะ ได้โปรดอยู่เงียบๆ เถอะ หรือจะไปโรงพยาบาลจิตเวชเหมือนพี่ของคุณ…” ประโยคนี้เองที่ทำให้เข้าใจว่าทำไมข้อมูลตัวละครฮันแทซันในเว็บไซต์ JTBC จึงถูกอธิบายว่า ‘เมื่อเขาตระหนักถึงภัยคุกคามที่มีต่อน้องชาย เขาถูกบังคับให้กลายเป็นคนโรคจิต…ในที่สุดเมื่อไม่มีใครเชื่อในตัวเขา เขาจึงตัดสินใจเลือกทางที่สุดโต่ง’ เพราะการที่จะทำให้เขากลายเป็นคนโรคจิตไม่ใช่เรื่องยากสำหรับคิมฮันยงที่มีลูกสาวเป็นคิมซอจิน ที่ทำงานเป็นคนให้คำปรึกษาทางจิตวิทยาสำหรับพนักงาน Quantum & Time
การปรากฏตัวของเศรษฐีลอตเตอรี่
ฉากเปิดตัวเศรษฐีใหม่สุดเซอร์ไพรส์คนดูต่างสงสัยกันมาสักพักว่า ซอน หนุ่มผมทองจากร้านอาหารจีนหายไปไหนหลังจากได้เลขเด็ดจากคังซอแฮ ก่อนที่ในอีพีนี้เขาจะโผล่มาเซอร์ไพรส์พร้อมกับรถหรู ซึ่งบ่งบอกถึงฐานะของเขาที่เปลี่ยนไปจากลอตเตอรี่ใบนั้น!
ส่วนสาเหตุที่ซอนล่วงรู้ที่อยู่ของคังซอแฮและตามมาช่วยได้ทันเวลานั้นจะมีความเป็นมาอย่างไร คงต้องติดตามกันต่อ เพราะด้วยระยะเวลาที่ผ่านไปประมาณ 12 วันหลังจากที่พวกเขาแยกย้ายกันที่สถานีรถไฟ น่าจะมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นกับหนุ่มผมทองที่ตอนนี้ย้อมผมดำและร่ำรวยขึ้นมาแล้วแน่นอน
วันเกิด สวนสนุก และเบอร์โทรศัพท์
มาต่อกันที่คังซอแฮกับสองซีนที่ซีรีส์ทิ้งเอาไว้ให้ใน Sisyphus EP.5-6 นอกเหนือจากชีวิตในโลกอนาคตของเธอที่ทุกวันเต็มไปด้วยความยากลำบากและอันตรายแล้ว การเผยให้เห็นมุมเด็กๆ ของเธอตั้งแต่ EP.4 ที่มยองดง และการพูดคุยถึงสถานที่ที่เธออยากไปอย่าง ‘สวนสนุก’ ก็ดูจะเป็นพอยต์ที่ซีรีส์เน้นย้ำให้เราจดจำแบบแปลกๆ (ซึ่งเมื่อนำมารวมกับข้อความหลังภาพก็คือบิงโก! มันต้องมีอะไรบางอย่างแน่นอน)
เริ่มตั้งแต่การที่คังซอแฮเล่าให้ฮันแทซุลฟังว่าเธอเคยไปสวนสนุกกับแม่ตอนวันเกิดอายุ 9 ขวบ และอยากจะเล่นไวกิ้ง แต่ว่าส่วนสูงของเธอที่ขาดไป 2 เซนติเมตร เป็นเหตุให้เกิดสัญญาใจกับแม่ว่าเธอจะกลับมาอีกครั้งหลังจากสูงขึ้น… ซึ่งไม่มีวันนั้นแล้ว เพราะโลกได้พังทลายจากนิวเคลียร์ จนสวนสนุกหลงเหลือเพียงภาพในความทรงจำของเธอเท่านั้น ก่อนที่ต่อมาใน EP.6 ฮันแทซุลจะบอกกับคังซอแฮว่า “พอจบงานนี้แล้ว เราไปสวนสนุกกันเถอะ” ซึ่งทำให้เธอมีแรงใจในการต่อสู้เพิ่มมากขึ้น
และจากเรื่องราวทั้งหมดทั้งมวลนี้…จะเป็นไปได้ไหมว่าในวันเกิดอายุ 9 ขวบของคังซอแฮ (วันที่ 30 กันยายน 2020 หากนับอายุตามเกาหลี คังซอแฮจะมีอายุ 9 ขวบพอดี) เหตุการณ์วัยเด็กที่เธอเล่าให้ฮันแทซุลฟังจะกลายเป็นวันที่เธอได้เจอกับตัวเองในปัจจุบันที่หน้าไวกิ้ง…
ซึ่งที่นั่นน่าจะทำให้คังซอแฮได้พบกับ อีอึนฮี (รับบทโดย อียอนซู) แม่ของเธอ ที่ใน EP.5 ได้แฟลชแบ็กไปในซีนวันเกิด (ซึ่งเดาว่าเป็นวันเกิดอายุครบ 8 ขวบจากจำนวนเทียนที่ปักบนเค้ก) ที่เธอได้รับโทรศัพท์มือถือเป็นของขวัญ… แม่ที่เธอไม่กล้าโทรศัพท์ไปหาตอนที่ได้โทรศัพท์จากฮันแทซุล
หากการคาดเดาข้างต้นเกิดขึ้นจริง จะมีสองสิ่งที่น่าสงสัยและคาดว่าจะเกิดขึ้นคือ
1. การส่งมอบไดอะรี่ ที่เราสงสัยมาตลอดว่าไดอะรี่สีชมพูของคังซอแฮนั้น เธอนำมันไปส่งมอบให้กับตัวเองได้อย่างไร ในเมื่อคนเขียนคือตัวของเธอเองในอนาคต
2. Time Paradox หากเธอเจอกับตัวเองและแม่ในปัจจุบัน น่าจะส่งผลทำให้เกิดอะไรบางอย่างที่ก่อนหน้านี้พนักงานร้าน Asia Mart ได้อธิบายเอาไว้หรือไม่ อันนี้ก็น่าติดตามว่าคนเขียนบทจะเฉลยปมนี้อย่างไรต่อไป
ความลับของตู้เซฟกับกุญแจของพี่ชาย
ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าสิ่งที่ถูกเก็บไว้ในตู้นิรภัยที่ห้องวิจัยแรกของสองพี่น้องนั้นน่าจะเป็นข้อมูลของ UPLOADER ที่ซิกม่าต้องการ เพราะหากฟังจากบทสนทนาของสองพ่อลูก คิมฮันยง และคิมซอจิน ที่ว่า “ถ้าไม่มียาที่คนพวกนั้นให้มา แม่ของลูกก็จะตาย” ทำให้คาดเดาว่าสาเหตุที่ทำให้สองพ่อลูกยอมแลกด้วยเทคโนโลยีคือชีวิตของคนในครอบครัว
โดยในส่วนของคิมซอจินนั้น เราคิดว่าเจตนาทั้งหมดของเธอน่าจะทำเพื่อแม่โดยแท้จริง ถึงแม้ว่าซีรีส์ยังไม่เผยว่าแม่ของเธอป่วยเป็นอะไร และยาที่ซิกมาให้มาคือยาอะไรกันแน่ แต่ส่วนตัวแล้วก็ยังไม่ค่อยวางใจผู้อำนวยการใหญ่คิมฮันยงสักเท่าไร เพราะคิดว่าเขาน่าจะมีอะไรแอบแฝงมากกว่าการช่วยภรรยา เพราะในฐานะนักธุรกิจแล้ว การนำเทคโนโลยีที่มีมูลค่ามหาศาลในอนาคตมาแลกเปลี่ยนด้วยเหตุผลเพียงเท่านี้ก็ดูจะไม่ค่อยหนักแน่นเท่าไร ซึ่งตรงนี้เราคงต้องตามดูกันว่าจะมีเหตุผลอื่นนอกเหนือจากนี้หรือไม่
Asia Mart พันธมิตรชั่วคราว (?)
จากตัวอย่างตอนต่อไป (EP.7) ที่คังซอแฮพูดกับพัคฮยองโด เจ้าของร้าน Asia Mart ว่า “ช่วยฉันช่วยชีวิตฮันแทซุลหน่อย” โดยซีนนั้นพวกเขาพูดคุยอยู่ตรงหน้าเครื่องระบุพิกัดสำหรับ DOWNLOADER ที่มี บิงบิง สาวช่างเจื้อยแจ้วเพียงหนึ่งเดียวของ Asia Mart นั่งอยู่ด้วย
และเมื่อมองจากเสื้อผ้าที่คังซอแฮสวมใส่อยู่ ซึ่งเหมือนกับตอนที่ช่วยฮันแทซุลในช่วงท้ายของ EP.6 จึงทำให้คิดว่าตอนที่ฮันแทซุลกินยาที่ได้รับจากคิมซอจิน และกำลังเห็นภาพต่างๆ วนเวียนพร้อมเสียงปืน รวมถึงคำพูดที่คล้ายกำลังสะกดจิตหรือทำอะไรบางอย่างเพื่อให้ฮันแทซุลบอกที่ซ่อนของกุญแจตู้นิรภัยนั้น อยู่ๆ ก็มีแก้วตกลงมาแตกพร้อมกับ EMP ที่แนบด้วยรูปแต่งงานของฮันแทซุลและคังซอแฮ
ทำให้เราคิดว่าเหตุการณ์นั้นน่าจะเกิดขึ้นจากความช่วยเหลือของ Asia Mart ที่หลังจากรอดตายเพราะซอนขับรถเข้ามาช่วย และฮันแทซุลถูกจำกัดการเข้าถึงต่างๆ อยู่ที่เพนต์เฮาส์ของเขา คังซอแฮคงไปตกลงอะไรบางอย่างไว้กับพัคฮยองโด รวมถึงการที่เธอรู้ว่าวันไหนจะเกิดอะไรขึ้นจากไดอะรี่ จึงทำให้เธอไหว้วานบิงบิงให้ช่วยเคลื่อนย้ายมวลสาร (แก้ว EMP และภาพถ่าย) ไปยังจุดที่กำหนดไว้ (เพนต์เฮาส์ของฮันแทซุล) และการนับ 5 4 3 2 1 อาจจะเป็นหนึ่งในกระบวนการปลุกให้ตื่นจากวังวนความคิดที่ฮันแทซุลกำลังเผชิญอยู่ (ซึ่งถูกสร้างโดยคิมซอจิน) โดยเสียงแตกของแก้วก็เรียกเขาให้หลุดพ้นออกมาได้
เพราะเมื่อนำมารวมกับคำพูดของฮันแทซุลหลังจากหยิบเศษแก้วขึ้นมาแล้วพบว่านี่ไม่ใช่แก้วในบ้านเขา (เราลองไปย้อนดูแล้วพบว่าลวดลายค่อนข้างฉูดฉาดเลยทีเดียว) กับประโยคของเจ้าของร้าน Asia Mart ที่ถามคังซอแฮในตัวอย่างตอนต่อไปว่า “เธอคิดว่าจะเปลี่ยนอะไรได้เหรอ?”
เราคิดว่าสาเหตุที่ทำให้เจ้าของร้าน Asia Mart ยอมร่วมมือในครั้งนี้อาจเพราะตัวเขาเองก็มีปมอะไรบางอย่างกับผู้หญิงที่ชื่อคิมจินฮี ที่เขาโอนเงิน 3 ล้านวอนทุกเดือนก็เป็นได้… เพราะถ้าตัวเขาเองก็คิดไม่ต่างจากคนอื่นๆ ที่ย้อนเวลามาเพราะรู้สึกผิดหรือต้องการแก้ไขอะไรบางอย่าง ไม่แน่ว่าบางทีการที่เขายอมร่วมมือในครั้งนี้อาจเพราะคาดหวังว่าคังซอแฮจะสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรบางอย่างที่เขาคาดหวังให้มันเกิดขึ้นอยู่ก็เป็นได้
หมายเหตุ: EMP คืออาวุธที่ใช้พัลส์แม่เหล็กไฟฟ้า (Electromagnetic Pulse) สามารถทำลายหรือทำความเสียหายต่อเป้าหมาย ซึ่งได้แก่ระบบอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ใดๆ ที่มีชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์เป็นองค์ประกอบ
คิมบยองชอล กับบท ‘ซิกม่า’
อีกหนึ่งตัวละครลับที่ปรากฏตัวเพียง 40 วินาทีสุดท้ายของ EP.6 ทำให้เราเริ่มค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบุคคลปริศนานี้ ที่ถึงแม้ไม่เห็นหน้า แต่กลับรู้สึกคุ้นเคยกับเสียงและทรงผมอย่างบอกไม่ถูก ก่อนที่จะเจอว่าเจ้าของท้ายทอยสุดคุ้นเคยนี้คือ คิมบยองชอล นักแสดงที่หลายคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดีจากซีรีส์ Sky Castle และ Doctor Prisoner นั่นเอง!
และแน่นอนว่า JTBC เองก็ไม่ปล่อยให้ผู้ชมต้องเดานาน (เหมือนรู้ใจ) เพราะเช้าวันต่อมาเพจเฟซบุ๊กของช่อง JTBC ก็เผยโปสเตอร์ใหม่พร้อมแคปชัน ‘ซิกม่าโปสเตอร์’ มาประกบคู่กับโปสเตอร์แรกที่ถูกปล่อยออกมาเป็นเงาเลือนราง พร้อมชื่อนักแสดง คิมบยองชอล ต่อจากชื่อของโชซึงอูและพัคชินฮเย ซึ่งเป็นการย้ำชัดถึงบุคคลปริศนาได้ในทันที!
โดยก่อนหน้าที่มีข่าวออกมาว่านักแสดงคิมบยองชอลจะมาปรากฏตัวในซีรีส์ Sisyphus โดยที่ยังไม่มีใครล่วงรู้ว่าเขาจะมาในฐานะอะไร แต่ใน EP.6 ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าเขาน่าจะมารับบทเป็นซิกม่า หนึ่งในตัวละครที่เต็มไปด้วยความลึกลับที่ยังรอให้เราได้ไขปมกันต่อไป โดยตัวละครซิกม่าของคิมบยองชอลนี้ ผู้กำกับจินฮยอกได้ให้คำจำกัดความว่า ‘การ์ดที่ไม่เปิดเผย’ และ ‘วายร้ายคนสุดท้าย’
จับตาอีกหนึ่งนักแสดงรับเชิญ
จากการปรากฏตัวของนักแสดงคิมบยองชอล จึงทำให้เราย้อนนึกถึงอีกหนึ่งนักแสดงที่เคยปรากฏตัวเพียงไม่กี่วินาทีใน EP.1 ช่วงงานเลี้ยงฉลองการเข้าตลาด NASDAQ ของบริษัท Quantum & Time อย่าง อีแจวอน (Record of Youth, Mr. Queen) ที่มาพร้อมกับบทพูดสั้นๆ เพียงว่า “เหลือแค่รอเป็นเศรษฐีแล้วนะครับ”
ถึงจะดูเหมือนว่าเขามาแสดงรับเชิญเพียงสั้นๆ แต่ใน EP.2 ที่ฮันแทซุลนึกได้ว่ากุญแจที่อยู่ในกระเป๋าเดินทางเป็นกุญแจตู้นิรภัยที่อยู่ในห้องวิจัยแรกของบริษัทที่พี่ชายสร้างให้ เมื่อเขาเดินทางกลับไปที่นั่นอีกครั้ง ฮันแทซุลก็ได้พบกับข่าวจากหนังสือพิมพ์แปลกๆ หลายฉบับ โดยหนึ่งในนั้นมีข่าวหนึ่งที่ใช้พาดหัวข่าวว่า ‘สุดยอดผู้จัดการกองทุน คิมดงฮยอน’ พร้อมภาพที่ดูคล้ายกับตัวละครที่อีแจวอนรับเล่น (แต่ภาพเบลอมาก เห็นไม่ค่อยชัดเท่าไร)
หลังจากไปหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนักแสดงอีแจวอนจึงพบว่า ถึงแม้จะไม่รู้ว่าบทบาทที่เขาได้รับนั้นมีชื่อว่าอะไร จะใช่คิมดงฮยอนตามที่คิดไว้หรือเปล่า แต่สิ่งที่ถูกเปิดเผยคือเขาจะมาปรากฏตัวในฐานะ ‘ผู้จัดการกองทุน’ ซึ่งตรงจุดนี้ก็ต้องลุ้นกันต่อไปว่าตัวละครของเขาจะมีบทบาทเพิ่มเติมหรือสำคัญต่อเนื้อเรื่องมากน้อยแค่ไหน เพราะถ้ามีใครสักคนในอนาคตเอาข้อมูลต่างๆ ไปเก็บไว้ในห้องวิจัยเพื่อให้ฮันแทซุลในปัจจุบันเห็น การวงกลมชื่อผู้จัดการกองทุนคิมดงฮยอนเอาไว้เด่นชัดขนาดนั้นก็น่าจะมีมูลอะไรบางอย่างแน่นอน
การดำเนินเรื่องราวจากอินโทรเปิดเรื่อง
ขอปิดท้ายการไขปริศนาไปกับ ‘อินโทร’ ซีรีส์ ที่สังเกตมาสักพักแล้วว่ามีคีย์เวิร์ดหรือสถานการณ์สำคัญต่างๆ ถูกซุกซ่อนเอาไว้ โดยหากเรียงตามการลำดับภาพแล้วจะเป็น
𑇐 ซิซีฟัสเข็นหิน
𑇐 คอมพิวเตอร์ที่ห้องวิจัยแรกของบริษัท
𑇐 UPLOADER
𑇐 เครื่องบิน
𑇐 ด้านในตึกที่มีบันไดเลื่อน
𑇐 กระเป๋าเดินทางรหัสวันเกิดฮันแทซุล
𑇐 Asia Mart
𑇐 กุญแจและตู้เซฟ
𑇐 กองควบคุมที่สวมหน้ากากและชุดป้องกัน
𑇐 เก้าอี้พนักสูงที่ฉากหลังเป็นจอไร้สัญญาณ
𑇐 คนสองคนยืนหน้าแอ่งน้ำ (คนหนึ่งถือปืน) เงาสะท้อนสองโลกที่แตกต่าง
𑇐 นิวเคลียร์
𑇐 ภาพระเบิด
𑇐 ทุกอย่างย้อนกลับไปที่ซิซีฟัสเข็นหินบนสัญลักษณ์ซิกม่า
โดยเมื่อมองจากลำดับภาพแล้ว เหตุการณ์เกือบทั้งหมดนี้ล้วนปรากฏให้เห็นในซีรีส์แล้วทั้งสิ้น น่าจะเหลือแค่ด้านในตึกที่มีบันไดเลื่อน, นิวเคลียร์ และการระเบิดที่ยังไม่ปรากฏให้เห็น โดยใน EP.6 นั้นมีสองซีนที่คาดเดาว่าน่าจะเป็นจุดสำคัญในเรื่อง คือซีนที่คังซอแฮและฮันแทซุลพูดคุยกันอยู่บนสะพานลอย และซีนเปิดตัวซิกม่าที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ท่ามกลางจอมากมายที่น่าจะต้องการสื่อถึงการเฝ้ามอง
หากคีย์เวิร์ดทั้งหมดปรากฏจนครบและเป็นไปตามอินโทรเปิดเรื่อง… อีกไม่นานทุกอย่างน่าจะเริ่มย้อนกลับหรือเริ่มลูปบางอย่างตามมาตรฐานซีรีส์ย้อนเวลาแน่ๆ ซึ่งตรงนี้ก็ต้องติดตามกันต่อว่าคังซอแฮและฮันแทซุลจะสามารถเปลี่ยนแปลง ‘อนาคต’ ของพวกเขาได้ไหม
ซึ่งหากอนาคตเปลี่ยนแปลงจริงๆ ตรงจุดนี้คนดูอย่างเราก็ต้องเตรียมตัวยอมรับว่าโลกจะสงบสุข ไม่เกิดสงคราม แต่ในขณะเดียวกัน ความสัมพันธ์ของฮันแทซุลและคังซอแฮก็อาจจะไม่มีวันเกิดขึ้นเช่นกัน… (อ้างอิงจากซีนแต่งงานที่ฮันแทซุลถูกถามว่า “โลกหรือผู้หญิง เลือกมาอย่างเดียว”)