Why Her? ทำความรู้จัก ‘แชโบล’ กลุ่มบริษัทที่ทรงอิทธิพลทางเศรษฐกิจที่สุดในเกาหลี
หลายคนที่ดูซีรีส์เรื่อง Why Her? มาจนถึงตอนนี้คงต้องเคยได้ยินชื่อกลุ่มบริษัท ‘ฮันซูกรุ๊ป’ กันมาบ้างแล้ว ซึ่งเป็นบริษัทที่ทำหลากหลายธุรกิจเชื่อมโยงเป็นเครือข่าย เช่น ฮันซูไบโอ และบริษัทก่อสร้างฮันซู โดยทั้งหมดอยู่ภายใต้การดูแลของประธาน ‘ฮันซองบอม’ ลูกค้าคนสนิทของ TK Law Firm อีกทั้งฮันซูกรุ๊ปยังถือเป็นกลุ่มบริษัท ‘แชโบล’ อีกด้วย ซึ่งนับว่ามีความสำคัญกับเรื่องราวในซีรีส์เป็นอย่างมาก
นำมาสู่คำถามต่อมาว่ากลุ่มบริษัทแชโบลในสังคมเกาหลีจริงๆ นั้นทำธุรกิจอะไรบ้าง? เติบโตขึ้นมาได้อย่างไร? รวมทั้งอะไรเป็นเหตุผลให้บริษัทแชโบลมีอิทธิพลทางเศรษฐกิจอย่างมากในเกาหลี? ดูซีรีส์ให้ซีเรียส จะพาทุกคนมาหาคำตอบไปด้วยกัน
‘พัคจองฮี’ จุดเปลี่ยนที่ทำให้เกิดตระกูล ‘แชโบล’
แชโบล หรือแชบอล (재벌) หมายถึง กลุ่มเศรษฐีหรือตระกูลธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีความร่ำรวย อันที่จริงแชโบลก็มีการก่อร่างสร้างตัวมานานแล้ว แต่เริ่มเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วตั้งแต่ช่วงปี 1960 เป็นต้นมา เนื่องจากช่วงนั้นเป็นช่วงที่ประธานาธิบดีพัคจองฮีทำการรัฐประหารประธานาธิบดียุนโบซอนและขึ้นรับตำแหน่งแทน พัคจองฮีต้องการให้เกาหลีปรับประเทศจากเกษตรกรรมสู่อุตสาหกรรมหนัก เพื่อให้ประเทศอยู่ด้วยตนเองได้ในอนาคต
นอกจากนี้ ในช่วงเวลาดังกล่าวก็กำลังเกิดสงครามเวียดนามอยู่พอดี เกาหลีที่กำลังต้องการเงินทุนในการนำมาพัฒนาประเทศจึงได้ตัดสินใจขอแลกเงินกู้กับการส่งทหารไปหนุนที่เวียดนามกับทางสหรัฐฯ และญี่ปุ่น
เมื่อได้รับเงินกู้มาแล้ว พัคจองฮีก็นำมาลงทุนกับกลุ่มบริษัทใหญ่ อีกทั้งยังมีการออกกฎหมายที่เอื้อต่อนายทุน ในที่สุดบริษัทเหล่านี้มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว กลายมาเป็นกลุ่มบริษัทแชโบลที่ยิ่งใหญ่จนถึงปัจจุบัน จนกลายเป็นที่กล่าวขวัญว่าเป็น ‘ปาฏิหาริย์แห่งแม่น้ำฮัน’
ไม่ใช่ทุกคนที่จะเป็นแชโบลได้
ปัจจุบันมีกลุ่มบริษัทแชโบลอยู่ประมาณ 40 แห่ง แต่บริษัทที่คนไทยน่าจะคุ้นเคยหรือรู้จักกันดี เช่น Samsung, LG, Hyundai, SK Group, Lotte ซึ่งก็ถือเป็นกลุ่มบริษัทแนวหน้าของแชโบลอีกด้วย ทั้งนี้ บริษัทขนาดใหญ่ไม่จำเป็นต้องเป็นแชโบล และในทางกลับกัน แชโบลก็ไม่จำเป็นต้องเป็นกลุ่มบริษัทใหญ่ด้วยเช่นกัน
ในจำนวนบริษัทยักษ์ใหญ่ของเกาหลี มีบริษัทที่ไม่ใช่ตระกูลแชโบลอยู่เพียงไม่กี่บริษัทเท่านั้น เช่น Shinhan Financial Group, Kakao Corporation, Naver Corporation นอกจากนี้บริษัทขนาดกลางหรือขนาดเล็กในเกาหลีบางบริษัทก็เป็นของแชโบลด้วย เช่น Samsung Life Insurance, Lotte Chemical, Korean Air เพราะแต่ละตระกูลอาจมีการดำเนินกิจการในเครือที่แตกต่างออกไป และมักจะไม่ทำแค่ธุรกิจเดียวอยู่แล้ว
อย่างไรก็ดี ไม่ใช่กลุ่มบริษัทใหญ่หรือเศรษฐีทุกคนที่จะเรียกตนเองว่าแชโบลได้ คนที่จะเรียกตนเองว่า ‘แชโบล’ ได้นั้นต้องมีความสัมพันธ์ทางสายเลือดหรือมีความเป็นเครือญาติกันอยู่ด้วย เช่น บริษัท Samsung เป็นลูกหลานของอีบยองชอล (이병철) และเขามีเครือญาติทางแชโบลคือ บริษัท CJ Group บริษัท Shinsegae Group และบริษัท Hansol Group ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทขนาดใหญ่ของเกาหลี
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะอย่างที่เรามักจะเห็นในซีรีส์เกาหลีที่มีการนัดบอดหรือจับคู่แต่งงานให้กับลูกหลานของตระกูลพันธมิตรที่จะส่งเสริมสายสัมพันธ์ในด้านธุรกิจซึ่งกันและกัน
อิทธิพลของกลุ่มบริษัทแชโบลในเกาหลี
กลุ่มบริษัทแชโบลมีรายได้เท่ากับ 80% ของ GDP ประเทศ และบริษัท Samsung เพียงบริษัทเดียวก็กิน GDP ของประเทศไปถึง 20% แล้ว
ถึงแม้กลุ่มบริษัทแชโบลจะกลายมาเป็นแกนหลักของเศรษฐกิจเกาหลีตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน แต่ก็ยังมีกระแสต่อต้านจากประชาชนชาวเกาหลีให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ เนื่องจากผู้คนมองว่าแชโบลทำให้เกิดการผูกขาดทางการค้า เกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคม อีกทั้งยังมีเรื่องของการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย
แม้รัฐบาลในช่วงหลังๆ มาจะมีความพยายามควบคุมอิทธิพลการดำเนินธุรกิจของกลุ่มแชโบลมากขึ้น แต่มาตรการดังกล่าวก็ทำอะไรไม่ได้มากนัก เพราะกลุ่มแชโบลยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ทรงพลังของประเทศอยู่ดี และยังมีเรื่องผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องเช่นกัน
สำหรับธุรกิจของแชโบลอย่าง ‘ฮันซูกรุ๊ป’ ในซีรีส์เรื่อง Why Her? ก็นับว่ามีบทบาทต่อเรื่องราวในซีรีส์เป็นอย่างมาก เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญหลายๆ อย่าง ตัวอย่างเช่น การหนุนหลังให้ ส.ส.อีอินซู ในการลงสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดี เพราะตนหวังผลอะไรบางอย่าง
หรือจะเป็นเรื่องที่โอซูแจต้องเข้ามาพัวพันกับการซื้อขายกิจการฮันซูไบโอ ซึ่งโอซูแจที่ถือไพ่เหนือกว่าเพราะไปรู้ความลับบางอย่างมาได้เรียกเงินอย่างน้อย 7 หมื่นล้านวอนกับทางฮันซูกรุ๊ป หากเธอดูแลการทำข้อตกลงซื้อขายฮันซูไบโอกับเอสพีพาร์ตเนอร์สสำเร็จ และเรื่องราวจะจบลงอย่างไรนั้น เราคงต้องติดตามกันต่อไป
ส่วนใครอยากรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับแชโบลอีก #ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ก็เคยทำคอนเทนต์เกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้แล้วเช่นกัน สามารถไปรับชมกันต่อได้ในรายการ #แอบรู้หลังดูซี ทาง YouTube ได้เลย
เรื่องโดย ธนภัทร จันทร์เหม
อ้างอิง: investopedia.com, namu.wiki, matichonweekly.com