queen-of-tears

Queen of Tears แกะรอยสูตรสำเร็จ เหตุผลที่ทำให้เราเสียน้ำตาไปกับซีรีส์

Queen of Tears ซีรีส์ที่เรตติ้งถล่มทลายในตอนนี้ ด้วยพล็อตที่ในตอนแรกอาจจะดูธรรมดา เรื่องราวของความรักระหว่างชนชั้น ตามมาด้วยพล็อตรองของครอบครัวแชโบลที่โดนโค่นล้มอำนาจจนไม่เหลืออะไรในชั่วข้ามคืน แต่เวทมนตร์อะไรก็ตามที่เกิดขึ้นแล้ว ทำให้ต้องยอมรับว่าทั้งหมดเป็นส่วนผสมสำคัญของนักเขียนพัคจีอึน ผู้กำกับจางยองอู ผู้กำกับคิมฮีวอน และแคสต์นักแสดงหลักอย่าง คิมซูฮยอน คิมจีวอน ที่ทำให้พลังซีรีส์เป็นคลื่นยักษ์ใหญ่กว่าปกติ

ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ลองแกะสูตรสำเร็จของเรื่องนี้ ที่ทำให้เราหยุดดูไม่ได้เลยมาให้แล้ว และต้องยอมรับว่าด้วยพล็อตที่ดูเหมือนจะธรรมดา กลับทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ฮิตระดับขึ้นเป็น Top 5 ซีรีส์เรตติ้งสูงสุดตลอดกาลของช่องเคเบิลได้อย่างไร

queen-of-tears

วิธีการเล่าเรื่องแบบตัดสลับที่ชวนให้ติดตาม 

เปิดเรื่องมาของ Queen of Tears ก็เป็นเรื่องของคู่แต่งงานสวย-หล่อที่อยู่ด้วยกันมา 3 ปีแล้ว ดูเหมือนว่าทุกอย่างกำลังมาถึงทางตัน เพราะเปลือกนอกที่ดูสวยหรู ชีวิตดี แต่ข้างในที่ผุพังสะท้อนให้เห็นผ่านชีวิตของพวกเขาที่แยกห้องกันนอน คำพูดคำจาที่ดูห่างเหิน หมางเมิน เรียกว่าเป็นเซอร์ไพรส์ที่คนดูไม่ค่อยได้สัมผัส เพราะตามปกติซีรีส์เกาหลี โดยเฉพาะแนวโรแมนติก มักจะเล่าจากจุดเริ่มต้น ความไม่ถูกกัน ก่อนที่จะเริ่มตกหลุมรักและทำทุกอย่างเพื่อให้ความรักนั้นๆ เป็นไปได้

การเปิดเรื่องมาแบบนั้นทำให้เรื่องราวน่าติดตามมากยิ่งขึ้น และแต่ละอีพีจะค่อยๆ คลี่คลายเรื่องราวออกมาในแบบ Flash back ที่ทำให้คนดูปะติดปะต่อเรื่องราวได้มากขึ้น และเอาเข้าจริงมันก็คือเส้นเรื่องโรแมนติกดราม่า โรแมนติกคอเมดี้ในแบบที่เราเข้าใจได้

วิธีการเล่าเรื่องแบบนี้ทำให้ซีรีส์มีช่องว่างในการสร้างสีสัน เพราะมีจุดที่ย้อนกลับไปเล่าถึงหรือขยายรายละเอียดได้มากขึ้น และอย่างที่เราได้รับชมกัน ยิ่งดูยิ่งหยุดไม่ได้ เพราะนักเขียนพัคจีอึนหยอดรายละเอียดต่างๆ ไว้ระหว่างทาง และพาเราย้อนไปเก็บดีเทลเหล่านั้นได้แบบสนุกเลย

queen-of-tears

นักเขียนพัคจีอึน

งานของนักเขียนพัคจีอึนมีแฟนคลับติดตามตลอดมา แล้วผลงานของเธอก็ได้รับการยอมรับว่าพลิกวิธีเล่าเรื่องได้สนุก เย้ายวน หยุดดูไม่ได้มาตลอด ถ้าลองย้อนไปดูซีรีส์ที่เป็นงานเขียนของเธอก่อนหน้านี้ ก็ต้องบอกว่าทำดี ทำถึงมาตลอด 

โดยเฉพาะงานฮิตๆ อย่าง My Love From the Star (2013) มนุษย์ต่างดาวพบรักกับซูเปอร์สตาร์สาวที่เกาหลี, The Legend of the Blue Sea (2016) ความรักของนางเงือกกับนักต้มตุ๋น จนมาถึงผลงานก่อนหน้า Crash Landing on You (2019) ที่กระแสถล่มทลาย กับเรื่องราวความรักของสหายผู้กองจากเกาหลีเหนือกับสาวเจ้าของธุรกิจชั้นนำในเกาหลีใต้ ตรงนี้ก็มีพล็อตที่เหลือจะเชื่อที่เครื่องร่อนของหญิงสาวพัดไปถึงเกาหลีเหนือ

ใครเป็นแฟนงานเขียนพัคจีอึน ทางเราอยากให้ไปตามเก็บผลงานที่ผ่านมาของเธอ

– Queen Of Tears (tvN / 2024)
– Crash Landing on You (tvN / 2019-2020)
– The Legend of the Blue Sea (SBS / 2016-2017)
– The Producers (KBS2 / 2015)
– My Love From the Star (SBS / 2013-2014)
– My Husband Got a Family (KBS2 / 2012)
– Queen of Reversals (MBC / 2010)
– My Wife is a Superwoman (MBC / 2009)

queen-of-tears

น้ำตาของคิมซูฮยอน

ขึ้นชื่อว่าเป็นนักแสดงค่าตัวสูงสุดของเกาหลีในตอนนี้ การแสดงที่สุดยอดของเขาเป็นเรื่องหนึ่ง แต่น้ำตาของเขาก็อีกเรื่องหนึ่ง คิมซูฮยอนเป็นนักแสดงที่ร้องไห้เป็นธรรมชาติ ร้องแล้วชวนให้คนดูอยากร้องไห้ตามไปด้วย โดยเฉพาะผลงานก่อนหน้านี้ของเขาอย่าง One Ordinary Day ที่ร้องไห้จนน้ำตาท่วมจอของจริง 

และ Queen of Tears ก็นับว่าเป็นงานแสดงคัมแบ็กในรอบ 3 ปีครึ่งของคิมซูฮยอนจาก It’s Okay to not be Okay การที่เขาไม่ได้รับงานแสดงบ่อยๆ ก็ยิ่งทำให้การเลือกรับงานของเขามีคุณค่ามากยิ่งขึ้น เพราะฉะนั้นทุกฉากในซีรีส์ คิมซูฮยอนทำให้แฟนซีรีส์ทุกอย่างแล้ว ทั้งฉากที่หล่อแบบสุดๆ ฉากร้องไห้สุดน่าสงสาร ฉากแอ็กชันเตะต่อย ดริฟต์รถช่วยเหลือภรรยา ไปจนถึงฉากก้ำกึ่งเป็นคนร้ายๆ ที่หวังสมบัติภรรยา และที่สุดคือฉากคนเมาที่ว่ากันว่าเป็นคนเมาแล้วน่ารักจนใครจะห้ามใจอยู่

queen-of-tears

คิมจีวอน เคมีที่ดีงามของเรื่อง

ราชินีของเรื่องที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือนักแสดงสาว คิมจีวอน ที่เฉิดฉายสุดๆ ในเรื่องนี้ และเมื่อมาจับคู่กับคิมซูฮยอนเป็นครั้งแรก ก็เรียกได้ว่าเป็นเคมีใหม่ๆ ที่ดีงาม ส่วนเรื่องการแสดงนั้นไม่ต้องพูดถึง เพราะเธอพิสูจน์ผลงานให้เห็นมาแล้วในซีรีส์เรื่องก่อนหน้า My Liberation Notes กับบทสาวชานเมืองที่ไร้ซึ่งแพสชัน และกำลังตามหาความหมายบางอย่างในชีวิตให้กับตัวเอง

ส่วนใครที่เพิ่งรู้จักคิมจีวอนจาก Queen of Tears เป็นครั้งแรก และอยากติดตามผลงานก่อนหน้าของเธอ ตามไปเก็บกันได้เลย

– My Liberation Notes (2022)  
– Lovestruck in the City (2020) 
– Arthdal Chronicles (2019) 
– Fight for My Way (2017) 
– Descendants of the Sun (2016)  
– The Heirs (2013) 

ความรักต้องห้าม

ความรักในซีรีส์แบบฉบับคลาสสิกก็ต้องเล่าเรื่องรักต้องห้าม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องระหว่างชนชั้นที่เราเคยได้ยินได้ฟังมาตลอด หญิงสาวยากจนได้แต่งงานกับชายสูงศักดิ์ หรือความรักระหว่างสองตระกูลต้องห้าม ความรักที่เป็นไปไม่ได้ระหว่างวัย ฯลฯ ซึ่งความแตกต่างระหว่างคนรักเหล่านี้เป็นวัตถุดิบในการสร้างเรื่องราวให้เกิดการฝ่าฟันเพื่อทำให้ความรักสมหวังให้ได้ ซึ่งซีรีส์ก็เดินตามรอยสูตรสำเร็จนี้

– ฝ่ายชายที่แม้จะไม่ได้ยากจน แต่ฝ่ายหญิงกลับเป็นมหาเศรษฐีระดับยอดพีระมิดของประเทศ 
– เริ่มแรกเขาไม่รู้ว่าเธอคือใคร รู้เพียงว่าเป็นเด็กฝึกงานในบริษัทเดียวกัน แล้วดูท่าทางจะไม่รอด 
– ความชอบและความรักเกิดขึ้น กว่าจะรู้ว่าอะไรเป็นอะไรก็เผลอรักเขาหมดใจไปแล้ว
– ความรักอยู่เหนือทุกอย่าง เขาแต่งงานเข้าบ้านมหาเศรษฐี แต่ความกดดันที่ต้องเผชิญจริงๆ ในนิยามหนูตกถังข้าวสาร ก็ทำให้ชีวิตแต่งงานไม่ได้ง่ายอย่างที่หวังไว้

ความเก่งของนักเขียนคือการนำเรื่องรักต่างชนชั้นมาขยายความให้น่าสนใจมากยิ่งขึ้น กับโรคมะเร็งสมองที่หาทางรักษาได้ยากของนางเอก และปมปัญหาโค่นล้มธุรกิจ ที่ทำให้ซีรีส์น่าสนใจมากกว่าจะเป็นเพียงแค่โรแมนติกดราม่าทั่วไป

นอกจากนี้ซีรีส์ยังใส่ปัญหาชีวิตคู่ง่ายๆ เข้ามาให้คนดูทางบ้านรู้สึกร่วมได้อย่างไม่ยากนัก เช่น การปรับรีโมทแอร์ตามอุณหภูมิที่ต่างคนต้องการ ไม่น่าเชื่อว่าเป็นปัญหาระดับชาติไปแล้ว หรือเรื่องของการเข้ากับครอบครัวฝั่งแม่สามี แม่ภรรยา ปัญหาลูกสะใภ้

ตระกูลแชโบลที่สร้างสีสัน เงินบันดาลได้ทุกอย่าง

ถ้าหากสำรวจซีรีส์เล่าถึงแชโบล หรือมหาเศรษฐีระดับ 0.01% ของประเทศเกาหลี หลายต่อหลายครั้งสะท้อนออกมาแบบขำๆ หรือมีการเสียดสีเบาๆ เราจะได้เห็นความไม่เอาไหนอยู่ในตัวละครตระกูลร่ำรวยอยู่บ้าง เพราะจะอย่างไรก็ดี ต้องยอมรับว่าคนดูทางบ้านส่วนใหญ่เป็นคนชนชั้นกลาง ทั้งกลางบน กลางล่าง ที่ต่างไม่เคยมีประสบการณ์ชีวิตหรูหราขนาดในซีรีส์อยู่แล้ว การได้เฝ้าชมชีวิตเหล่ามหาเศรษฐีที่มีคนไม่เอาไหน ครอบครัวพังไม่เป็นท่า ก็นับเป็นหนึ่งในความบันเทิงได้เหมือนกัน

อย่างครอบครัวของแฮอินก็สะท้อนให้เห็นผ่านตัวละคร บอมจา ลูกสาวคนโตสายลุยที่แต่งงานมาแล้ว 3 ครั้ง แต่ก็ยังไม่ประสบความสำเร็จ ลูกชายคนโตโดนตัดออกจากกองมรดก ลูกคนเล็กที่หวังให้ขึ้นมาเป็นประธานสูงสุดก็ยังไม่แน่ใจ มีแต่แฮอินที่มีแนวโน้มสูงสุดในการสานต่อธุรกิจระดับล้านล้านให้รุ่งเรืองต่อไปได้

มีฉากหนึ่งที่สะท้อนความจริงอันเจ็บปวดสำหรับคนดูชาวบ้าน 1 อย่างเราๆ ก็ตอนที่พ่อของฮยอนอูถามพ่อของแฮอินว่าในละครเล่าเรื่องบ้านคนรวยได้จริงอย่างนั้นไหม แล้วพ่อของแฮอินก็เล่าว่า ในบ้านเราจะมีบันไดเอาไว้สำหรับเดินขึ้นเพื่อบริหารข้อเข่า แต่ขาลงเราจะใช้ลิฟต์เพื่อถนอมข้อเข่าเอาไว้ 

หรือฉากที่แฮอินพยายามสร้างความประท้บใจตอนออกเดทกับฮยอนอู ไล่ตั้งแต่เหมาสวนสนุก เหมาพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เพื่อให้เธอเดินเที่ยวกับเขาแบบสองต่อสอง ฉากเคลิคอปเตอร์ที่ไปส่งเธอง้อฮยอนอูที่บ้านนอกเมือง หรือคาราวานจากห้างควีนส์ที่ส่งตรงมาสร้างสีสันให้กับชาวบ้านเพื่อเรียกคะแนนเสียงให้พ่อของฮยอนอู เป็นต้น

queen-of-tears

ครอบครัวคนธรรมดาที่ไม่ธรรมดา

ขณะเดียวกัน Queen of Tears ก็ฉายภาพครอบครัวอบอุ่นของฮยอนอูที่แม้จะอยู่นอกเมือง แต่ก็ครบถ้วนทุกอย่าง ทั้งยังมีความสุข ความอบอุ่นระหว่างกัน เราได้เห็นพ่อของฮยอนอูที่เป็นผู้ใหญ่บ้าน เป็นเจ้าของมาร์ท ส่วนแม่ก็มีสวนสาลี่ขนาดใหญ่ สวนครัวรั้วกินได้ที่ทำให้ได้วัตถุดิบสดใหม่มาปรุงอาหารทุกวัน พี่ๆ ของฮยอนอูแม้จะไม่ได้ไปทำงานเงินเดือนดีๆ ในโซล แต่ก็มีความสุขดีกับเมืองเล็กๆ แห่งนี้

ครอบครัวของฮยอนอูเป็นการฉายภาพของครอบครัวทั่วไปในแบบที่คนดูซีรีส์เข้าถึงได้และเอาใจช่วยสุดๆ เพราะมันคือครอบครัวส่วนใหญ่บนโลกนี้ที่มีชีวิตธรรมดา แต่ก็มีความสุขได้แบบเรียบง่าย ที่ทำให้เราลดทอนความอยากรวยลงไปได้บ้าง แม้ในชีวิตจริงๆ จะอยากอยู่ในครอบครัวแฮอิน รวยให้เข็ดแบบนั้นก็ตาม

มิติตัวร้ายมาแบบครบด้าน

การใส่รายละเอียดของตัวร้ายเข้ามา ทำให้ซีรีส์มีมิติมากยิ่งขึ้น การที่ ยุนอึนซอง เป็นตัวร้ายไม่ได้มาแบบดื้อๆ หนำซ้ำยังมีที่มาที่ไป ทำให้ตัวละครที่คนกำลังเกลียดกันทั้งบ้านทั้งเมือง มองในมุมหนึ่งก็เห็นว่าเขามีแรงจูงใจและมีความคลั่งรักต่อแฮอินขนาดไหน เผลอๆ อาจจะมีทีมยุนอึนซองที่เอาใจช่วยไม่ให้จุดจบของเขาโหดร้ายเกินไปด้วยซ้ำ

ตัวร้ายอย่าง เกรซ ก็เข้าใจได้เรื่องมองหาผลประโยชน์เข้าตัว กิ้งก่าเปลี่ยนสีเก่ง ในแบบที่เชื่อมโยงคนดูได้ไม่ยาก เพราะน่าเชื่อว่าในชีวิตเราสักครั้งต้องเคยเจอต้วร้ายในชีวิตจริงแบบนี้อยู่บ้าง

ส่วนตัวร้ายเล็กๆ ที่ยุนอึนซองไปติดสินบนก็มีความเป็นคนปกติธรรมดาที่เราพบเจอได้ในชีวิตจริง เงินเดือนไม่พอ ใครมาขอซื้อความลับเจ้านายก็พร้อมจะยื่นให้แล้ว เป็นต้น

queen-of-tears

งาน Easter Egg และนักแสดงรับเชิญจากซีรีส์เรื่องอื่นๆ

ความสนุกของการรับชม Queen of Tears อีกอย่างก็คือการได้เห็น Easter Egg จากจักรวาลของนักเขียนและผู้กำกับ ที่หยิบเอาข้อมูลจากซีรีส์เรื่องก่อนๆ มาใส่ ทำให้เชื่อมโยงกันได้อย่างสนุก เช่น

– Crash Landing on You ยุนเซรี ซีอีโอแบรนด์แฟชั่น ทายาทห้างสรรพสินค้าตระกูล Queens Group 
– Little Women การฟอกเงินแล้วซุกซ่อนเงินไว้ที่สิงคโปร์ แต่ใน Queen of Tears มีการสืบค้นว่าคุณปู่น่าจะฝากเงินกองทุนลับไว้ที่มาเลเซีย
– Vincenzo ทนายความวินเซนโซ่คนดังมาช่วยแฮอินจัดการคดีหย่าร้าง การได้เห็น ซงจุงกิ ในมาดทนายวินเซนโซมารับเชิญในเรื่องนี้ เรียกว่าเป็นสีสันที่ไม่พูดถึงไม่ได้จริงๆ
– จิตแพทย์ในอีพีแรกๆ ที่ได้ โอจองเซ คุณพี่ชายจาก It’s Okay to Not be Okay มารับบท ซึ่งก็ต้องแอบขำเบาๆ เพราะใน It’s Okay to not be Okay นั้นเป็นเรื่องเกี่ยวกับโรงพยาบาลรักษาจิตใจนั่นเอง
– โกคยูพิล ประกบคู่กับ อิมซุลชู สองลูกน้องผู้ภักดีของยุนเซรีจากซีรีส์ Crash Landing on You ก็มาช่วยงานต่อในด้านการตามสืบพฤติกรรมฮยอนอู 
– พระทองคำ ที่ดาฮเยขโมยไปจากบ้านสามี แล้วเอากลับมาคืนประสานรอยร้าว ก็ทำให้แฟนซีรีส์อมยิ้มแล้ว เพราะนึกถึงกรณีพระทองคำเจ้าปัญหาจากซีรีส์ Vincenzo นั่นเอง
– กวักดงฮยอน ที่เคยรับบทน้องชายไม่เอาไหนจาก Vincenzo ก็กลับมาอีกครั้งกับบทน้องชายแฮอินที่เข้าข่าย ‘พ่อแม่รังแกฉัน’ จนกลายเป็นผู้ชายที่ทำอะไรไม่เป็นเลย

คู่รักชวนจิ้นที่คิดไม่ถึง

ระหว่างที่ซีรีส์เต็มไปด้วยคู่หลัก คู่รอง คู่ร้าย การวางบทให้สีสันขึ้นไปอีกระดับก็คือการสร้างคู่จิ้นที่คิดไม่ถึง ในกรณีของ Queen of Tears เราก็ได้เห็นปรากฏการณ์คู่จิ้น เลสลี่ จาง-บอมจา ที่แม้จะไม่ได้เป็นคู่หลัก แต่ทุกครั้งที่ปรากฏตัว มันทำให้แฟนซีรีส์ผู้สูงอายุวัย 40 อัพลุ้นตามสุดๆ (เพราะแน่ๆ ถ้ารู้จัก เลสลี่ จาง ก็น่าจะอายุ 40 อัพกันแล้ว) 

โรคร้ายรักษาไม่หาย

คลาวด์ไซโตมา เนื้องอกในสมองชนิดหายากที่แพทย์ยังไม่สามารถรักษาให้หายได้ แต่ในซีรีส์ดูเหมือนจะเป็นไปได้ การวางเงื่อนไขเรื่องโรคร้ายรักษาไม่หายทำให้เรื่องราวพลิกกลับด้าน เพราะถ้ายังจำกันได้ การที่แฮอินรู้ตัวว่าเป็นเนื้องอกในสมองและจะอยู่ได้อีก 3 เดือนนั้นก็เป็นวันที่ฮยอนอูกำลังจะยื่นใบหย่า

เนื้องอกในสมองแบบที่ไม่สามารถผ่าตัดออกมาได้ เลยเป็นตัวแปรให้ความรักที่ห่างหายกลับมาชัดเจนอีกครั้ง เมื่อมองถึงอาการของโรคก็ชวนให้ซีรีส์เต็มไปด้วยน้ำตาได้ไม่ยาก เพราะอาการความจำหาย พร่าเลือน ไม่รู้ตัว หมดสติ ฯลฯ เป็นสิ่งที่ทำให้เหตุการณ์ในเรื่องดำเนินไปอย่างแสนเศร้า เพราะสำหรับคนที่รักกันหมดหัวใจ การเป็นโรคร้ายรักษาไม่หายก็ว่ายากแล้ว แต่การที่คนรักจะจำเราไม่ได้ จำความรักของเราไม่ได้ เป็นเรื่องที่ยากมากกว่า

ประเด็นโรคร้ายของแฮอินจึงเป็นสิ่งที่ชวนเรียกน้ำตาเหลือเกิน

ติดตามเนื้อหาสนุกๆ ของ ‘ดูซีรีส์ให้ซีเรียส’ ได้ที่ช่องทางต่างๆ ดังนี้
Facebook: TheSeriousSeries.TH
Twitter: TheSeriousSerie
YouTube: The Serious Series
Website: Theseriousseries.com
สมัครสมาชิกเพื่อรับข่าวสารและสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ Link นี้