Hospital Playlist 2 เมื่อ ‘ความทรงจำ’ คืออย่างเดียวในชีวิตที่เราไม่อยากพรากจาก
Hospital Playlist 2 เดินทางมาถึงอีพี 8 กับเรื่องราวของเหล่าผู้สูงวัยที่เรียกว่าขยี้อารมณ์กันจนเสียน้ำตา โดยเฉพาะอาการเกี่ยวกับ ‘ความทรงจำ’ ที่หลงๆ ลืมๆ ของ ออมม่าโรซ่า คุณแม่ของจองวอน ซึ่งเราได้เห็นลางบอกเหตุมาหลายครั้งก่อนหน้า ทั้งการลืมหมวก ลืมวันสำคัญ หรือที่พีดีชินวอนโฮแอบปูพื้นไว้ตั้งแต่ซีซัน 1 กับซีนที่หารถในลานจอดรถไม่เจอ แต่มานึกได้ทีหลังว่าตัวเองไม่ได้เอารถมา ซึ่งคนใกล้ชิดก็มองว่าเป็นปกติของคนแก่ที่ต้องหลงลืมเป็นธรรมดา
ซึ่งเป็นปกติเช่นกันที่เราอาจมองไม่เห็นความผิดปกติที่เกิดขึ้น กระทั่งคุณลุงจงซู หรือแม้แต่จองวอนที่ไปหาออมม่าเป็นประจำทุกสุดสัปดาห์ก็ยังไม่รู้สึกว่าเป็นอาการหลงลืมที่ผิดปกติร้ายแรง
แต่ในฉากที่ผู้หญิงสูงวัยยืนอยู่หน้าบ้านตัวเอง กดรหัสประตูซ้ำไปซ้ำมาเท่าไหร่ก็ไม่สามารถเปิดล็อกประตูได้นั้น ความสับสน งุนงง พร้อมความเสียใจ หวาดกลัวที่มองเห็นบนใบหน้าของออมม่าโรซ่ากลายเป็นจุดเริ่มต้นของความชัดเจนว่าเธอน่าจะมีปัญหาทางด้านสมอง ไม่ว่าจะเรียกว่าโรคสมองเสื่อม อัลไซเมอร์ หรืออะไรก็ตาม
สิ่งนี้หมายความว่า ‘ความทรงจำ’ ที่เก็บสะสมมาทั้งชีวิต ทั้งยังหลอมรวมให้เธอเป็นเธออย่างทุกวันนี้ รวมถึงความจำในสุขทุกข์ที่ผ่านพบ คู่ชีวิต วัยหนุ่มสาว เพื่อนรัก ลูกชาย ลูกสาว สมบัติล้ำค่าเหล่านี้คือของของเราเพียงคนเดียว และมันกำลังจะจางหายไป
ซึ่งเรื่องน่าเศร้าที่สุดไม่ใช่สำหรับตัวออมม่าโรซ่าเอง แต่เป็นลูกๆ ที่เธอรักทุกคน เพราะไม่มีอะไรจะมาบอกได้ว่าวันหนึ่งในอนาคต เธออาจมองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนด้วยสายตาว่างเปล่า เพราะจำไม่ได้ว่านี่คือลูกชายที่คลอดมาด้วยตัวเอง
ฉากที่ออมม่าโรซ่านั่งอยู่ข้างเตียง ถอนใจก่อนจะล้มตัวลงนอนคืนนั้น บนโต๊ะเล็กๆ ข้างเตียง แสงไฟส่องให้เห็นสมุดโน้ตเขียนรหัสประตูบ้านเอาไว้เตือนความจำ พร้อมด้วยวันเกิดลูกๆ ของเธอทุกคน ‘บ้านและครอบครัว’ คือสมบัติสุดท้ายที่เธอไม่อยากลืม
ความกลัวในจิตใจเป็นสิ่งที่ทำให้ออมม่าโรซ่าเลื่อนการไปตรวจที่โรงพยาบาล ทั้งยังตอบจงซูตอนที่แนะนำให้เปลี่ยนตู้เย็นใหม่ว่า “จะมีชีวิตอยู่อีกนานแค่ไหนกันเชียว เปลี่ยนตอนนี้ก็ได้ใช้อีกแค่ไม่กี่ปี” ซึ่งเชื่อได้ว่าถ้าที่บ้านคุณมีผู้สูงวัยก็น่าจะเคยได้ยินคำพูดเช่นนี้ ด้วยวัยที่เหลือเวลาอีกไม่นานนัก ความรู้สึกที่ไม่มีกำลังใจจะสู้คงลดน้อยถอยลงไปตามกาลเวลา
แต่สุดท้ายเมื่อต้องเผชิญกับเหตุการณ์คาดไม่ถึง ออมม่าโรซ่าเกิดอุบัติเหตุหกล้มหัวกระแทกที่บ้าน เธอจึงต้องไปตรวจรักษากับซงฮวาที่โรงพยาบาลยุลเจ จนพบว่ามีแนวโน้มเป็นภาวะโพรงสมองคั่งน้ำที่ต้องรักษาด้วยการระบายน้ำไขสันหลังออก ถ้ารักษาด้วยวิธีนี้แล้วเดินเหินสะดวกขึ้น สมองปลอดโปร่งกว่าเดิม ก็จะวินิจฉัยได้ว่าอาการหลงๆ ลืมๆ และการทรงตัวที่ไม่ดีนักเกิดขึ้นจากโพรงสมองคั่งน้ำ ซึ่งสามารถผ่าตัดรักษาเพื่อให้หายดีขึ้นได้
โรซ่า: “ไม่ใช่โรคสมองเสื่อมหรอกเหรอ”
ซงฮวา: “โชคดีที่ภาวะสมองเสื่อมซึ่งเกิดจากโพรงสมองคั่งน้ำสามารถรักษาได้ แน่นอนค่ะว่าต้องผ่าตัดถึงจะรู้ และผู้ป่วยแต่ละรายก็จะต่างกันออกไป แต่ว่าตอนนี้เพิ่งจะเริ่มมีอาการได้ไม่นาน อายุของคุณแม่ค่อนข้างน้อยด้วย แค่รับการรักษาอย่างดีก็จะกลับไปแข็งแรงเหมือนเดิมได้ค่ะ”
โรซ่า: “ซงฮวา ฉันรับได้หมดเลย จัดมาให้หมดนะ ไม่ว่าจะผ่าตัดหรือรักษา ฉันก็ทนได้ทุกอย่าง”
ขอเพียงไม่เป็นโรคสมองเสื่อมหรือโรคที่ทำให้ความทรงจำทั้งหมดจางหาย ออมม่าโรซ่าก็ยินดีที่สุดแล้ว เธอเข้ารับการรักษาอย่างตั้งใจ เป็นคนไข้ที่ดี ทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ยิ่งได้ลูกชายลูกสาวมาให้กำลังใจ ก็ดูเหมือนว่าสายรุ้งกำลังพาดผ่าน หลังพายุฝนที่เพิ่งพัดผ่านไป
บทสนทนาระหว่างโรซ่ากับจองวอนน่าจะเป็นคำตอบให้กับทุกครอบครัวที่กำลังเผชิญปัญหาเดียวกัน เพราะในช่วงวัย 30-40 เป็นห้วงเวลาที่เราต้องพบเจอปัญหาสุขภาพของพ่อแม่ผู้ปกครองทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ และสำหรับหลายคนก็อาจเป็นการเตรียมตัวบอกลาผู้ใหญ่ที่เรารัก
สำหรับผู้สูงวัย อย่างเดียวที่เขาเป็นห่วงคือลูกหลานที่อยู่ข้างหลัง
สำหรับลูกๆ เราอยากเห็นพ่อแม่มีความสุข ให้รางวัลกับชีวิตตัวเอง ลองทำทุกอย่างที่จะสร้างรอยยิ้มได้ และปล่อยให้ที่เหลือเป็นเรื่องของมัน
“ผมอยากให้แม่เห็นแก่ตัวบ้าง ไม่ต้องเป็นห่วงลูกๆ แล้ว สมมติในอนาคตหากจำพวกเราไม่ได้จริงๆ ก็อย่ากังวล ลูกๆ ทุกคน จะจดจำแม่ไปตลอดทุกวันนะครับ”