Snowdrop ‘เพลง Bimok’ บทเพลงแด่หนุ่มสาว และความแตกร้าวทางการเมืองเกาหลีเหนือ-ใต้
Snowdrop EP.9 เป็นหนึ่งในตอนที่เพราะที่สุด เพราะบทเพลงหลักที่ขับขานในอีพีนี้คือ เพลง Bimok (พีมก) ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีของชาวเกาหลี ด้วยเนื้อหาที่พูดถึงความสูญเสียที่เกิดขึ้นจากสงครามเกาหลีช่วงปี 1950-1953
“ท้องฟ้าที่ฉันทิ้งเพื่อนวัยเด็กเอาไว้ ในบ้านเกิดที่แสนห่างไกล ฉันคิดถึงเธอ ทุกคำนั้นกลายเป็นมอสที่ปกคลุมผิวดินเอาไว้
“ค่ำคืนที่ไหลผ่านแสงจันทร์อย่างเดียวดาย ฉันร้องไห้โดยไม่มีสักเสียงหลุดรอดออกมา คิดถึงความทรงจำอันไร้เดียงสาในวันเก่าๆ เมล็ดพันธุ์ของความเศร้ากลับกลายเป็นเพียงก้อนหินกองหนึ่ง”
เพลงพีมก แต่งเนื้อร้องโดย ฮันมยองฮี ทำนองโดย จางอิลนัม ขับร้องโดย ออมจองแฮง เป็นเพลงในปี 1969 ที่ฮันมยองฮีแต่งเพื่อรำลึกถึงเหล่าทหารที่เสียชีวิตเพื่อประเทศของตัวเอง เมื่อครั้งที่เธอเดินทางไปภูเขาในเมืองฮวาชอน มีสวนป่าพีมกที่สร้างอยู่ใกล้เขื่อนสันติภาพ ฮันมยองฮีได้เห็นสุสานของทหารที่ไม่ปรากฏชื่อ และกลายเป็นแรงบันดาลใจในการแต่งเพลงพีมกขึ้นมา
“ทหารหนุ่มจากทั่วโลกถูกฆ่าในภารกิจการต่อสู้ที่รุนแรงระหว่างสงครามเกาหลี ก้อนหินถูกนำมาเรียงเป็นกอง เป็นสุสานให้กับทหารไม่ทราบนามจำนวนมากมายที่ถูกพบศพในบริเวณนี้ ไม้กางเขนที่ปักเอาไว้พร้อมด้วยสร้อยคอทหาร ยังคงเป็นหลักฐานของโศกนาฏกรรมที่หนุ่มสาวไม่ควรจบชีวิตด้วยสงคราม
“นักร้องชื่อดังของเกาหลีได้แรงบันดาลใจจากสถานที่แห่งนี้ และนำไปแต่งเพลงพีมก ที่แปลว่าป้ายหลุมศพที่ทำจากไม้
“อนุสาวรีย์แห่งนี้สร้างขึ้นโดยประชาชนของฮวาชอน เพื่อสดุดีการเสียชีวิตของเหล่าทหาร เกียรติ ศักดิ์ศรีในการรับใช้ชาติ และสร้างสันติสุขกลับคืนสู่โลก รวมทั้งยังคอยย้ำเตือนคนรุ่นหลังถึงความสำคัญของความมีน้ำใจอันหนึ่งอันเดียวกันในการปรองดอง ความเท่าเทียม และความปลอดภัยในการมีชีวิตของผู้คนบนโลก” – ถอดความจากป้ายบริเวณอนุสาวรีย์พีมก
ในบริเวณสวนพีมก มีอนุสาวรีย์และเครื่องเตือนใจถึงโศกนาฏกรรมระหว่างสงครามเกาหลีเหนือ โดยในทุกๆ วันที่ 3-6 มิถุนายนของทุกปี จะมีการจัดงาน Bimok Cultural Festival เพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนี้
Snowdrop เมื่อบทเพลงพีมกยังคงขับขาน ท่ามกลางน้ำตาของคนเกาหลีเหนือ-ใต้
ในซีรีส์ Snowdrop เราอาจได้เห็นฉากที่นักศึกษาสาวนั่งเศร้าในห้องประชุมระหว่างเพลงนี้ดังขึ้นมาจากวิทยุ ถ้อยความที่ฟังแล้วรู้สึกตามได้ไม่ยาก เพราะฉากหลังของซีรีส์ในช่วงปี 1987 ก็เต็มไปด้วยความขัดแย้งระหว่างประชาชนและรัฐบาลทหารของชอนดูฮวาน ก่อนจะกลายเป็นเหตุการณ์นองเลือดระหว่างทหารและประชาชนในปี 1988
ในมุมหนึ่ง วัยหนุ่มสาวล้วนเป็นผู้บริสุทธิ์ที่ใฝ่หาความยุติธรรมและการปกครองที่เป็นธรรม การที่พวกเขาลุกขึ้นต่อสู้ก็เพราะมันไม่มีทางเหลือไหนเหลือให้เลือกแล้ว ในอีกมุมหนึ่ง ทหารหนุ่มจากเกาหลีเหนือก็อยู่ในกรอบความเชื่อว่าต้องทำเพื่อชาติ กระทั่งสละชีวิตก็ทำได้ เวลาที่พวกเขาฟังเพลงพีมก มันก็คือเสียงปลอบโยนที่โอบกอดความรู้สึกข้างในของพวกเขาเอาไว้
เพราะฉะนั้น บทเพลงพีมกใน Snowdrop EP.9 จึงเป็นบทเพลงแด่หนุ่มสาวที่ต่างเป็นหมากบนกระดานการเมืองระหว่างทั้งสองฝ่าย บทเพลงที่สะท้อนความหมายว่า แท้จริงแล้ว สงคราม อำนาจ และความโลภ เป็นสิ่งที่นำมาซึ่งความสูญเสียอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
เรื่องราวของความสูญเสีย และเพลงพีมกที่ยังจะดังตลอดไป
สำหรับคนเกาหลีแล้ว พีมกไม่ใช่เป็นแค่เพลงดังระดับชาติ แต่ยังเป็นเพลงที่เชื่อมโยงผู้คนเข้าไว้ด้วยกัน เพราะสงครามเกาหลีได้สร้างบาดแผลในใจให้ผู้คนทั่วทั้งประเทศ
จอนฮยางจิน เป็นนักร้องชาวเกาหลีเหนือที่เดินทางมาเกาหลีใต้ในปี 2014 เพื่อตามหาอิสรภาพในการร้องเพลง และตั้งแต่ปี 2019 เป็นต้นมา เธอได้ร้องเพลงพีมกและอัปโหลดลงในช่องยูทูบของตัวเองเป็นประจำทุกปีในช่วงวันรำลึกเหตุการณ์แห่งความสูญเสีย
เรื่องราวในชีวิตของเธอเริ่มต้นตั้งแต่สมัยปู่ย่าที่อาศัยบนเกาะเชจู แต่ทั้งครอบครัวต้องอพยพไปญี่ปุ่นเนื่องจากสนธิสัญญาเชจู 4:3 ภายหลังจากสงครามเกาหลี เธอและครอบครัวเดินทางไปเกาหลีเหนือเพื่อหาเลี้ยงชีพและหวังว่าจะมีชีวิตที่ดีขึ้น
หลังจากสงครามเกาหลีสิ้นสุด เธอวางแผนที่จะกลับบ้านเกิด แต่ไม่ว่าจะรอเท่าไหร่ก็ตาม โอกาสที่จะได้กลับเกาหลีใต้ก็ไม่เคยมาถึง คุณปู่ของเธอเสียชีวิต ตามด้วยคุณย่า ก่อนที่พวกท่านจะได้กลับบ้านเกิดที่แท้จริง ซึ่งเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ใช่แค่ครอบครัวของจอนฮยางจิน แต่ยังมีอีกหลายครอบครัวที่ต้องพบกับเหตุการณ์ไม่ต่างกัน เธอหวังว่าบทเพลงนี้จะทำให้ใครก็ตามที่กำลังทนทุกข์ยังคงอดทนต่อไปได้เพื่อครอบครัวของพวกเขา
“ตอนที่ฉันเริ่มอาชีพนักร้องในเกาหลี ตอนนั้นฉันทำเพื่อหาเงิน ฉันจึงโฟกัสที่แค่การร้องเพลง เน้นเทคนิคการใช้เสียง แต่กับเพลงพีมกที่ฉันได้ร้องในปี 2019 ฉันเรียนรู้ที่จะส่งผ่านความรู้สึกของเพลงที่สำคัญมากกว่าเทคนิคอะไรทั้งหมด ตอนที่ฉันร้องเพลงนี้ ฉันร้องให้ทุกคนที่ยังคงอยู่ในความเจ็บปวด ร้องให้เพื่อนวัยเด็กที่มอบเลือดเนื้อในวัยหนุ่มสาวให้กับประเทศของพวกเขา ฉันคงไม่กล้าพูดว่าได้เป็นพยานในเหตุการณ์เหล่านี้ แต่ฉันรู้สึกถึงความปวดร้าวอยู่บนบ่าระหว่างร้องเพลงพีมกในทุกๆ ครั้ง”
ฟังเพลงพีมก (Bimok) ได้ที่นี่
อ้างอิง: sports.khan.co.kr, namu.wiki