My Name รวมทุกคำถามจากซีรีส์ฟิล์มนัวร์ เมื่อหญิงสาวแก้แค้นเพื่อค้นหาตัวเอง แต่กลับสูญเสียตัวเองไปในระหว่างนั้น
My Name ซีรีส์ทาง Netflix เรื่องล่าสุดของฮันโซฮี นักแสดงที่เพิ่งมีผลงานใน Nevertheless มาสู่บทบาทใหม่ในฐานะแอ็กชันสตาร์ที่บอกได้เลยว่าลืมนาบีไปก่อน เพราะฮันโซฮีได้กลายร่างตัวเองเป็นหญิงแกร่งที่สุดในปฐพีเรียบร้อย และ My Name ที่กำลังกระแสแรงอยู่ตอนนี้คือผลงานที่ท้าทายที่สุดในชีวิตการแสดงของเธอแล้ว
ส่วนใครที่ดูซีรีส์ My Name แล้วอยากให้อ่านบทความนี้ เพราะเราเตรียมคำถามและหาคำตอบไว้ให้แล้ว
ทำไมต้องแก้แค้น “ฉันยอมทิ้งชื่อและอนาคตของตัวเอง เพื่อจะจับคนที่ฆ่าพ่อ”
ฮันโซฮีลบทิ้งตัวตนที่เคยมี สวมอยู่ในชื่อใหม่ ตัวตนใหม่ เพื่อแก้แค้นแทนพ่อที่ถูกฆ่าตายต่อหน้าต่อตา ทำไมเธอต้องทำถึงขนาดนั้น?
ยุนจีอู ในซีรีส์ My Name มีแค่พ่อเป็นครอบครัวเพียงคนเดียวที่มีอยู่ หลังจากแม่เสียชีวิตไปตั้งแต่เธอยังเด็ก ในวัย 17 ปีที่ยังไม่จบไฮสคูลด้วยซ้ำ เธอก็ถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นลูกสาวอาชญากรของแก๊งมาเฟียรายใหญ่ที่ถูกออกหมายจับ ด้วยความไม่รู้อะไรเลย ก็ทำให้เอาจีอูถึงกับระเบิดอารมณ์ออกมาและโทษว่าเป็นความผิดของพ่อ
ดังนั้นการเสียชีวิตของพ่อจึงกลายเป็น Trauma หรือเหตุการณ์สะเทือนใจที่พลิกทุกอย่างในชีวิตของจีอู ด้วยความรู้สึกว่าความตายของพ่อคือความผิดของตัวเธอเอง เธอต้องทำยังไงก็ได้เพื่อแก้แค้น และเพื่อให้ความรู้สึกผิดในจิตใจเบาบางลง
ทำไมต้องเป็นฮันโซฮี ในซีรีส์ My Name
ผู้กำกับคิมจินมิน เล่าในงานแถลงข่าวว่า ซีรีส์เรื่องนี้จะฉีกภาพซีรีส์แอ็กชันของเกาหลีไปเลย เพราะเป็นเรื่องของการแก้แค้นที่มีตัวเอกเป็นผู้หญิง และสำหรับฮันโซฮี ผู้ชมอาจจะเคยติดภาพของเธอในลุคผู้หญิงสวย ดูคุณหนูหน่อยๆ จนอาจจะไม่ค่อยเชื่อว่าจะแอ็กชันยังไงไหว แต่ในงานแถลงข่าว ผู้กำกับบอกเลยว่า 99% เป็นการเล่นจริง เจ็บจริง ไม่มีตัวแสดงแทน!
ฮันโซฮีต้องเรียนศิลปะการต่อสู้นานถึง 3 เดือน แถมต้องฝึกร่างกายอย่างหนักจนน้ำหนักขึ้นถึง 10 กิโลกรัม แต่นั่นคือน้ำหนักของกล้ามเนื้อล้วนๆ!
ผู้กำกับเองก็รู้สึกว่าเขาคิดไม่ผิดที่เลือกเธอมา เพราะนอกจากเรื่องการถ่ายทอดบทบาท สีหน้า และการท้าทายบทแอ็กชันครั้งแรกของฮันโซฮีนั้นเรียกว่าดีเกินคาด ผู้กำกับให้สัมภาษณ์ในวันแถลงข่าวว่าคำถามแรกที่เขาถามฮันโซฮีคือ “คุณพร้อมหรือเปล่าที่จะฝึกหนักมากๆ ถ้าไม่พร้อมก็ให้ตอบปฏิเสธได้เลย” แต่ฮันโซฮีก็ตอบตกลงทันที เขาจึงรู้สึกว่านี่เป็นสัญญาณความตั้งใจแรกที่เขามองเห็นจากนักแสดงคนนี้
ใครคือทีมงานสร้างเบื้องหลังซีรีส์ My Name
ผู้กำกับคิมจินมิน เราเคยได้ดูผลงานของเขามาแล้วจาก Extracurricular ซึ่งก็จะเห็นว่ามันเป็นเรื่องราวของนักเรียนมัธยมที่ดาร์กสุดๆ จนทำให้ซีรีส์ได้เข้าชิงรางวัล Best Drama จากเวที Baeksang Arts Awards
ความสำเร็จของ Extracurricular ทำให้เขาเป็นผู้กำกับที่ Netflix เชื่อมือเข้าไปอีก ทำให้เกิดโปรเจกต์ซีรีส์ My Name ตามมา และงานภาพ งานพร็อพ รวมถึงองค์ประกอบต่างๆ เรียกว่าดีมาก มีสไตล์ที่คล้ายกับหนังฮ่องกงแบบที่เราเคยดูในยุค 90 หรือแม้แต่หนังฝรั่งฟิล์มนัวร์ที่ทำให้คนดูจากทั่วโลกคุ้นเคยได้เช่นกัน
ทำความรู้จักทีมนักแสดงและตัวละครหลักใน My Name
สำหรับทีมนักแสดงที่มาร่วมงานในซีรีส์ My Name แม้บางคนจะรู้สึกไม่คุ้นหน้า แต่ก็เรียกได้ว่ามีฝีมือในการแต่ละคาแรกเตอร์ในเรื่องออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม
ฮันโซฮี รับบทเป็น ยุนจีอู หญิงสาวที่ยอมสละชื่อและตัวตนของเธอทิ้งทั้งหมดเพื่อแก้แค้นให้พ่อ หรือพูดอีกนัยหนึ่งคือเธอทิ้งชีวิตทั้งหมดไปโดยสิ้นเชิง เส้นทางการแก้แค้นทำให้เธอต้องเข้าร่วมกับแก๊งอาชญากรและแฝงตัวเข้าไปเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ จนกระทั่งได้ค้นพบความจริงอันน่าตกใจ
พัคฮีซุน รับบทเป็น ชเวมูจิน หัวหน้ามาเฟียเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ แม้จะเหมือนเป็นคนไม่มีหัวใจ แต่มีความอยากช่วยเหลือลูกสาวของลูกน้องที่พยายามจะแก้แค้นให้ ชเวมูจินรับจีอูเข้าแก๊งและเลี้ยงดูเธอ สร้างตัวตนใหม่ให้จีอูแทรกซึมเข้าไปในฝ่ายตำรวจและเป็นสายลับให้เขา เขาพยายามปกป้องเธออย่างมาก แต่ขณะเดียวกันก็ไม่เปิดเผยตัวตนที่แท้จริงให้เธอรู้ ซึ่งนอกจากในซีรีส์จะทำให้เรารู้สึกว่าเขาร้าย แต่กลับมีมุมที่โชว์ความอบอุ่นของมาเฟีย ซึ่งพัคฮีซุนแสดงดีจนเห็นมิติบางอย่างที่ทำให้เรารู้ว่าเขายังมีส่วนของความเป็นมนุษย์อยู่
อันโบฮยอน รับบทเป็น จอนพิลโด ตำรวจมือหนึ่งของแผนกปราบปรามยาเสพติดในซีรีส์ My Name ที่ต้องทำงานเป็นคู่หูกับยุนจีอู สีหน้าเคร่งขรึมและสายตาอันดุดันของเขาสะท้อนตัวตนของจอนพิลโดได้ดี ขณะเดียวกันเขาก็สามารถสื่อให้เห็นความเปลี่ยนแปลงที่ละเอียดอ่อนในใจของพิลโดที่เกิดขึ้นระหว่างร่วมงานกับจีอูในฐานะคู่หู ซึ่งมีแค่อันโบฮยอนเท่านั้นที่สามารถสร้างตัวละครนี้ให้มีชีวิตได้
**บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาสำคัญมาก ถ้ายังไม่ได้ดู อย่าอ่านต่อ**
ตอนจบของเรื่อง คือความสัมพันธ์แบบไหน
กลายเป็นปัญหาระดับชาติ กับความสงสัยว่าระหว่างชเวมูจินและจีอูคือความสัมพันธ์แบบไหน เป็นความรักต่างวัย หรือเป็นความรักและความเกลียด
จุดเริ่มต้นคือจีอูเชื่อใจชเวมูจินทุกอย่าง หลังจากเขาช่วยชีวิตเธอเอาไว้ ในขณะที่ชเวมูจินเองก็เชื่อใจจีอู หลังจากที่เขาเฝ้าดูเธอ เคี่ยวเข็ญเธอมาตลอดหลายปี จนเข้าใจว่าเธอคือ ‘คน’ ของเขา
เมื่อเกิดเหตุการณ์พลิกผัน จีอูก็ไม่อาจไว้ใจชเวมูจินได้อีก อาจเป็นเรื่องของอารมณ์ที่สาดซัดเข้ามาจนเกินรับไหว เมื่อความเชื่อใจกลายเป็นเพียงคำหลอกลวง จีอูจึงเป็นอิสระจากพันธนาการที่ผูกเธอไว้ และทำทุกทางที่จะออกมาจากการเป็นคนในอาณัติของเขา
แต่ชเวมูจินไม่ยอมให้มันเกิดขึ้น จนทำให้หัวหน้าองค์กรสีเทากลับกลายเป็นคนละคน ยอมละทิ้งองค์กรเพียงเพื่อสู้อย่างถึงที่สุดให้จีอูอยู่ข้างเขาให้ได้ ไม่ว่าจะทำอะไร เลวร้ายขนาดไหนก็ตาม
มีหลายฉากที่น่าสนใจทีเดียวว่าความสัมพันธ์ของคนสองคนนี้คืออะไรกันแน่ แต่ซีรีส์ก็ไม่ได้เฉลยชัดเจนอย่างนั้น และเป็นประเด็นค้างคาใจของคนดูที่ต้องไปถกเถียงกันต่อ ซึ่งพัคฮีซุนก็เคยให้สัมภาษณ์ไว้ว่า บทซีรีส์เรื่องนี้เขียนไว้นานแล้ว นักเขียนมีบทตอนจบหลายเวอร์ชั่นมาก และตัวเขาเองเคยอ่านบทที่ชเวมูจินเลวร้ายอย่างที่สุด ถ้าเป็นแบบนั้นเขาก็ไม่อยากจะรับบทนี้ เพราะไม่ได้แตกต่างจากบทตัวร้ายอื่นๆ ที่ผ่านมา
หลังการพูดคุยกัน ทั้งนักเขียนและผู้กำกับก็เห็นด้วยกับการเลือกตอนจบแบบนี้ ที่ทำให้ตัวชเวมูจินมีมิติที่ลึกซึ้ง ทำให้เขาตีความตัวละครในแบบที่น่าสนใจได้ กระทั่งตัวเขาเอง นักเขียน และผู้กำกับ ก็คงไม่อาจรู้ได้เช่นกันว่าชเวมูจินรู้สึกอย่างไร
การฆ่าคือปีศาจจริงหรือ?
ในซีรีส์ My Name มีหลายครั้งที่ชเวมูจินบอกกับจีอูว่าเธอแก้แค้นไม่ได้หรอก เพราะเธอไม่เคยฆ่าคน การฆ่าจึงอาจหมายถึงเส้นแบ่งระหว่างการเป็นมนุษย์กับปีศาจที่จีอูข้ามไปไม่ได้ ทั้งความเป็นผู้หญิง ทั้งความไม่แน่ใจในการตัดสินใจของเธอ หรือเป็นชเวมูจินเองที่ไม่อยากให้เธอก้าวข้ามไปสู่ดินแดนปีศาจ
ส่วนชเวมูจินเองที่พยายามเป็นปีศาจตลอดมา เอาเข้าจริงแล้วตัวเขาก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งที่ไม่อาจห้ามความรู้สึกที่เกิดภายในใจ และแม้จะเป็นปีศาจเลือดเย็นไปแล้ว ในบางมุมเขาก็ยังคงมีน้ำตาให้กับความเสียใจ
My Name จะมีซีซั่นต่อไปหรือไม่
เท่าที่รู้ตอนนี้ My Name กระแสดีมาก มีผู้ชมจำนวนมากมายทั่วโลกกำลังตื่นเต้นกับซีรีส์เรื่องนี้ ความสำเร็จของซีรีส์นำมาซึ่งคำถามคลาสสิกว่า “Netflix จะสร้างซีซั่น 2 ต่อไหม” ซึ่งคำตอบเท่าที่ค้นหามาได้ก็คือ “น่าจะไม่มีซีซั่น 2 หรือถ้ามีก็คงอีกนาน”
เพราะฮันโซฮีได้ให้สัมภาษณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า ตัวเธอเองคิดว่าตัวละครจีอูน่าจะเสียชีวิตหลังจากนั้นด้วยซ้ำ และถ้าจะมีซีซั่น 2 ก็ควรเป็นเรื่องของตัวละครอื่นๆ ที่ดึงไปสร้างเป็นเรื่องราวใหม่ๆ ได้
ส่วนผู้กำกับคิมจินมินก็ได้ให้สัมภาษณ์ไว้เช่นกันว่า ซีรีส์ My Name สร้างไว้สำหรับเรื่องราวในซีซั่นเดียว แต่เขาเองก็เข้าใจว่าความสำเร็จของซีรีส์ก็ย่อมทำให้ผู้คนคาดหวังว่าจะได้เห็นซีซั่น 2 ตามมา ซึ่งคงจะเกี่ยวข้องกับนักเขียนบทมากกว่าตัวเขาเอง เพราะเขาสนใจโปรเจกต์นี้และมากำกับแค่หนึ่งซีซั่นเท่านั้น
ใครที่อยากรับชม My Name ซีซั่น 2 อาจจะต้องเฝ้ารอและหวังให้ Netflix ประกาศออกมาจริงๆ ในสักวัน