สัมภาษณ์นักแสดง The Divorce Insurance ซีรีส์ที่ตั้งคำถามว่า…คุณจะซื้อประกันหย่าร้างไหม? 

หากการแต่งงานคือจุดเริ่มต้นของชีวิตคู่ การหย่าร้างก็คือจุดเปลี่ยนที่ไม่มีใครอยากเจอ… The Divorce Insurance ซีรีส์โรแมนติกคอเมดี้ที่กำลังจะสตรีมตอนแรกในวันที่ 31 มีนาคม ทาง Prime Video นำเสนอเรื่องราวของกลุ่มพนักงานบริษัทประกันชีวิตที่คิดค้นผลิตภัณฑ์สุดแปลก นั่นก็คือ ‘ประกันการหย่าร้าง’ 

ความน่าสนใจของซีรีส์ก็คือ เมื่อหน้าที่การงานทำให้พวกเขาต้องคอยกำหนดมูลค่าของความสัมพันธ์และความล้มเหลวในการแต่งงาน แต่ในวันหนึ่งเมื่อพวกเขากลับต้องเผชิญหน้ากับอดีตและความรู้สึกที่ซับซ้อนของตัวเองบ้างจะเป็นอย่างไร?

The Divorce Insurance นำแสดงโดย 
อีดงอุค รับบท โนกีจุน นักออกแบบกรมธรรม์ที่หย่ามาแล้วถึง 3 ครั้ง
อีจูบีน รับบท คังฮันดึล นักวิเคราะห์ประกันภัยที่เพิ่งผ่านการหย่ามาหมาดๆ 
อีกวางซู รับบท อันจองมัน เพื่อนสนิทของโนกีจุนที่ต้องเผชิญกับความท้าทายหลังการหย่า
อีดาฮี รับบท จอนนาแร อดีตภรรยาคนแรกของโนกีจุน ที่เข้ามาร่วมทีมด้วยเหตุผลที่คาดไม่ถึง

ดูซีรีส์ให้ซีเรียส มีโอกาสได้ สัมภาษณ์นักแสดง ของซีรีส์ The Divorce Insurance รวมถึงมุมมองของพวกเขาเกี่ยวกับความรัก การแต่งงาน และการหย่าร้าง 

อยากให้แต่ละคนเล่าถึงคาแรกเตอร์ที่น่าสนใจของตัวเองให้ฟังหน่อย 

อีดงอุค: ตัวละครที่ผมรับบทคือโนกีจุน ซึ่งทำงานเป็นนักออกแบบกรมธรรม์ประกันภัยครับเขาผ่านการแต่งงานและหย่ามาแล้วถึง 3 ครั้ง ทำให้เขาเข้าใจถึงความหมายของการหย่าร้างเป็นอย่างดี จึงเกิดแนวคิดที่จะสร้างประกันการหย่าร้างขึ้นมา

อีจูบีน: ตัวละครของฉันชื่อคังฮันดึลค่ะ เป็นนักวิเคราะห์เงื่อนไขกรมธรรม์ในบริษัทประกันภัย เพิ่งผ่านการหย่ามาไม่นาน และการหย่าสำหรับเธอมีความหมายมากกว่าคนอื่นๆ นอกจากนี้ ในเรื่องเธอมีนิสัยที่แคร์คนอื่นและเข้าอกเข้าใจผู้อื่นมาก มีความอดทนสูง แต่หลังจากการหย่าเธอก็พยายามเปลี่ยนตัวเองให้เป็นคนที่เข้มแข็งและเยือกเย็นขึ้นค่ะ

อีดาฮี: ฉันรับบทเป็นจอนนาแร รองประธานฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยของบริษัท Plus Insurance เธอเป็นคนที่คิดทุกอย่างแบบคำนวณเป็นตัวเลข ดูเป็นคนเย็นชาและเหมือนไม่มีอารมณ์ความรู้สึกใดๆ แต่เมื่อมีเรื่องความรักเข้ามาเกี่ยวข้องก็เริ่มมีการเปลี่ยนแปลงในตัวเธอค่ะ

อีกวางซู: ผมรับบทเป็นอันจอนมัน พนักงานประเมินความเสี่ยงของบริษัทประกันภัย Plus Insurance มีหน้าที่ลดความเสี่ยงของกรมธรรม์ และเป็นตัวละครที่กำลังเผชิญกับการยอมรับการหย่าร้างของตัวเองครับ

การเตรียมตัวสำหรับบทบาทสุดท้าทาย คุณมีการทำการบ้านอย่างไรบ้างเพื่อให้เข้าถึงบทบาทนี้?

อีดงอุค: จริงๆ แล้วประสบการณ์ส่วนตัวไม่ใช่สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับการแสดง อย่างผมเองที่เคยเล่นเป็นยมทูต (Goblin, 2016) และจิ้งจอกเก้าหาง (Tale of the Nine Tailed, 2020) ซึ่งแน่นอนว่าผมไม่มีประสบการณ์จริงมาก่อน ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการตีความตัวละครและทำให้ผู้ชมเชื่อในเรื่องราวของพวกเขามากกว่าครับ

อีจีอึน: ฉันเองไม่เคยแต่งงานหรือหย่าร้างมาก่อน ดังนั้นก็เลยต้องศึกษาหาข้อมูลเยอะมากค่ะ ฉันดูรายการเรียลลิตี้เกี่ยวกับการแต่งงานและการหย่าร้าง รวมถึงพูดคุยกับเพื่อนๆ ที่เคยผ่านเหตุการณ์นี้มา เพื่อที่จะได้ทำความเข้าใจอารมณ์ของพวกเขาให้ลึกซึ้งค่ะ

สำหรับคุณอีกวางซู ที่มีภาพจำของความสนุกสนานและอารมณ์ดี เมื่อต้องแสดงเป็นตัวละคร อันจอนมัน ที่ทั้งขี้กลัวและไม่ชอบความเสี่ยง คุณได้เพิ่มมิติให้เขามีความตลกและเชื่อมโยงกับผู้ชมอย่างไรบ้าง

อีกวางซู: อันจอนมันเป็นคนที่ค่อนข้างมีเหตุผล เป็นตัวของตัวเอง และให้ความสำคัญกับความปลอดภัยเป็นอย่างมาก อีกทั้งยังเป็นคนขี้อายด้วยครับ แต่ในบทละครได้อธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการพูดและการกระทำของอันจอนมันไว้ค่อนข้างชัดเจน ทำให้ผมได้รับความช่วยเหลือจากบทละครเยอะเลยครับ

แล้วแทนที่ผมจะพยายามทำให้มันตลก ผมกลับรู้สึกว่าประโยคที่ผมพูดในบทมันตลกมากอยู่แล้ว ผมจึงพยายามไม่ทำอะไรที่มากเกินไป แค่ถ่ายทอดความตลกตามที่ผมรู้สึกจริงๆ ออกมาให้ผู้ชมได้สนุกไปกับมันครับ

นอกจากนี้ในกองถ่าย พี่ดงอุค รวมถึงนักแสดงทุกคน ไปจนถึงผู้กำกับ ทุกคนต่างทำให้บรรยากาศในกองถ่ายเป็นไปอย่างอิสระและสบายๆ เราจึงสามารถอิมโพรไวส์รายละเอียดของตัวละครเข้าไปได้เยอะ และหลายๆ ฉากก็ออกมาสมจริงและมีมิติมากขึ้นกว่าที่อยู่ในบทละคร มีหลายฉากที่พัฒนาขึ้นจากตอนซ้อม และทำให้เนื้อหามีความสนุกมากขึ้น ผมคิดว่าซีรีส์ที่ตัดต่อและออกอากาศจริงน่าจะออกมาสนุกกว่าที่คาดไว้ ซึ่งผมก็ตั้งตารอมากๆ ครับ

สำหรับคุณอีดาฮี ที่เคยแสดงเป็นตัวละครหญิงแกร่งมาแล้วหลายเรื่อง อยากรู้ว่าบท จอนนาแร มีความพิเศษอะไรที่แตกต่างไปจากบทบาทอื่นๆ ที่คุณเคยแสดงมา

อีดาฮี: จริงๆ แล้วบทบาทที่ฉันเคยแสดงมาก่อนหน้านี้ไม่ได้แตกต่างจากบทนี้แบบสุดขั้วขนาดนั้นค่ะ แต่ครั้งนี้ฉันอยากให้ตัวเองดูแตกต่างออกไปสักหน่อย ก็เลยตัดสินใจตัดผมเพื่อแสดงบทนี้ ฉันตัดผมเป็นครั้งแรกในรอบ 10 กว่าปีเลยนะคะ เพื่อให้ตัวละครดูมีเอกลักษณ์และความสดใหม่ ส่วนในเรื่องการแสดงและคาแรกเตอร์ ฉันรู้สึกว่าเสียงพูดและภาพลักษณ์ของฉันเข้ากับตัวละครนาแรอยู่แล้ว เลยรู้สึกว่าโชคดีมากๆ แค่พยายามปรับภาพลักษณ์ให้ดูแตกต่างออกไปเล็กน้อยเท่านั้นเองค่ะ

ในซีรีส์ The Divorce Insurance ที่เล่าเรื่องของการให้คู่แต่งงานที่เลิกราต้องกลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง พวกคุณถ่ายทอดความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงนี้ออกมาอย่างไรบ้าง?

อีดงอุค: ฟังดูอาจเป็นเรื่องแปลกนะครับ แต่ถ้าคิดในมุมที่เรียบง่ายที่สุด ผมว่าการหย่าร้างคืออดีตที่ผ่านไปแล้ว ตอนนี้ทั้งคู่เป็นเพื่อนร่วมงานที่ต้องร่วมมือกันทำงาน ผมคิดว่าคนดูน่าจะเข้าใจและรู้สึกอินไปกับมัน

อีดาฮี: ในมุมของจอนนาแร เธออาจจะยังมีความรู้สึกค้างคาใจอยู่บ้าง แต่ในขณะเดียวกัน เธอก็เป็นคนที่มีเหตุผลมาก ดังนั้นการพยายามทำงานร่วมกับอดีตสามีในฐานะเพื่อนร่วมงานก็นับว่าเป็นสิ่งที่ท้าทายและน่าสนใจมากๆ สำหรับตัวเธอเช่นกันค่ะ

ถ้ามีประกันรูปแบบใหม่ที่คุณอยากสร้างขึ้นมา คิดว่าจะออกมาเป็นแนวไหน?

อีดาฮี: ฉันอยากให้มีประกันที่สามารถ ‘ชดเชยคำพูดแย่ๆ’ ด้วย ‘คำพูดดีๆ’ ค่ะ เพราะบางครั้งคำพูดที่เราพูดออกไปโดยไม่ทันคิด อาจทำร้ายคนอื่นได้อย่างรุนแรงเลย ดังนั้นถ้ามีประกันที่สามารถชดเชยคำพูดแย่ๆ ด้วยคำพูดดีๆ ได้ ก็คงจะเป็นสิ่งที่ดีมาก ฉันเลยคิดว่าประกันแบบนี้น่าจะมีประโยชน์มากเลยค่ะ

อีจูบีน: ฉันคิดว่า ‘ประกันสำหรับกรณีที่ประกันไม่ครอบคลุม’ น่าจะมีประโยชน์นะคะ เพราะบางครั้งเงื่อนไขของประกันมักจะเข้มงวดเกินไป ทำให้การชดเชยหรือการดูแลก็ไม่เพียงพอเท่าที่ควร ฉันเลยคิดว่าน่าจะมีประกันที่คุ้มครองในกรณีที่ประกันไม่สามารถให้ความคุ้มครองได้ก็น่าจะดีค่ะ

อีดงอุค: ผมคิดว่าถ้ามีประกันเกี่ยวกับศักดิ์ศรีก็คงจะดี ที่จริงแนวคิดของประกันนี้คล้ายกับประกันคำพูดแย่ๆ เพราะในชีวิตเราต้องเจอกับเรื่องที่ทำให้เสียศักดิ์ศรีหรือเจ็บปวดทางจิตใจอยู่บ่อยๆ ถ้ามีประกันที่สามารถชดเชยหรือเยียวยาความรู้สึกเหล่านั้นได้ก็คงจะดีไม่น้อยครับ

บทเรียนเกี่ยวกับความรักที่ได้จากซีรีส์นี้ The Divorce Insurance

อีกวางซู: แม้ว่าซีรีส์นี้จะพูดถึงความรักและการแต่งงานเป็นหลัก แต่ก็ยังสะท้อนถึงความสัมพันธ์ของครอบครัว มิตรภาพ คู่รักสูงวัย และการเติบโตของตัวละครด้วย สำหรับตัวผมเองตอนที่ได้อ่านบทละคร ผมสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากความรักในรูปแบบต่างเหล่านี้ ผมคิดว่ามันไม่ใช่ซีรีส์ที่พยายามสอนบทเรียนอะไรแก่ผู้ชมโดยตรง แต่หวังว่าทุกคนที่ได้รับชมจะสามารถสัมผัสถึงความอบอุ่นแบบเดียวกับที่ผมรู้สึกได้ครับ

The Divorce Insurance กำกับโดย อีวอนซอก ผู้สร้างภาพยนตร์สุดครีเอทีฟอย่าง Killing Romance และ The Royal Tailor ร่วมกับบทของ อีแทยุน นักเขียนที่เคยฝากผลงานไว้ในซีรีส์ Secret Royal Inspector & Joy

เตรียมสตรีมตอนแรกในวันที่ 31 มีนาคม 2568 ทางแพลตฟอร์ม Prime Video พร้อมเสิร์ฟทั้งอารมณ์ขัน ความดราม่า และมุมมองใหม่เกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่คุณอาจไม่เคยคาดคิด!