Law School กับการย้อนรอยคดีดังที่กลายเป็นประเด็นสำคัญในซีรีส์

ในซีรีส์ Law School ได้เลือกใช้ ‘คดี’ สำคัญที่ตรงกับเรื่องจริงที่เกิดขึ้น และนับเป็นหนึ่งในคดีสะเทือนขวัญของเกาหลี เมื่อเด็กผู้หญิงวัย 8 ปีคนหนึ่งถูก โชดูซุน วัย 57 ปี ลักพาตัว ทำร้ายร่างกาย ข่มขืน จนอวัยวะภายในเสียหาย ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลนานถึง 8 เดือน และกลายเป็นผู้พิการไปตลอดชีวิต

“เนื่องจากอัยการไม่อุทธรณ์ ฉันรู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถพิพากษาได้มากกว่าศาลชั้นต้น จากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 10 วรรค 2 ฉันทำได้เพียงลดโทษ เพราะเป็นการกระทำขณะเมา ในฐานะผู้พิพากษา ฉันรู้สึกอับอายและสมเพชมาก

“ขอประกาศคำพิพากษา จากประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 10 วรรค 2 การกระทำของผู้ที่ขาดแคลนความสามารถทั้งหมด เนื่องจากความไม่สมประกอบของร่างกายและจิตใจ ฉันตัดสินให้มีการลดโทษ กฎหมายมาตรานี้จะฝังลึกเข้าไปในกระดูกของฉัน”

ในปี 2008 คิมอึนซุกนั่งบัลลังก์ตัดสินคดี ‘อีมันโฮ’ ผู้ร้ายคดีข่มขืนและทำร้ายร่างกายผู้เยาว์ น้ำเสียงและสีหน้าแสดงออกชัดเจนว่าตัวเธอรู้สึกผิดที่ไม่อาจลงโทษคนร้ายคดีนี้ได้มากกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ เนื่องจากการอ้างว่ากระทำการขณะเมาสุรา ซึ่งกฎหมายเกาหลีใต้ ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 10 วรรค 2 กำหนดไว้ว่า ศาลอาจลดโทษจำคุกลงได้เมื่อคนที่มีสภาพจิตใจบกพร่องก่ออาชญากรรม

และอย่างที่เห็นในซีรีส์ อีมันโฮถูกปล่อยตัวออกมาในปี 2020 โดยต้องสวมกำไลข้อเท้าติดตามตัว แต่นอกจากนั้นก็ไม่ได้มีมาตรการป้องกันให้กับเหยื่อในการมีชีวิตอย่างปลอดภัย

โชดูซุนให้การว่าเขาเมาสุราจนคลุ้มคลั่งและก่อเหตุขึ้น ซึ่งข้ออ้างของเขาทำให้โทษจำคุก 15 ปีลดลงเหลือเพียง 12 ปี โดยอาศัยอำนาจกฎหมายอาญา มาตรา 10 วรรค 2

ในปี 2020 โชดูซุนได้รับการปล่อยตัวท่ามกลางเสียงสาปแช่งของผู้คนทั้งเกาหลี เพราะต่างเห็นตรงกันว่าเขาได้รับโทษเบาเกินไป และเมื่อได้รับการปล่อยตัว เขากลับไปอาศัยในบ้านย่านอันซานที่เคยเป็นสถานที่เกิดเหตุ ซึ่งบ้านของเขาอยู่ห่างจากบ้านเหยื่อผู้เคราะห์ร้ายไม่ถึง 1 กิโลเมตร

แม้ว่าทางตำรวจจะติดตั้งกล้องวงจรปิดทั่วบริเวณ และตั้งป้อมตำรวจใกล้บริเวณบ้านของโชดูซุน พร้อมให้เขาใส่กำไลข้อเท้าติดตามตัวเอาไว้ตลอดเวลา ก็ไม่ได้ช่วยคลายความเดือดแค้นของประชาชน รวมถึงครอบครัวเหยื่อที่ยังคงมีบาดแผลจากเหตุการณ์เลวร้ายครั้งนั้น

หลังการปล่อยตัวโชดูซุน ประชาชนเกาหลีมากกว่า 6 แสนคนได้ลงนามในคำร้องบนเว็บไซต์ทำเนียบประธานาธิบดี เรียกร้องให้มีการไต่สวนคดีนี้ใหม่ และไม่ยอมรับการกลับสู่สังคมของเขา แต่รัฐบาลเกาหลีใต้ให้การปฏิเสธ

ความรู้สึกของคนเกาหลีกับ ‘คดี’ สะเทือนขวัญนี้คงตรงใจกับนักเขียนบท Law School เพราะในบทพูดของอาจารย์คิมอึนซุกเกี่ยวกับคดีอีมันโฮ ได้บอกเอาไว้ชัดเจนแล้วว่า

“อาชญากรรมอันโหดเหี้ยมฝีมือของอีมันโฮนั้นไม่ใช่แค่การข่มขืน แต่เป็นการพยายามฆ่า เป็นอาชญากรอุกฉกรรจ์ที่ไม่ต่างจากฆาตกรต่อเนื่อง การทำเรื่องเลวทรามกับเด็กสาวรุ่นราวคราวลูก อีกทั้งยังไม่รู้จักสำนึกผิด

“แค่คิดถึงผลกระทบที่ตามมาที่ผู้เสียหายต้องเผชิญไปทั้งชีวิต ฉันก็คิดว่าอีมันโฮไม่สมควรได้รับการปล่อยตัวค่ะ”

อ้างอิง:
– https://www.bbc.com/thai/international-55543675
– https://en.wikipedia.org/wiki/Cho_Doo-soon_case