reply-1988-20-facts

Reply 1988 กับ 20 ข้อทดสอบความเป็นแฟนพันธุ์แท้

หลังจากที่ปล่อยคอนเทนต์ในเวอร์ชันพอดแคสต์กันไปแล้ว คราวนี้เราขอมาเอาใจสายนักอ่านกันบ้าง กับ 20 เรื่องราวสนุกๆ ของซีรีส์ที่หนึ่งในใจใครหลายคนอย่าง Reply 1988 ซึ่งเบาะแสทั้ง 20 ข้อ ที่ดูซีรีส์ให้ซีเรียส นำมาแยกย่อยให้ทีละข้อแบบที่ทุกคนสามารถซูมจอดูได้ถนัดตา ใครใคร่เซฟเชิญเซฟ ใครใคร่แชร์เชิญแชร์ ใครอ่านแล้วคิดถึง การย้อนกลับไปดูอีกรอบก็ไม่ใช่เรื่องผิด

และเมื่ออ่านคอนเทนต์นี้จบ จงภูมิใจว่าคุณคือแฟนพันธุ์แท้ของชาวซังมุนดงไปเรียบร้อยแล้ว

reply-1988-20-facts

1. เกิดอะไรขึ้นบ้างในช่วงปี 1988

อย่างที่รู้กันว่าจักรวาล Reply ในยุคต่างๆ ของผู้กำกับชินวอนโฮ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องก่อนหน้าอย่าง Reply 1997 หรือ Reply 1994 ผู้กำกับชินวอนโฮก็ได้หยิบเอาเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นจริงมาเบลนด์กับเรื่องราวในซีรีส์อย่างกลมกลืน แล้ว Reply 1988 มีเหตุการณ์อะไรที่น่าสนใจบ้าง

– กรุงโซล เกาหลีใต้ เป็นเจ้าภาพมหกรรมกีฬาโอลิมปิกฤดูร้อน ปี 1988
– กำแพงเบอร์ลินที่แบ่งเยอรมันเป็นเหนือ-ใต้ ถูกทุบทำลายในปี 1989
– เกาหลีเพิ่งจะมีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งที่เริ่มทำหน้าที่เป็นปีที่ 2 ระบบคอมมิวนิสต์เดิมเริ่มเสื่อมถอยลง
– จุดเริ่มต้นของป๊อปคัลเจอร์สมัยใหม่ในเกาหลีใต้ โดยเฉพาะความโด่งดังของ ‘อีมุนเซ’ ไอคอนคนสำคัญของวงการเพลงป๊อปเกาหลี
– ซีรีส์มีความละเอียดลออด้วยพร๊อพประกอบฉากสุดว้าวหลายชิ้นที่ทำให้คนดูรู้สึกหวนรำลึกถึงช่วงเวลาในอดีต ไม่ว่าจะเป็น ตุ๊กตามาสคอตโอลิมปิก โทรศัพท์มือหมุนเกมแฟมิคอม กิจกรรมการเช่าวิดีโอมาดูร่วมกัน ทีวีหลอดแก้วจอ 4:3 ซึ่งเหล่านี้คือสีสันของยุค 80 ที่หลายคนอาจจะลืมไปแล้ว

reply-1988-20-facts

2. ว่ากันว่า ‘ชเวแท็ก’ เป็นตัวละครที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากบุคคลจริง

ตัวละคร ‘ชเวแท็ก’ มีองค์ประกอบหลายอย่างที่ค่อนข้างคล้ายคลึงกับ ‘อีชางโฮ’ เซียนพาดุกตัวจริงของเกาหลี ได้แก่

– อีชางโฮ เป็นนักกีฬาพาดุกอันดับ 1 ของเกาหลี ได้รับการกล่าวขานว่าเป็นเซียนพาดุกอัจฉริยะ
– อีชางโฮมีฉายาว่าพระพุทธรูปหิน ส่วนแท็กได้รับฉายาในซีรีส์ว่ารูปปั้น เพราะเวลาเล่นพาดุกจะนิ่งมาก ไม่แสดงอารมณ์ เดาไม่ได้เลยว่าคิดอะไรอยู่
– กระดานพาดุกของแท็กในซีรีส์มีรูปแบบการวางหมากแบบเดียวกันกับของอีชางโฮ
– ถ้วยรางวัลชนะเลิศพาดุกที่ถูกนำมาเป็นกิมมิกของเรื่อง แท็กตั้งใจให้ด๊อกซอนเป็นของขวัญ แต่ด๊อกซอนไม่เก็ต และเกือบเอาไปใช้ใส่กิมจิ จริงๆ แล้วสิ่งนี้เป็นพร๊อพที่ถูกทำขึ้นเพื่อให้เหมือนกับถ้วยรางวัลฟูจิตซึคัพที่อีชางโฮได้รับในปี 1996

reply-1988-20-facts

3. ซองดงอิล-อีอิลฮวา พ่อแม่ทุกสถาบัน

สำหรับแฟนพันธุ์แท้ที่ตามดู Reply มาครบทั้ง 3 ภาค น่าจะพอสังเกตเห็นกิมมิกที่ผู้กำกับชินวอนโฮตั้งใจใส่มาในจุดนี้ กับการใช้นักแสดงคู่เดิมในการมารับบทพ่อแม่ของนางเอก

ซึ่งไม่ใช่แค่นักแสดงคู่เดิมเท่านั้น แต่นิสัยใจคอยังเหมือนกันในทุกๆ ภาคด้วย โดยเฉพาะความใจใหญ่ในการทำกับข้าวทีละมากๆ ไม่ว่าจะจนหรือรวยก็มักจะแบ่งปันอาหารการกินกับเพื่อนบ้านและเพื่อนของลูกๆ อย่างเต็มที่เสมอ

reply-1988-20-facts

4. ซังมุนดงอยู่ที่ไหน แล้วทำไมต้องซังมุนดง

– ซังมุนดงเป็นเมืองที่มีอยู่จริง อยู่แถบทางเหนือของโซล แต่ตัวบ้านของทั้ง 5 ครอบครัวถูกสร้างขึ้นมาใหม่ทั้งหมด ปัจจุบันทุบทิ้งไปหมดแล้ว
– นอกจากจะใช้ซังมุนดงเป็นย่านของบ้านทั้ง 5 ครอบครัวแล้ว ยังมีจุดเชื่อมโยงตรงที่ย่านนี้ยังเป็นพื้นที่เดียวกับของครอบครัวโกกิลดงจากการ์ตูนเรื่องไดโนเสาร์น้อยดูลี่ ซึ่งนี้ถือเป็นการ์ตูนที่ดังมากๆ ในยุค 80

reply-1988-20-facts

5. รู้หรือไม่ นักแสดงนำ Reply 1988 เป็นการรวมทีมนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยคอนกุก

– นักแสดงนำส่วนใหญ่ในซีรีส์ Reply 1988 ล้วนจบมาจากคณะภาพยนตร์ มหาวิทยาลัยคอนกุก ด๊อกซอน: ฮเยริ (รุ่น 12), ซอนอู: โกคยองพโย (รุ่น 9), พี่โบรา: รยูฮเยยอง (รุ่น 10), พี่จองบง: อันแจฮง (รุ่น 5)
– คอนกุกเป็นหนึ่งใสมหาลัยยอดฮิตของคนบันเทิงเกาหลี มีนักแสดงหลายคนที่เรียนที่นั่น แต่ที่เซอร์ไพรส์คือคนที่อยู่ในรุ่นใกล้ๆ กันมาแสดงด้วยกันแบบนี้ไม่ได้มีบ่อยๆ
– ตอนซีรีส์ออกอากาศในปี 2015 คณะนี้กลายเป็นคณะยอดฮิตไปเลย ทุกคนต่างอยากเข้าไปเรียนที่นี่

reply-1988-20-facts

6. ยุคสมัยที่เกาหลีใต้มีกฎหมายไม่ให้คนนามสกุลเดียวกันแต่งงานกัน

– ประมวลกฎหมายแพ่งเกาหลี มาตรา 809 ห้ามบุคคลนามสกุลหรือต้นสกุลเดียวกันจดทะเบียนสมรสกัน
– แต่ในที่สุดก็เกิดปัญหา เพราะนามสกุลที่ชาวเกาหลีใช้มีอยู่เพียง 250 ชื่อที่ได้รับความนิยม เช่น คิม, อี, พัค, ชเว, ซง ฯลฯ
– ทางการจึงผ่อนผันให้คนนามสกุลเดียวกันที่ไม่ใช่เครือญาติแต่งงานกันได้ 3 ครั้ง คือในปี 1978, 1988 และ 1996 ทำให้ในช่วง 3ปีดังกล่าวมีคู่รักมาจดทะเบียนสมรสกันเกือบ 50,000 คู่

reply-1988-20-facts

7. พี่ขยะรึเปล่า? พี่ขยะเป็นกามเทพให้ซอนอูรึเปล่า?

Easter Egg ที่ซ่อนอยู่ในช่วงท้ายของซีรีส์ กับการปรากฏตัวของ ‘พี่ขยะ’ จาก Reply 1994 ถ้ายังจำกันได้… ในช่วงที่ทุกคนมีหน้าที่การงานกันแล้ว ตอนนั้นซอนอูยังเป็นนักศึกษาแพทย์ พี่ขยะจะไปนัดบอดกับโบรา แต่ติดธุระด่วน (ซึ่งใน Reply 1994 คือพี่ขยะไปหานาจองนั่นเอง) สุดท้ายเลยฝากฝังให้ซอนอูไปแทน โดยไม่รู้ว่าเป็นอีกฝ่ายคือโบรา พี่ขยะจึงเหมือมาเป็นกามเทพที่ทำให้ทั้งคู่ได้กลับมารักกันอีกครั้ง จนนำไปสู่การแต่งงานในที่สุด

reply-1988-20-facts

8. โชว์เพลง Story of Last Night ในตำนาน

ฉากไฮไลต์ที่ถูกกดดูซ้ำแล้วซ้ำอีกในยูทูบคือฉากที่สามหนุ่ม จองฮวัน ดงรยง และซอนอู ไปเต้นคัฟเวอร์เพื่อชิงวอล์กแมนให้ด๊อกซอน โดยเพลง Story of Last Night ของวง So Bang Cha ถือเป็นอีกหนึ่งตำนานในยุคนั้น เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของแดนซ์กรุ๊ปเคป๊อป เป็นเพลงที่ทำให้ทุกคนได้รู้จักการเต้นแบบอะโครบาติก หรือการเต้นแบบตีลังกาผาดโผน ซึ่งยุคนั้นไม่ค่อยมีแบบนี้

กว่าจะมาเป็นฉากที่เราเห็นกัน หนุ่มต้องใช้เวลาซ้อมกันประมาณ 3 เดือน ซึ่งถือว่าคุ้มค่า เพราะท่าเป๊ะมาก

ดูโชว์เต้นของสามหนุ่มได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=oBBTqXQFTiA

reply-1988-20-facts

9. รู้หรือไม่ รยูจุนยอลเคยแคสต์บทชเวแท็กด้วย

ก่อนจะโด่งดังเป็นพลุแตกจากบทจองฮวัน ต้องเล่าย้อนไปว่าในตอนนั้นคุณรยูยังเป็นหน้าใหม่ในวงการ และการได้มาแคสต์ซีรีส์ของผู้กำกับชินวอนโฮ ทำให้เขาต้องมีการเตรียมตัวอย่างหนัก

โดยก่อนไปแคสต์ถึงกับมีการซ้อมเต้นอย่างดี เพราะคิดว่าตัวเองจะได้บทดงรยง แต่พอได้คุยกับผู้กำกับก็มีการขิงไปอีกว่าผมเล่นพาดุกเป็นด้วยนะครับ ทำให้ตอนนั้นมีโอกาสได้แคสต์บทแท็กไปด้วย

ซึ่งนักแสดงนำใน Reply 1988 ก็ล้วนมาจากการเป็นนักแสดงหน้าใหม่ในภาพยนตร์อิสระ ไม่ว่าจะเป็น รยูฮเยยอง (โบรา), รยูจุนยอล (จองฮวัน), อันแจฮง (จองบง), อีดงฮวี (ดงรยง)

reply-1988-20-facts

10. ทำไมหิมะแรกจึงสำคัญ

คนเกาหลีมีความเชื่อกันว่า…ถ้าหิมะแรกตกใส่จมูกใครจะสมหวังในความรัก

แล้วมีหรือที่ความเชื่อนี้จะไม่ไปถึงหูของด๊อกซอน ผู้ที่เชื่อเรื่องหิมะแรกเอามากๆ เธอก็เลยเตรียมอีเวนต์สารภาพรักกับซอนอูด้วยการเขียนจดหมายไปให้พี่ดีเจอ่านในรายการวิทยุของอีมุนเซ

ในที่สุดพี่ดีเจก็อ่านโปสการ์ดของด๊อกซอน และพูดว่าอัตราความสำเร็จของการสารภาพรักในหิมะแรกของปีมีโอกาสสำเร็จ 90% นี่คือเวลาที่คุณต้องรวบรวมความกล้าและบอกความในใจออกไป แต่สุดท้ายต้องอกหัก เพราะนั่นคือวันเดียวกันกับที่ซอนอูสารภาพรักพี่โบรา

ชมคลิป ‘ซอนอูสารภาพรักกับพี่โบราในวันหิมะแรก’ ได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=PhmilTGfG9o&list=PLdyB3s37qpTOt4u5IMVIgydj1CMeghaCN&index=60

reply-1988-20-facts

11. โอฮยอก นักร้องนำวง Hyukoh มาเกี่ยวอะไรด้วย

เพลงประกอบซีรีส์ที่โดนใจใครหลายคน เราขอฟันธงว่าหนึ่งในนั้นต้องมีเพลง A Little Girl ที่ปล่อยครั้งแรกในอีพี 6 ระหว่างหิมะแรกโปรยปราย โดยต้นฉบับของเพลงนี้เป็นผลงานของ อีมุนเซ ที่โอฮยอก นักร้องนำวง Hyukoh นำมาคัฟเวอร์ใหม่ เรียบเรียงโดย philtre ซึ่งเป็นโปรดิวเซอร์ทีม Planet Shiver ที่ทำเพลงโคตรเท่ จนสามารถทำให้เพลงเก่าในอดีตเพลงนี้กลับมาขึ้นชาร์ตได้อีกครั้ง

ในช่วงปี 2015 ที่ซีรีส์ออกอากาศ ตอนนั้นวง Hyukoh เป็นศิลปินอินดี้ที่กำลังเริ่มๆ ได้รับความนิยมในเกาหลีใต้ ยังไม่ได้โด่งดังในระดับเอเชียเหมือนตอนนี้ แต่เมื่อได้มาร้องเพลง A Little Girl ประกอบซีรีส์ ก็กลายเป็นว่าเริ่มแมสมากขึ้น ถือว่าซีรีส์เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมให้วงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางก็ว่าได้

Hyukoh เริ่มต้นฟอร์มวงอย่างเป็นทางการในปี 2014 ประกอบด้วยสมาชิก 4 คน ได้แก่ โอฮยอก (ร้องนำ, กีตาร์, แต่งเพลง), อิมดงกอน (เบส), อิมฮยอนเจ (กีตาร์หลัก) และ อีอินอู (กลอง) สมาชิกทุกคนเป็นเพื่อนที่เกิดในปี 1993 เหมือนกัน โดยมีโอฮยอกรับหน้าที่เป็นหัวหน้าวง

ฟังเพลง A Little Girl เวอร์ชันโอฮยอกได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=bLoO0FSXncg

reply-1988-20-facts

12. ความเหมือนของ ‘จองฮวัน-ฮันจีพยอง’

ในตอนที่ด็อกซอนอกหักจากซอนอูในวันหิมะแรก หลายคนอาจจะขัดใจว่าทำไมจองฮวันเอาแต่ยืนมองผ่านหน้าต่าง อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ แต่ไม่เทกแอ็กชัน ในขณะที่แท็กซึ่งไปซ้อมพาดุกอยู่ที่ชมรม พอรู้ว่าหิมะตกปุ๊บก็รีบออกโทรหาด๊อกซอนแล้วชวนไปดูหนังทันที

จะเห็นว่าตัวละครทั้งสามนี้มีรูปแบบความสัมพันธ์ที่คล้ายกับซีรีส์ Start-Up เลยทีเดียว ด๊อกซอน แท็ก จองฮวัน Reply 1988 คาแรกเตอร์เทียบเคียงได้กับ ดัลมี โดซาน ฮันจีพยอง Start-Up

จองฮวันกับจีพยอง ช่วงแรกมีแต้มต่อสูงมาก ถ้าทำคะแนนสักหน่อย เปิดเผยใจตั้งแต่แรก อาจจะได้หัวใจไปแล้วก็ได้ แต่กลับเลือกที่จะไม่ทำอะไรและปล่อยมันทิ้งไว้อย่างนั้น ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ด๊อกซอนมาชอบจริงๆ หรือช่วงที่ด๊อกซอนกำลังลังเลหวั่นไหว เรียกว่าน่าเสียดามากๆ ส่วนแท็กก็เหมือนกับนัมโดซาน ลุยดะทุกสถานการณ์ เห็นเงียบๆ แต่แอบทำคะแนนอยู่นะ

“สุดท้ายพรหมลิขิตและเวลา ไม่ได้เกิดขึ้นจากความบังเอิญเท่านั้น ยังมีความพยายาม การตัดสินใจเลือก ซึ่งเป็นตัวสร้างช่วงเวลาปาฏิหาริย์

ดูคลิปประกอบความอิน https://www.youtube.com/watch?v=0obR3QlgEv0&list=PLdyB3s37qpTOt4u5IMVIgydj1CMeghaCN&index=60

reply-1988-20-facts

13. จองฮวัน เป็นตัวละครที่สร้างขึ้นจากเรื่องจริง?

ว่ากันว่าจองฮวันเป็นตัวละครที่สร้างขึ้นจากเหตุการณ์จริงในหน้าข่าวหนังสือพิมพ์ เรื่องราวประมาณว่ามีนักบินหนุ่มนามสกุลคิมประสบอุบัติเหตุเครื่องบินตกเสียชีวิต พี่ชายของเขาเป็นโรคหัวใจ (เช่นเดียวกับพี่จองบง) และพ่อแม่กำลังเตรียมฉลองครบรอบแต่งงาน 30 ปี

แม้ว่าข้อมูลนี้จะเป็นการเชื่อมโยงของชาวเน็ต แต่ก็นับว่าน่าสนใจไม่น้อย ซึ่งจากเหตุผลทั้งหมด เราเดาว่าอาจจะมีการการอ้างอิงพื้นเพบุคคลจริงๆ เพื่อให้เห็นมิติตัวละครที่ดูจริงมากขึ้น แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นเป็นเพียงการคาดเดาของแฟนซีรีส์ เพราะทีมผู้สร้างไม่เคยมีใครกล่าวถึงข้อมูลนี้เลยจนกระทั่งวันนี้

reply-1988-20-facts

14. ซอกตึกมีจริงไหม

อีกหนึ่งฉากที่ทำเอาผู้ชมหยุดหายใจไปพร้อมกับตัวละครด้วยหนีไม่พ้นฉากซอกตึก ซึ่งจะบอกว่าความแนบชิดในฉากนี้ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่ทีมงานมีการเซ็ตฉากอย่างจริงจังเพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อด๊อกซอนและจองฮวันเข้าไปยืนแล้วมันจะแน่นมาก และแนบชิดพอจะหายใจรดกันได้ เรียกว่าเป็นงานคราฟต์ของทีมงานจริงๆ

รำลึกความหลัง #ทีมซอกตึก https://www.youtube.com/watch?v=tiHYyf7wVDo

15. มีเด็กสาวที่ถือป้ายมาดากัสการ์จริงหรือ?

ตั้งแต่เริ่มเรื่อง เราได้เห็นความทุ่มเทของด๊อกซอนในตอนนั้นในการทุ่มเวลาฝึกซ้อมเพื่อถือป้ายประเทศมาดากัสการ์ในพิธีเปิดโอลิมปิก แต่สุดท้ายก็ฝันสลาย เพราะมาดากัสการ์จำเป็นต้องถอนตัวด้วยปัญหาภายในประเทศที่กระทบสถานะทางการเงินจนไม่สามารถสนับสนุนทีมนักกีฬาให้เดินทางมาแข่งขันได้

ซึ่งหลังจากซีรีส์ออกอากาศ ถึงกับมีการไปค้นข่าวในอดีตจนทำให้พบว่าในปีนั้นมาดากัสการ์ถอนตัวจริงๆ และมีเด็กสาวที่ถือป้ายให้ประเทศมาดากัสการ์จริง จนมีการต่อยอดไปสัมภาษณ์ความรู้สึกของบุคคลจริงว่าในตอนนั้นต้องซ้อมยังไง และได้ข้อมูลว่าเมื่อไม่ได้ถือป้ายเธอก็ได้รับการชดเชยให้ไปเชิญเหรียญรางวัลแทน

เรื่องราวน่ารักๆ ที่เกิดขึ้นในหลายปีต่อมาคือในโอลิมปิกฤดูหนาวพยองชาง เมื่อปี 2018 ฮเยริก็ได้ถูกทาบทามให้มาถือป้ายมาดากัสการ์อีกครั้ง แต่น่าเสียดายที่คิวไม่ว่าง ไม่งั้นเราคงได้เห็นภาพการสานฝันของด๊อกซอนในชีวิตจริงกันสักครั้ง

คลิกอ่านข่าว: ฮเยริถูกทาบทามให้ถือป้ายมาดากัสการ์

reply-1988-20-facts

16. จริงหรือไม่ที่กระทั่งนักแสดงก็แทบไม่รู้ตอนจบ

เป็นเพราะซีรีส์ Reply 1988 เขียนบทไปพร้อมกับการถ่ายทำ (ซึ่งจริงๆ เป็นเรื่องปกติของซีรีส์เกาหลี) ทำให้เหล่านักแสดงเองก็เพิ่งมารู้บทสรุปตอนจบไปพร้อมๆ กับคนดูเช่นเดียวกัน ซึ่งส่วนหนึ่งก็ถือเป็นข้อดีที่ช่วยให้นักแสดงมีอารมณ์ร่วมมากขึ้น

17. เสียงแพะประจำซีรีส์ กิมมิกสุดคลาสสิกที่เป็นที่ชื่นชอบของแฟนๆ

เสียงประจำซีรีส์ที่ได้ยินเมื่อไหร่ก็ทำให้คิดถึงเมื่อนั้น แต่ถ้าจะไปตามหาเหตุผลว่าทำไมต้องเป็นเสียงแพะ คงเทียบเคียงได้กับการอินเสิร์ตเสียงหัวเราะหรือเสียงปรบมือลงไปในซีรีส์ซิตคอมที่เราคุ้นเคยกัน ซึ่งสไตล์แบบนี้ถือเป็นที่นิยมในความบันเทิงยุคนั้น ซึ่งเสียงแพะก็น่าจะนำมาใช้ด้วยเหตุผลเดียวกัน เพื่อให้คนดูรู้สึกว่าตรงนี้มันขำนะ จนสุดท้ายเสียงแพะนี้ก็กลายเป็นเสียงนี้คือภาพจำของซีรีส์ Reply มาจนถึงทุกวันนี้

18. หรือว่าปี 1980 อาจจะกลายมาเป็นซีรีส์ Reply ภาคต่อไป?

แวบเดียวเท่านั้นที่ Reply 1988 เผยข้อมูลนี้มาให้เราได้คาดเดากัน นั่นคือซีนเปิดแรกที่ทุกคนมารวมตัวฟังวิทยุด้วยกัน แต่เมื่อมองไปที่หน้าปัดวิทยุ มันมีเลขบางอย่างอยู่ด้วย!

เลข 1980 1988 1994 1997 2015 – แน่นอนว่า 1988 1994 1997 คือปีที่นำมาสร้าง Reply ทั้ง 3 ภาค ส่วน 2015 คือปีที่ Reply 1988 ออกอากาศ แล้ว 1980 ล่ะ จะสื่อถึงอะไร?

จากการสืบค้นของชาวเน็ต มีบทสัมภาษณ์หนึ่งผู้กำกับชินวอนโฮเปิดเผยว่าเขาเคยไปหาข้อมูลเกี่ยวกับนักศึกษาในยุคก่อนปี 1988 แต่สุดท้ายแล้วก็ไม่ได้มีการสร้างซีรีส์ภาคต่ออย่างที่แฟนๆ ต้องการ เราอาจต้องลุ้นกันต่อไป…

คลิกดูคลิปประกอบเบาะแสอ้างอิง https://twitter.com/reply_tvN/status/659176951890907136

19. จริงหรือ…ที่ซีรีส์เฉลยตั้งแต่แรกแล้วว่าใครคือสามีด๊อกซอน

ไม่รู้ว่าหาไม่เจอหรือเธอไม่มี และไม่รู้ว่าต้องดูกี่รอบถึงจะได้เห็นสิ่งที่ผู้กำกับซ่อนเอาไว้อย่างแนบเนียนขนาดนี้ เพราะจริงๆ เหมือนจะมีการเฉลยกลายๆ ตั้งแต่แรกแล้วว่าสามีของด็อกซอนคือแท็ก ด้วยหลายฉากที่คอยบอกใบ้มาเรื่อยๆ ตลอดทั้งเรื่อง เช่น

แท็กเป็นตัวละครที่เหมือนไม่สำคัญในตอนแรก ไม่ค่อยมีซีนเด่นเท่าเพื่อนๆ คนอื่น เพราะต้องใช้เวลาไปกับการซ้อมพาดุก แต่เมื่อถึงเวลามารวมตัวกันทีไรเป็นต้องไปบ้านแท็กทุกที เหมือนเป็นศูนย์รวมจิตใจของกลุ่มเพื่อน เรียกว่าบทของชเวแท็กคือเหมือนไม่มีตัวตน แต่จริงๆ แล้วอยู่ตลอดเวลา แค่ไม่ค่อยพูด

โดยเฉพาะในอีพีที่ฉายภาพย้อนไปวัยเด็ก ที่บอกว่าแท็กย้ายเข้ามาเป็นครอบครัวสุดท้ายในซอย ในฉากที่เด็กๆ กำลังเล่นกัน จะมีซีนหนึ่งที่เราจะเห็นว่าแท็กเข้าเฝือกมือขวา ไปโรงเรียนด้วยความยากลำบาก เพื่อนผู้ชายคนอื่นก็ช่วยถือกระเป๋า ถือนั่นถือนี่ แต่ด็อกซอนโชว์เหนือให้แท็กขี่คอแบบแมนๆ ครัช ซึ่งจุดนี้อาจเกิดเป็นความรู้สึกลึกๆ ในใจแท็กว่าผู้หญิงคนนี้ดูแลเราได้

และตอกย้ำให้เห็นอีกครั้งในช่วงวัยรุ่น มีฉากหนึ่งที่ด็อกซอนใส่เฝือกที่ขาแล้วไปดูพวกผู้ชายเตะบอลกัน พอมีเหตุต้องวิ่งหนี กลายเป็นแท็กที่เป็นคนอุ้มด็อกซอนกลับบ้าน เหมือนกับเป็นการฉายภาพซ้ำแบบกลายๆ

รวมถึงการตัดสลับบทสัมภาษณ์ตอนโตที่บ่งบอกนิสัยบางอย่าง เช่น สูบบุหรี่เก่ง และถนัดซ้าย ซึ่งถ้าสังเกตดีๆ มีหลายฉากเลยที่ทำให้เห็นว่าแท็กถนัดซ้ายอยู่คนเดียวในกลุ่มเพื่อน เช่น ฉากกินน้ำ หรือยกหูโทรศัพท์

20. มูฟออนจาก Reply 1988 ไม่ได้ ทำยังไงดี

มูฟออนจากหนุ่มๆ ซังมุนดงไม่ได้ ไม่ใช่ปัญหา เราขอแนะนำรายการ Youth Over Flowers: Africa ที่กำกับโดยพีดีนายองซอก ดูรายการนี้จะได้เห็นมุมน่ารักๆ ของนักแสดงทั้ง 4 (รยูจุนยอล, พัคโบกอม, โกคยองพโย, อันแจฮง) ที่รับรองว่าดูแล้วจะตกหลุมรักกว่าเดิม เพราะจะได้เห็นทั้งมุมความสนิทสนม ความรัก ความห่วงใย มุมรั่วๆ และมุมซึ้งๆ ที่ขอเตือนว่าคุณอาจต้องหลั่งน้ำตาในบางอีพี

แต่เพราะรายการเก่าแล้ว อาจจะหาดูซับไทยได้ยากหน่อย แต่เชื่อว่าไม่เกินความสามารถของทุกคนแน่ๆ

หากอยากรู้ประวัติศาสตร์ของ Reply 1988 อย่างละเอียดมากขึ้น ขอแนะนำให้ฟังพอดแคสต์ 2 ตอนนี้แบบต่อเนื่อง!

Reply 1988 กับประวัติศาสตร์เกาหลียุค 80 ที่ซ่อนอยู่ในซีรีส์

20 ข้อ ทดสอบแฟนพันธุ์แท้ Reply 1988

ติดตามเนื้อหาสนุกๆ ของ ‘ดูซีรีส์ให้ซีเรียส’ ได้ที่ช่องทางต่างๆ ดังนี้
Facebook: TheSeriousSeries.TH
Twitter: TheSeriousSerie
YouTube: The Serious Series
Website: Theseriousseries.com
สมัครสมาชิกเพื่อรับข่าวสารและสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ Link นี้