Mr. Queen วังหลวงลวงสังหาร ใครเป็นใคร มาเปิดประวัติศาสตร์จริงเทียบกัน!

ซีรีส์ Mr. Queen เดินทางมาถึง EP.7-8 สถานการณ์ใน ‘วังหลวงลวงสังหาร’ เริ่มมีบทบาทสำคัญอย่างเห็นได้ชัด เริ่มมีปมปริศนาการแย่งชิงอำนาจ การทุจริตคอร์รัปชันแบบหนักหน่วงมาก ตัวละครเยอะจนเริ่มสับสนว่าใครเป็นใคร แล้วทำไมต้องเกิดการหักเหลี่ยมเฉือนคมไปมาขนาดนี้

จึงทำให้ ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ต้องไปหาประวัติศาสตร์เกาหลียุคโชซอนอ่านเพื่อทำความเข้าใจว่าใครเป็นใคร ทำไมพระเจ้าชอลจงถึงต้องปลอมว่าตัวเองใสซื่อ ส่วนพระพันปีหลวงกับพระพันปี ศึกตระกูลคิมและตระกูลโจมีความเป็นมายังไง

ซึ่งเรื่องราวจะมีบทสรุปอย่างไรบ้าง ใครเป็นใคร ทำไมปมอำนาจวังหลวงถึงดราม่าอย่างไม่น่าเชื่อจนเอามาทำเป็นซีรีส์ได้ ประวัติศาสตร์ที่แท้จริงเป็นอย่างไร มาอ่านกันเลย

เรื่องมีอยู่ว่าตั้งแต่ยุคของพระเจ้าซุนโจ กษัตริย์องค์ที่ 23 ของโชซอน ไปจนถึงช่วงปลายของระบอบจักรวรรดิเกาหลี เป็นการชิงอำนาจระหว่างสองตระกูล คือตระกูลคิมแห่งอันดง และตระกูลโจแห่งพุงยาง เพื่อขึ้นเป็นใหญ่กอบโกยผลประโยชน์ให้พวกตน ซึ่งจริงๆ ก็เป็นพล็อตที่ได้ยินบ่อยๆ จากหลายๆ ประเทศที่ปกครองด้วยระบบกษัตริย์ ถ้าเปรียบเทียบแล้วนั้น ในยุคของพระเจ้าซุนโจก็ตรงกับช่วงเริ่มต้นกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 1 ของประเทศไทย

พระเจ้าซุนโจครองบัลลังก์ตั้งแต่อายุราว 10 ปี จึงต้องมีผู้รักษาราชการแผ่นดิน ซึ่งก็คือพระพันปีหลวงชองซุนแห่งตระกูลคิม (แม่ของกษัตริย์องค์ก่อน) และเพื่อไม่ให้เงินทองรั่วไหล พระพันปีหลวงได้จัดให้พระเจ้าซุนโจอภิเษกกับพระนางซุนวอน มเหสีที่มาจากตระกูลคิม การคานอำนาจกันระหว่างสองตระกูลยังคงเป็นไปอย่างดุเดือด แม้ว่าตัวพระเจ้าซุนโจเองมีความตั้งใจจะบริหารแผ่นดินให้เจริญก้าวหน้า

จนมาถึงกษัตริย์องค์ต่อมา พระเจ้าฮอนจง ที่นับเป็นหลานของพระเจ้าซุนโจขึ้นครองราชย์ตั้งแต่อายุ 8 ปี จึงทำให้ต้องมีผู้รักษาราชการแผ่นดินก็คือท่านย่า พระพันปีหลวงซุนวอน (มเหสีของพระเจ้าซุนโจ) จากตระกูลคิม และท่านแม่ พระพันปีชินจอง จากตระกูลโจ

เหตุการณ์ที่เป็นจุดพลิกผันให้ตระกูลคิมถูกลดทอนอำนาจในราชสำนักก็คือการสังหารหมู่คริสตชนในปี 1839 ซึ่งนำการกวาดล้างโดย โจอินยอง อัครเสนาบดีที่กวาดล้างผู้นับถือศาสนาคริสต์จนเลือดนองไปทั่วเมือง ความเด็ดขาดของโจอินยองในครั้งนี้ทำให้อำนาจของตระกูลโจกลับมายิ่งใหญ่

กระนั้นพระเจ้าฮอนจงได้สิ้นพระชนม์ในปี 1849 ซึ่งขณะนั้นมีอายุเพียง 19 ปี และยังไม่มีรัชทายาท ทำให้สายตระกูลสิ้นสุดลง การสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าฮอนจงสรุปว่าเป็นเพราะไตวาย ซึ่งงานวิจัยทางประวัติศาสตร์หลายชิ้นบอกตรงกันว่าบันทึกเรื่องยาและการรักษาพระเจ้าฮอนจงมีเหลืออยู่น้อยมาก

พระพันปีหลวงซุนวอนกลับขึ้นมารักษาราชการแทนอีกครั้ง และมีสิทธิ์ในการเลือกกษัตริย์องค์ใหม่ ด้วยความต้องการให้อำนาจยังคงอยู่ในมือตระกูลคิม พระพันปีหลวงจึงไปเลือกองค์ชายปลายแถวมาอุปการะเป็นบุตรบุญธรรม และยกขึ้นเป็นพระเจ้าชอลจง กษัตริย์องค์ที่ 25 ของโชซอน ในฐานะผู้สำเร็จราชการแทนในระยะเวลาหนึ่ง

นับเป็นช่วงเวลาที่พระพันปีหลวงจะหาหญิงสาวจากตระกูลคิมมาอภิเษกเพื่อสร้างฐานอำนาจให้ตระกูลคิมกลับมายิ่งใหญ่ได้อีกครั้ง ทั้งยังเลือกองค์ชายตกอับมารับตำแหน่งเป็นหุ่นเชิดเพื่อให้พระนางมีอำนาจสั่งการอยู่หลังม่านเต็มรูปแบบ

ภาพรวมในช่วงเวลานี้ นอกรั้ววังโชซอนคือวิกฤตข้าวยากหมากแพง ภาษีที่ต้องจ่ายวังหลวงจนชาวบ้านอดอยากทุกข์ทนมายาวนานหลายรัชกาล นั่นเพราะการแย่งชิงอำนาจเงินทองในราชสำนักที่ยาวนานไม่มีวันจบสิ้น

ฝ่ายตระกูลโจ ในตอนนี้เหลือเพียงพระพันปีชินจองที่มีศักดิ์เป็นมารดาของกษัตริย์ฮอนจง พระพันปีจึงต้องดิ้นรนรักษาอำนาจด้วยการส่งหญิงสาวจากตระกูลโจเข้ามาเป็นพระสนม พร้อมด้วยขุนนางบางส่วนที่ยังคงอยู่ฝ่ายเดียวกับตระกูลโจ

และนี่คือเหตุการณ์รอยต่อช่วงที่เกิดซีรีส์ Mr. Queen เมื่อเชฟหนุ่มเพลย์บอยปากร้ายย้ายร่างไปอยู่ในร่างของมเหสีพระเจ้าชอลจง!

พระเจ้าชอลจง กษัตริย์องค์ที่ 25 ของโชซอน (ช่วงชีวิต 1831-1864) เดิมชื่อ อีวอนบอม รับบทโดย คิมจองฮยอน

– พระเจ้าชอลจง เป็นโอรสขององค์ชายชอนกเย >> องค์ชายชอนกเยเป็นโอรสขององค์ชายอึนออน >> องค์ชายอึนออนเป็นโอรสขององค์ชายซาโด >> องค์ชายซาโดโอรสของพระเจ้ายองโจ กษัตริย์องค์ที่ 21 (เรียกว่าอีวอนบอมคือเจ้าชายสุดท้ายปลายแถวจริงๆ)

– องค์ชายชอนกเยและครอบครัวถูกเนรเทศไปยังเกาะคังฮวา เขาเสียชีวิตตอนที่อีวอนบอมอายุได้ 10 ปี

– พี่ชายคนโตเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเนื่องจากไปร่วมเป็นกบฏ ครอบครัวของอีวอนบอมจึงเหลือเพียงเขาและพี่ชายคนละแม่ที่อายุห่างกัน 3 ปี ทั้งยังถูกเนรเทศไปที่เกาะคังฮวาอีกครั้ง

– พระพันปีหลวงซุนวอนรับอีวอนบอมมาเป็นบุตรบุญธรรม และให้ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าชอลจงขณะที่อายุได้ 19 ปี

– พระเจ้าชอลจงอ่านเขียนไม่ได้เลย เพราะในอดีตนั้นครอบครัวค่อนข้างยากจนข้นแค้น ทำให้ไม่ได้รับการศึกษาเยี่ยงราชนิกูลคนอื่นๆ ซึ่งทำให้เขาเป็นตัวเลือกที่ถูกต้องสำหรับพระพันปีหลวงที่จะใช้เป็นหุ่นเชิด สั่งการทุกอย่างได้

– ตามประวัติศาสตร์บอกว่า 13 ปีที่พระเจ้าชอลจงครองราชย์ เขายังดูเหมือนชาวประมงทั้งที่อยู่ในเครื่องทรงของกษัตริย์

– พระเจ้าชอลจงสิ้นพระชนม์อย่างมีเงื่อนงำเมื่ออายุได้ 33 ปี และยังไม่มีรัชทายาท

พระพันปีหลวงซุนวอน ตระกูลคิมแห่งอันดง (ช่วงชีวิต 1789-1857) รับบทโดย แพจงอก

– วังหลวงอาจเป็นโรงเรียนสอนการเอาตัวรอด และสอนให้รู้ว่าถ้าไม่ขึ้นเป็นใหญ่ก็ไม่มีอำนาจพอจะอยู่รอดในราชสำนักโชซอน

– คิมซุนวอน เป็นลูกสาวของขุนนางจากตระกูลคิมแห่งเมืองอันดง อภิเษกกับพระเจ้าซุนโจในปี 1802 แม้จะมีโอรสไว้สืบทอดบัลลังก์ แต่ก็เสียชีวิตในปี 1830 และพระเจ้าซุนโจก็มาสิ้นพระชนม์ตามไปในปี 1834

– พระพันปีหลวงซุนวอนทำหน้าที่สำเร็จราชการแผ่นดินระหว่างที่พระเจ้าฮอนจงขึ้นครองราชย์ตั้งแต่อายุยังน้อย โดยมีพระพันปีชินจองจากตระกูลโจร่วมทำหน้าที่คานอำนาจด้วย

– เมื่ออายุเพียง 19 ปี พระเจ้าฮอนจงก็สิ้นพระชนม์โดยที่ไม่มีรัชทายาท ทำให้พระพันปีหลวงซุนวอนกลับมาเป็นผู้สำเร็จราชการแผ่นดินอีกครั้ง

– พระนางร่วมมือกับบิดาและเหล่าขุนนางจากตระกูลคิม คัดเลือกเจ้าชายที่ราชสำนักลืมเลือนเพื่อกลับมารับตำแหน่งกษัตริย์หุ่นเชิด ซึ่งก็คือพระเจ้าชอลจง

– ในรัชสมัยของพระเจ้าชอลจง พระนางซุนวอนทรงเป็นผู้สำเร็จราชการยาวนานถึง 4 ปี โดยมี คิมจวากึน น้องชายของพระนางรั้งตำแหน่งอัครมหาเสนาบดี และยังมี คิมมุนกึน ที่ส่งธิดามาเป็นพระมเหสีของพระเจ้าชอลจง

– หลังจากต่อสู้ศึกในวังหลวงมายาวนาน ในปี 1857 พระพันปีหลวงก็สิ้นพระชนม์ในวัย 68 ปี นับเป็นหนึ่งในสตรีที่ขึ้นมาบริหารบ้านเมืองเป็นระยะเวลานานที่สุดพระองค์หนึ่ง

พระมเหสีมยองซุน (ช่วงชีวิต 1837-1878) รับบทโดย ชินฮเยซอน

– ในซีรีส์ Mr. Queen พระมเหสีมีชื่อว่า คิมโซยง แต่จริงๆ แล้วในประวัติศาสตร์ชื่อ คิมมยองซุน เป็นบุตรสาวของคิมมุนกึน เสนาบดีที่ทำงานใกล้ชิดพระพันปีหลวงซุนวอน

– คิมมยองซุนมีน้องชายคนหนึ่งชื่อ คิมบยองพิล ที่ทำงานในราชสำนักเช่นกัน

– เมื่ออายุ 14 ปีได้อภิเษกกับพระเจ้าชอลจง และขึ้นเป็นพระมเหสีมยองซุน ให้กำเนิดโอรสเป็นองค์รัชทายาท แต่โอรสกลับสิ้นพระชนม์เมื่อเกิดมาได้เพียง 6 เดือน

– ว่ากันว่าพระมเหสีมยองซุนเป็นคนไม่ค่อยพูด ไม่เปิดเผยความรู้สึกภายใน และไม่ชอบการมีส่วนร่วมทางการเมือง

– เมื่อสิ้นพระพันปีหลวงและพระเจ้าชอลจง ไม่กี่ปีต่อมาอำนาจในราชสำนักจึงตกเป็นของพระพันปีชินจอง (แม่ของพระเจ้าฮอนจง), พระนางฮโยจอง (พระมเหสีของพระเจ้าฮอนจง) และพระนางมยองซุน (พระมเหสีของพระเจ้าชอลจง)

– ด้วยการนับตามอาวุโส ท้ายที่สุดพระพันปีชินจองจึงมีสิทธิ์ในการเลือกกษัตริย์พระองค์ใหม่

– พระเจ้าโคจงขึ้นครองราชย์เป็นกษัตริย์องค์ที่ 26 ของโชซอน และในปีที่ 15 ของรัชกาล พระนางมยองซุนก็สิ้นพระชนม์ในวัย 42 ปีที่พระราชวังชางกยอง

พระพันปีชินจอง ตระกูลโจแห่งพุงยาง (ช่วงชีวิต 1809-1890) รับบทโดย โชยอนฮี

– โจฮายอน เป็นลูกสาวของขุนนางตระกูลโจ เกิดในรัชสมัยของพระเจ้าซุนโจ เมื่ออายุได้ 10 ปีก็อภิเษกกับองค์ชายรัชทายาทฮโยมยอง

– ลูกชายเพียงคนเดียวคือ อีฮวาน ลืมตามาดูโลกได้เพียง 3 ปี องค์ชายฮโยมยองก็สิ้นพระชนม์ด้วยโรคร้ายในปี 1830 หลังจากนั้นพระเจ้าซุนโจก็มาสิ้นพระชนม์ไล่เลี่ยกันในปี 1834

– ทำให้โอรสของเธอได้ขึ้นเป็นพระเจ้าฮอนจง และโจฮายอนก็ขึ้นเป็นพระพันปีชินจอง แต่โชคร้ายที่พระเจ้าฮอนจงอายุไม่ยืนนัก โดยสิ้นพระชนม์ในปี 1849 ยังไม่ทันมีรัชทายาทไว้สืบทอดบัลลังก์

– ทำให้พระพันปีหลวงซุนวอนกลับมามีอำนาจในการเลือกกษัตริย์องค์ใหม่ และได้พระเจ้าชอลจงมาครองบัลลังก์ใต้เงา

– พระพันปีชินจองแห่งตระกูลโจกลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง หลังจากพระพันปีหลวงซุนวอนสิ้นพระชนม์ รวมทั้งพระเจ้าชอลจงที่สิ้นพระชนม์ในอีกไม่กี่ปีต่อมา

– และยังคงเดินตามเส้นทางการรักษาอำนาจแบบดั้งเดิม คือเมื่อมีสิทธิ์เลือกองค์ชายสักคนมารับตำแหน่งกษัตริย์ก็เลือกสรรจากเจ้าชายที่โลกลืม เพื่อที่จะมาเป็นกษัตริย์หุ่นเชิดได้สมบูรณ์แบบ

– ทรงยกให้องค์ชายมยองบกขึ้นเป็นพระเจ้าโคจง กษัตริย์องค์ที่ 26 ของโชซอน และร่วมกับองค์ชายฮึงซอน บิดาขององค์ชาย ทำหน้าที่ว่าราชการหลังม่าน ทั้งคู่ร่วมกันขับไล่ตระกูลคิมออกไปจากราชสำนักจนหมด

– แต่อำนาจและเงินทองเป็นเรื่องหอมหวาน ต่อมาไม่นานองค์ชายฮึงซอนก็เริ่มสั่งสมกำลังเพื่อขึ้นเป็นใหญ่แทนพระพันปีชินจอง และทำการยกหญิงสาวจากตระกูลมิน (ตระกูลฝ่ายแม่ขององค์ชาย) ให้ขึ้นเป็นมเหสีของพระเจ้าโคจง ซึ่งเหล่าราชสำนักตระกูลโจก็ไม่ยอมแพ้ พลิกกลับมามีชัยด้วยการบีบให้องค์ชายฮึงซอนยอมวางมือ และให้พระพันปีชินจองกลับมามีอำนาจอีกครั้ง

– พระพันปีชินจองสิ้นพระชนม์ในวัย 83 ปี ก่อนที่ช่วงล่มสลายของจักรวรรดิเกาหลีจะเดินทางมาถึงในอีก 20 ปีต่อมา

พระสนมเอกโจฮวาจิน ตระกูลโจแห่งพุงยาง (ช่วงชีวิต 1842-1865) รับบทโดย ซอลอินอา

– พระสนมเอกโจฮวาจิน เป็นหญิงสาวจากตระกูลโจที่ถูกส่งเข้ามาเป็นสนมเพื่อคานอำนาจกับตระกูลคิม ในช่วงเวลานั้นแทบไม่มีขุนนางที่อยู่ฝ่ายตระกูลโจมากเท่าใดนัก เพราะถูกพระพันปีหลวงซุนวอนขับไล่ออกไปจนหมด

– พระสนมเอกโจฮวาจินจึงมีเพียงพระพันปีชินจอง เสนาบดีฝ่ายขวา และเสนาบดีอีกไม่กี่คนที่ยังต่อสู้เพื่อตระกูลโจ การอยู่ในพระราชวังของเธอจึงไม่ใช่เรื่องง่าย

– เมื่ออายุได้ 18 ปี พระสนมเอกโจฮวาจินให้กำเนิดโอรส แต่สิ้นพระชนม์หลังคลอด ซึ่งโอรสอีกคนในอีก 2 ปีต่อมาก็ประสบชะตากรรมเช่นกัน นั่นทำให้เธอไม่มีทายาทเพื่อใช้เป็นเครื่องต่อรองความมั่นคงในฐานะพระสนม

– พระสนมเอกโจฮวาจินสิ้นพระชนม์ในปี 1865 เมื่ออายุได้เพียง 24 ปี