fxs-shogun-production-team-interview

สัมภาษณ์พิเศษ ผู้สร้าง FX’s Shogun กับสิ่งที่เรียนรู้และอยากส่งผ่านซีรีส์มหากาพย์แห่งยุค

เป็นช่วงบ่ายของลอสแอนเจลิส ดูซีรีส์ให้ซีเรียส สัมภาษณ์ จัสติน และ ราเชล สองนักเขียนและผู้สร้างซีรีส์ FX’s Shogun สัมผัสได้เลยว่าพวกเขาตื่นเต้นกับโปรเจกต์นี้เอามากๆ และตื่นเต้นไม่แพ้กันตอนที่รู้ว่าแฟนซีรีส์ชาวไทยก็กำลังติดตามรอลุ้น FX’s Shogun ทุกๆ อีพีแบบเรียลไทม์

ระหว่างที่สัมภาษณ์เป็นการออกอากาศ FX’s Shogun EP.6 ซึ่งเดินทางมาถึงช่วงกลางของเรื่องราว จัสตินและราเชลได้เปิดเผยเบื้องหลังงานสร้างฉากสำคัญในอีพีนี้ให้เราฟัง พร้อมด้วยเรื่องราวที่ทำให้พวกเขาได้เติบโตและเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับการสร้างโปรเจกต์นี้ จากหนังสือหนากว่าพันหน้าให้กลายมาเป็นซีรีส์ที่ตรงตามวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น ซีรีส์ที่ว่ากันว่าใช้ทุนสร้างสูงสุดของ FX เป็นประวัติการณ์ และความสมบูรณ์แบบของมันเป็นที่ยอมรับกันว่างดงามที่สุดเท่าที่จะสร้างออกมาได้แล้ว

อย่างย่อสำหรับ จัสติน มาร์กส และ ราเชล คนโด 

จัสตินเป็นที่รู้จักในวงการอย่างดีนับจากงานเขียนบท The Jungle Book ที่กำกับโดย จอน ฟาฟวโร และร่วมเขียนบทภาพยนตร์ Top Gun: Maverick ที่เขาถูกเสนอชื่อเข้าชิงออสการ์สาขาบทภาพยนตร์ดัดแปลงยอดเยี่ยม ก่อนรับงานสเกลยักษ์  FX’s Shogun เขาเป็นผู้สร้างซีรีส์ Counterpart มาแล้ว

ราเชล คนโด  เป็นนักเขียนที่เกิดและเติบโตที่ฮาวาย ก่อนจะย้ายไปเรียนมหาวิทยาลัยเท็กซัส ที่ออสติน เรื่องสั้น Girl of Few Seasons ได้รับเลือกเข้ารอบสุดท้ายงานประกาศรางวัล O. Henry Award เธอร่วมเป็นนักเขียนและผู้สร้างซีรีส์ FX’s Shogun

fxs-shogun-production-team-interview

เชื่อว่าคุณต้องทำการบ้านและหาข้อมูลเยอะมากเพื่อทำโปรเจกต์นี้ อยากให้เล่าถึงการทำงานที่เรียกว่ามหากาพย์ครั้งนี้สักหน่อย มันส่งผลกับพวกคุณอย่างไร

ราเชล: ฉันคิดว่าข้อดีอย่างหนึ่งของการทำงานโปรเจกต์นี้ที่ยาวนานมากๆ จริงๆ มันใช้เวลาหลายปีมากๆ ข้อดีก็คือเรามีช่วงเวลาที่ได้เรียนรู้ทีละขั้นละตอน และเติบโตไปพร้อมๆ กับซีรีส์ FX’s Shogun 

อย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้เลยคือเราสองคนเป็นอเมริกัน เพราะฉะนั้นอย่างหนึ่งที่เราต้องเรียนรู้เลยคือการที่เราเป็นคนตะวันตก และเราก็มองจากมุมของตะวันตก ตอนแรกที่เราเขียนบทซีรีส์กับทีมนักเขียน ซึ่งส่วนใหญ่เลยจะเป็นเอเชีย-อเมริกัน นั่นเลยเป็นเฟสแรกของการที่เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับรายละเอียดของเรื่องราวจากมุมมองอื่น

หลังจากนั้นก็เกิดเหตุการณ์โควิด ซึ่งทำให้เรามีเวลาอีกเยอะมากในการทำงาน เราได้ปรึกษากับคนญี่ปุ่นที่เชี่ยวชาญประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมจริงๆ พอพวกเขาได้อ่านบทซีรีส์ก็ช่วยแก้ไข ปรับ ขยับคำพูด หรือวิธีพูดคุยต่างๆ พวกเขาให้คำแนะนำและสอนให้ความเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมญี่ปุ่น มันทำให้เราลงลึกเข้าไปในเรื่องราวได้มากขึ้น 

นอกจากนี้ เราได้เรียนรู้จากการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ ของญี่ปุ่น ทั้งนักประวัติศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญที่ให้คำแนะนำในเรื่องการเคลื่อนไหว ท่าทาง ท่าเดินของคนญี่ปุ่นในยุคนั้น ผู้เชี่ยวชาญเรื่องทรงผม การแต่งหน้า เครื่องแต่งกาย เราได้คนที่มีความรู้ด้านนั้นๆ โดยตรงมาสอนเรา มาแชร์ความสามารถต่างๆ เหล่านี้ให้เราได้เรียนรู้และสร้างสรรค์ซีรีส์ออกมาอย่างถูกต้อง

จัสติน: อย่างที่ราเชลบอกไปครับ ผมคิดว่ามีฉากหนึ่งใน EP.6 ที่เพิ่งผ่านไป ก็คือฉากในโรงละครโน (Noh Theater) โอ๊ย ผมดีใจมากเลยครับที่พูดถึงฉากนี้ได้สักที เพราะมันค่อนข้างสปอยล์เรื่องราวเหมือนกัน 

ในฉากนี้โปรดักชันใหญ่มาก เราเตรียมโรงละครหลายสัปดาห์เลยครับ มีผู้เชี่ยวชาญเรื่องโรงละครโน รวมถึงนักแสดงจริงๆ บินจากญี่ปุ่นเพื่อมาเข้าฉากนี้ ไม่ใช่แค่ความตั้งใจถ่ายทอดวัฒนธรรมละครโน เรายังต้องการให้ฉากนี้สะท้อนอะไรบางอย่างกับเรื่องราวใน FX’s Shogun ด้วย 

เบื้องหลังฉากนี้เลยเต็มไปด้วยความสมจริงเชิงวัฒนธรรมเก่าแก่ที่เราปรับเปลี่ยนให้ฉากสมจริงตรงตามประวัติศาสตร์ของละครโน แต่บทที่ใช้ในละครเป็นสิ่งที่แต่งขึ้นมาใหม่ให้ตรงกับเนื้อเรื่องซีรีส์ เราตั้งใจทำให้งานของเราเป็นทั้งสิ่งที่มีอยู่จริงในประวัติศาสตร์ และเป็นสิ่งที่เราสร้างขึ้นเพื่อเล่าเรื่องราวในยุคของปัจจุบัน 

**โรงละครโน หรือ Noh Theatre คือการแสดงละครสวมหน้ากากแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นตั้งแต่สมัยเอโดะ หรือตรงกับสมัยของโทรานากะในซีรีส์ FX’s Shogun โดยทางโปรดิวเซอร์ FX’s Shogun ได้ทำงานร่วมกับ คาซุฟุสะ โฮโช มาสเตอร์ด้านละครโน มีการสร้างสรรค์บทกวีและออกแบบท่าทางเพื่อให้ฉากนี้คือละครซ้อนละคร 

สนใจศึกษาต่อเบื้องหลังฉากนี้ รับชมเพิ่มเติมได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=mk-Df0UUifU

FX’s Shogun เล่าเรื่องราวในญี่ปุ่น แต่การถ่ายทำอยู่ที่บริติชโคลัมเบีย ประเทศแคนาดา เรารู้มาว่าพวกคุณแทบจะสร้างเมืองขึ้นมาจริงๆ อยากรู้ว่าการสร้างซีรีส์ขึ้นมา สำหรับคุณความรู้สึกมันยิ่งใหญ่แบบไหน

ราเชล: ใช่เลยค่ะ มันใหญ่มาก ในตอนแรกเราก็ไม่รู้ว่าจะเล่าเรื่องราวของ Shogun ออกมายังไง เพราะมันใหญ่มาก และสเกลก็ใหญ่ไปมากกว่าที่เราหรือใครจะจินตนาการออก 

การทำงานในซีรีส์เรื่องนี้มันเหมือนกับว่าเรากำลังขับรถ ในขณะเดียวกันก็สร้างรถคันนั้นไปด้วย คุณต้องเรียนรู้ที่จะเล่าเรื่องของ Shogun ขณะเดียวกันก็ต้องเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกับผู้คนมากมายในการสร้างให้เรื่องราวให้ถูกต้องสมบูรณ์ คนที่ทำงานด้วยส่วนหนึ่งก็เป็นคนที่คุณไม่เคยรู้จักหรือเคยทำงานด้วยมาก่อน คนจำนวนหนึ่งพูดภาษาที่ต่างออกไปด้วย การทำงานนี้มันเลยใหม่มากๆ สำหรับพวกเรา 

จัสติน: ในกองถ่ายของเราที่บริติชโคลัมเบีย ส่วนใหญ่จะเป็นทีมงานชาวแคนาดาครับ แล้วเราก็ชวนทีมงานญี่ปุ่นเข้ามา ทั้งนักแสดงสมทบ นักแสดงหลัก โปรดิวเซอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เป็นการทำงานที่ร่วมกันกับทีมแคนาดา ผู้กำกับ ผู้ช่วยผู้กำกับที่มีหลายชาติหลายภาษา ทุกๆ วันก็คือการทำงานร่วมกันเป็นกลุ่มของความเชี่ยวชาญต่างๆ

fxs-shogun-production-team-interview
fxs-shogun-production-team-interview

ซีรีส์ FX’s Shogun อาจจะเป็นเรื่องของการต่อสู้ สงครามของซามูไร แต่จริงๆ ก็มีการเล่าเรื่องของผู้หญิงได้อย่างน่าสนใจ อย่างเช่นตัวละครมาริโกะที่มีมิติลึกซึ้ง อยากให้เล่าถึงการทำงานกับตัวละครมาริโกะสักหน่อย

ราเชล: คาแรกเตอร์ของมาริโกะน่าจะเป็นตัวละครที่มาเติมเต็มการเดินทางของเรากับซีรีส์ FX’s Shogun โดยเฉพาะการเดินทางระหว่างเรา มาริโกะ และแอนนา ซาไว นักแสดงที่รับบทนี้ 

ฉันค่อนข้างเซอร์ไพรส์ตัวเองเหมือนกันนะคะ เพราะเอาจริงๆ ฉันก็หลงใหลในคาแรกเตอร์ของแบล็คธอร์น โทรานากะ ยาบูชิเกะ แต่ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันหลงใหลในตัวมาริโกะ อาจจะเพราะว่าฉันได้เรียนรู้เยอะที่สุดผ่านตัวละครนี้นะคะ

เธอมีข้อจำกัดมากมาย มีเส้นทางชีวิตที่ยากลำบาก ความโศกเศร้าที่ครอบครัวถูกฆ่าตาย ชีวิตแต่งงานก็ไม่ได้มีความสุข แล้วก็ยังเป็นผู้หญิงคริสเตียนที่อยู่ในสังคมที่ไม่ใช่คริสเตียนอีก แต่อย่างหนึ่งก็คือเธอเป็นผู้หญิงที่มีตัวตนอยู่จริงในสังคมเวลานั้น ฉันคิดว่าการเล่าเรื่องของผู้หญิงในซีรีส์คือการถ่ายทอดให้เห็นน้ำหนักที่เธอแบกเอาไว้บนบ่า ความหนักหนาที่เธอต้องแบกรับ และมาริโกะยังเป็นคาแรกเตอร์ที่สอนเราเยอะมาก 

ฉันคงจะไม่สปอยล์ตอนจบของเรื่อง แต่มาริโกะสอนฉันเยอะมากกับการอยู่ในกรอบที่ถูกจำกัดทางสังคม วัฒนธรรม ไปจนถึงครอบครัว ทุกอย่างคือการที่แม้ว่าผู้หญิงคนหนึ่งจะถูกกรอบจำกัดเอาไว้ แต่ก็มีวิถีทางในการเติบโตของตัวเอง มาริโกะบอกเราแบบนั้น และฉันประหลาดใจมากๆ ที่เห็นเธอตัดสินใจอะไรบางอย่างในตอนสุดท้าย

fxs-shogun-production-team-interview

ถึงตรงนี้ แฟนซีรีส์ FX’s Shogun รวมถึงคนที่เป็นแฟนหนังสือชุดของ เจมส์ คาร์เวลคงอยากรู้ว่าพวกคุณวางแผนโปรเจกต์ต่อไปไว้บ้างไหม มีโอกาสที่เราจะได้ดูซีรีส์จากหนังสือของคาร์เวลอีกหรือเปล่า

จัสติน: ยังไม่รู้เลยครับ ตอนนี้เราพยายามเคารพการทำงานกับคนที่อ่านหนังสือต้นฉบับน่ะครับ อยากให้ซีรีส์เล่าเรื่องอย่างที่มันควรจะเป็นก่อนที่เราจะเริ่มคุยกันถึงโปรเจกต์ต่อไป เพราะอย่างในตอนนี้ซีรีส์ FX’s Shogun ก็ยังมีปมที่ยังไม่ได้คลี่คลาย ยังมีอีกหลายอย่างเลยครับที่เราอยากให้รอติดตาม ยังมีสปอยล์ที่เราอยากรอให้คนดูได้เดินทางไปพร้อมๆ กันจนจบก่อน 

อ่านรีวิว FX’s Shogun โดยดูซีรีส์ให้ซีเรียส ตั้งแต่ EP.1-10 ได้ที่ https://theseriousseries.com/tag/fxs-shogun/

ภาพ: Disney+ Hotstar

ติดตามเนื้อหาสนุกๆ ของ ‘ดูซีรีส์ให้ซีเรียส’ ได้ที่ช่องทางต่างๆ ดังนี้
Facebook: TheSeriousSeries.TH
Twitter: TheSeriousSerie
YouTube: The Serious Series
Website: Theseriousseries.com
สมัครสมาชิกเพื่อรับข่าวสารและสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ Link นี้