Extraordinary Attorney Woo EP.11-12 เพื่อนหญิงพลังหญิง กับสังคมชายเป็นใหญ่ที่ไม่มีวันสิ้นสลาย

Extraordinary Attorney Woo EP.11-12 เล่าถึง ‘สังคมปิตาธิปไตย’ วัฒนธรรมหลักที่กดทับผู้หญิงเกาหลีผ่านคดีในสองอีพีนี้ได้อย่างน่าสนใจ รวมไปถึงความสัมพันธ์ระหว่าง อูยองอู กับ อีจุนโฮ ที่ดูเหมือนว่ากำลังไปได้สวยเช่นกัน เพราะทั้งคู่เริ่มออกเดต และได้ทำตามลิสต์สิ่งที่ต้องทำตอนออกเดตกันแล้วด้วย

เรื่องเงินทองเป็นสิ่งที่ไม่เข้าใครออกใคร ทุกคนพร้อมจะเปลี่ยนไปได้เพียงเพราะเพื่อ ‘เงิน’ อย่างในคดีรางวัลลอตเตอรี่ในอีพีที่ 11 เพื่อนนักพนันสามคนต้องแตกคอกันเพราะเคยรวมเงินกันซื้อลอตเตอรี่ แล้วตกลงกันไว้ว่าหากใครคนหนึ่งถูกรางวัลจะหาร สาม แต่แล้วเมื่อมีเพื่อนคนหนึ่งถูกรางวัล เขาดันบอกว่าไม่เคยสัญญาอะไรแบบนั้น จนเพื่อนอีกสองคนเกิดความไม่พอใจและตัดสินใจขอฟ้องร้อง

จนในที่สุดเพื่อนสองคนที่ฟ้องร้องก็ชนะคดีความในชั้นศาล และได้เงินส่วนแบ่งคนละประมาณ 1,400 ล้านวอน แต่แล้ว ชินอิลซู หนึ่งในโจทก์ที่ชนะคดีความก็เริ่มเปลี่ยนไป จากที่เคยหวานสุดขีดกลายมาเป็นหยาบคายกับภรรยา เขาทะเลาะและทำร้ายร่างกายภรรยา จนยองอูแอบสังเกตว่าเขากำลังคบชู้กับผู้หญิงคนหนึ่ง และต้องการขอหย่ากับภรรยา 

สิ่งนี้สะท้อนให้เห็นว่าภรรยาต้องอยู่ภายใต้อำนาจของสามีที่มีสิทธิ์ในการตัดสินใจทุกเรื่อง ผู้หญิงไม่สามารถออกเสียงอะไรได้ เหมือนเป็นคนที่ต่ำต้อยกว่า ทั้งๆ ที่ผ่านมาภรรยาของอิลซูคือคนที่ทำงานหนักเพื่อหาเงินมาใช้จ่ายหนี้พนันของสามี

ในส่วนของคดีสิทธิมนุษยชนและแรงงานในอีพี 12 นั้น เราได้เห็นถึงความเป็นสังคมปิตาธิปไตยในเกาหลีชัดเจนขึ้นมาก เพราะในคดีนี้ บริษัทประกันมีร์ได้ออกนโยบายระหว่างการปรับโครงสร้างบริษัทในเชิงบีบบังคับให้ภรรยาต้องเป็นคนลาออกจากงาน หากคู่สามีภรรยาทำงานที่เดียวกัน 

เพราะถ้าหากไม่ลาออก สามีจะถูกพักงานและไม่ได้รับค่าจ้าง สุดท้ายภรรยาก็ต้องเป็นฝ่ายจำใจลาออกเพราะนโยบายนี้ พนักงานหญิง 2 คนจากร้อยกว่าคนที่ถูกเลิกจ้างจึงต้องการยื่นฟ้องร้องเพื่อให้การเลิกจ้างเป็นโมฆะ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ยุติธรรมสำหรับเธอ รวมถึงผู้หญิงในสังคมเกาหลีที่ถูกกดทับด้วยแนวคิดปิตาธิปไตยมายาวนาน

ประเด็นนี้สื่อให้เห็นถึงการเลือกปฏิบัติต่อผู้หญิง ทำให้ผู้หญิงต้องเสียเปรียบกว่า ทั้งที่ผู้หญิงเองก็ทำงานให้กับบริษัทอย่างหนักจนเลือดตาแทบกระเด็นไม่แพ้ผู้ชาย แต่กลับต้องสละหน้าที่การงานเพราะนโยบายที่ลำเอียงเช่นนี้ 

ในซีรีส์ Extraordinary Attorney Woo ยังมีบทพูดว่าเกาหลีใต้อยู่ภายใต้แนวคิดปิตาธิปไตย หรือสังคมชายเป็นใหญ่ ซึ่งนับเป็นสิ่งที่ยากที่จะแก้ไข เพราะมันฝังรากลึกมานานแล้ว แม้แต่เรื่องเงินเดือน ผู้ชายในสังคมเกาหลียังมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าผู้หญิงด้วยซ้ำ 

จนในท้ายที่สุด ทนายรยูแจซุกกับลูกความก็พ่ายแพ้ในคดีความนี้ แต่ถึงจะแพ้ พวกเขาก็สู้กันจนสุดแรงแล้ว และปิตาธิปไตยคงไม่สามารถแก้ได้ภายวันเดียว

นอกจากนี้ซีรีส์ยังกล่าวถึงประเด็นการกดขี่แรงงานของนายทุนที่เอารัดเอาเปรียบลูกจ้าง ให้ลูกจ้างทำงานอย่างหนัก แต่กลับขาดความใส่ใจ เราจะเห็นได้จากการที่มุนจงชอล หัวหน้าฝ่ายบุคคลของมีร์ประกันชีวิต จะถูกให้ออกจากงานโดยอ้างว่าบริษัทปรับโครงสร้างได้ไม่ดีพอ แถมเขายังมีเรื่องขึ้นศาล ออกข่าว รวมไปถึงการชุมนุม บริษัทจึงต้องการให้เขาออกจากงาน หรือทนายจองมยองซอกที่ทำงานอย่างหนักจนกินข้าวไม่เป็นเวลา แถมยังพักผ่อนน้อย ทำให้ตัวเองเริ่มป่วย ถึงขั้นไอเป็นเลือดออกมา

ทางด้านของอูยองอูกับอีจุนโฮนั้น ความสัมพันธ์ก็กำลังไปได้สวย ทั้งคู่ออกเดตกันและได้ทำตามเช็กลิสต์ไปหลายข้อ ทั้งการประท้วงอิสระให้โลมา วิ่งจ๊อกกิ้งพร้อมเก็บขยะริมแม่น้ำฮัน ทัวร์กินร้านคิมบับทั้งวัน เล่นเกมจับผิดภาพที่ร้านตู้เกม 3 ชั่วโมง 

แต่ว่าด้วยไลฟ์สไตล์ที่ยังไม่ตรงกัน ทำให้จุนโฮรู้สึกว่าการไปเดตกับยองอูตามลิสต์ที่เขียนไว้ยังไม่ชินสำหรับเขา เพราะปกติแล้วคู่รักไม่ค่อยทำอะไรแบบนั้นกันตอนเดต แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็เลือกที่จะเดตกับยองอูต่อ เพราะ ‘ความชอบ’ นั่นเองเขาถึงได้ยอมทำขนาดนั้น 

หนทางความรักระหว่างยองอูและจุนโฮยังคงต้องเดินหน้าต่อไป พบผ่านด่านปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ที่ยากยิ่งกว่าความสัมพันธ์แบบปกติ แต่เราก็หวังว่าโลกของทนายอูยองอูคงไม่ใจร้ายกับเธอนัก

เรื่องโดย ธนภัทร จันทร์เหม