ตามรอย Past Lives ในนิวยอร์ก เมืองที่รักฉันเกิด!

Past Lives นอกจากจะงดงามทางความรู้สึกแล้ว ฉากหลังที่เป็นหนึ่งในเรื่องราวนั้นบอกเล่าระยะห่างระหว่างสองตัวละครได้อย่างน่าสนใจ แล้วเอาจริงๆ แม้ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ไม่ได้เน้นเรื่องราวการท่องเที่ยว แต่หลายๆ ฉากที่ได้เห็นก็ทำเอาเรานึกถึงนิวยอร์ก แล้วอยากแชร์ให้ไป ‘ตามรอย Past Lives’ กัน

ส่วนใครดูแล้ว ไปอ่านรีวิวโดย #ดูซีรีส์ให้ซีเรียส กันได้ ที่นี่ https://theseriousseries.com/past-lives-review/

Madison Square Park

ในวันที่เราพบกันครั้งแรก ฉากนี้ในภาพยนตร์ Past Lives ค่อนข้างอึดอัดเอาเรื่องในตอนแรก แต่ก็คลี่คลายในเวลาต่อมา หลังจากที่พวกเขาได้กลับมาพบกันอีกครั้ง 20 กว่าปีให้หลัง 

รายละเอียดที่ชอบสำหรับฉากนี้ก็คือพวกเขาพบกันครั้งท้ายๆ ที่สวนสาธารณะ ซึ่งกลายเป็นหนึ่งในความทรงจำสำคัญ การเลือกนัดพบกันที่สวนสาธารณะอีกครั้งคือการ เก็บรายละเอียดเล็กๆ ได้ดีมาก

ซึ่งการเลือกสถานที่เป็น Madison Square Park สวนที่อยู่ใจกลางนิวยอร์ก ก็ค่อนข้างง่ายสำหรับคนที่เพิ่งมานิวยอร์กครั้งแรกอย่างแฮซอง แถมยังอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวบนถนน 5th Ave. ตรงข้ามกับตึก Flatiron Building เราชอบการเลือกสวนแห่งนี้สำหรับนัดพบ เพราะมันไม่ได้วุ่นวายมากเหมือนอย่าง Union Square Park หรือใหญ่เกินไปจนอาจจะหากันไม่เจออย่าง Central Park ขนาดของ Madison Square Park กำลังดี รายล้อมด้วยร้านอาหารดีๆ เพียบ หรือจะเดินเล่นกันต่อก็ไปได้หลายเส้นทาง 

ใครคิดจะไปเริ่มต้นวันเดินเล่นสนุกๆ การตามรอย Past Lives ด้วยการเริ่มจาก Madison Square Park ก็ไม่เลวทีเดียว ตรงด้านนอกสวนมีที่นั่งสำหรับนักท่องเที่ยวไว้ชมความงามของตึก Flatiron ด้วย 

**กดไปตามรอยกันได้ที่ https://goo.gl/maps/cBqqeWsEZ1Jc8wuW6
**ตรวจเช็กกิจกรรมของสวน Madison Square Park ได้ที่ https://madisonsquarepark.org/

New York City Subway

ฉากในรถไฟใต้ดินนิวยอร์กที่กลายมาเป็นโปสเตอร์ภาพยนตร์ Past Lives และทำให้เรานึกถึง ลุง กับ เหมยลี่ ในหนัง รถไฟฟ้ามาหานะเธอ เช่นเดียวกัน

ความน่าสนใจของฉากนี้คือทั้งสองตัวละครยืนอยู่ในรถไฟขบวนเดียวกัน จับเสาต้นเดียวกัน เพียงแค่มือของทั้งสองคนไม่ได้จับกัน เป็นวิธีการเล่าถึง ‘อินยอน’ คอนเซปต์พรหมลิขิตที่เกิดขึ้นระหว่างพวกเขา

จำไม่ได้ว่าในภาพยนตร์เป็นสถานีไหนในนิวยอร์ก (ใครรู้บอกด้วย) แต่สำหรับสายรถไฟที่อยากแนะนำให้ไปลองขึ้นก็คือ G Line ที่วิ่งจากควีน ผ่านแมนฮัตตัน ไปบรูกลิน ช่วงที่ข้ามมาบรูกลินคือลอยฟ้ามองเห็นวิวอย่างสวยงาม คุ้มค่าราคา 2.30 เหรียญสหรัฐอย่างยิ่ง

รถไฟใต้ดินในนิวยอร์กเปิดทำการมาเป็นร้อยปี ไม่เคยมีวันหยุด ซึ่งอย่างที่รู้กันว่าหลายๆ สถานีค่อนข้างทรุดโทรมและเปลี่ยวเอาเรื่อง แต่ถึงอย่างนั้นรถไฟใต้ดินนิวยอร์กเป็นสถานที่ที่มีอะไรน่าสนใจอยู่เสมอ ตั้งแต่กระเบื้องที่ใช้ตกแต่งซึ่งแตกต่างกันไปในแต่ละสถานี เก้าอี้นั่งรอที่บางสถานียังเป็นไม้แบบเก่าอยู่เลย รวมถึงแฟลชม็อบวงดนตรีที่แอบมาจัดโชว์อยู่บ่อยๆ 

**ใครเป็นแฟนซับเวย์นิวยอร์ก อย่าลืมไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ New York Transit Museum ดูรายละเอียดได้ที่ https://nytransitmuseum.org/ 
**รายละเอียดการเดินรถไฟสาย G Line คลิก! https://new-york.metro-map.net/nyc-subway-map-g-train-stops/ 

Main Street Park

สวนสาธารณะอีกแห่งที่อยากชวนไปเดินเล่นกันมากๆ ก็คือ Main Street Park ที่อยู่ใกล้ๆ สะพานบรูกลิน มองเห็นวิวตึกสวยๆ ของแมนฮัตตัน ฤดูร้อนอย่างในภาพยนตร์ก็คืออากาศเหมาะกับการใส่ขาสั้นไปชมวิว เดินเล่น ร่วมกิจกรรมที่มีเป็นประจำในสวนได้เลย

จริงๆ สวนสาธารณะแห่งนี้บางคนก็ใช้เป็นจุดพักหลังจากที่เดินเที่ยวบนสะพานบรูกลินมาเหนื่อยๆ ซึ่งที่อยู่ในบริเวณเดียวกันกับสวนก็มีฉากสำคัญคือ Jane’s Carousel ฉากม้าหมุนที่ทั้งคู่ไปนั่งพักด้านหน้า แล้วคุยสารทุกข์สุกดิบในแบบที่ยังรักษาระยะห่าง

จริงๆ สวนสาธารณะที่นิวยอร์กมีหลายที่มาก แต่ละที่ก็มีจุดเด่นและกิจกรรมที่ต่างกันไป สำหรับสวน Main Street ถ้าไปนิวยอร์กแล้วไม่ควรพลาด เอาจริงๆ เหมาะกับไปเที่ยวบรูกลินต่อได้ด้วย สามารถเดินจากที่นี่ไปย่านฮิปอย่าง Clinton Hill, Park Slope หรือเลยไปเดินชม Brooklyn Museum กับสวน Brooklyn Botanic Garden ก็ยังได้

**Main Street, Brooklyn Bridge Park ตามไปอ่านเพื่อศึกษารายละเอียดกันได้ที่ https://www.brooklynbridgepark.org/places-to-see/main-street/

Liberty Statue Tour

ภาพยนตร์ Past Lives พาเราไปทัวร์เทพีเสรีภาพด้วย ซึ่งเป็นอะไรที่นักท่องเที่ยวมากๆ ขนาดว่าคนนิวยอร์กยังเองไม่เคยไปเห็นใกล้ๆ ก็เพียบ บริษัททัวร์เทพีเสรีภาพมีให้เลือกหลายบริษัท สามารถเลือกที่ถูกใจ ถูกราคา หรือซื้อบัตรสำหรับนักท่องเที่ยวที่ราคาถูกกว่าหน้างานได้ด้วยเช่นกัน 

สำหรับทริปแบบใน Past Lives เป็นการนั่งเรือไปยัง Liberty Island ที่มีเทพีเสรีภาพตั้งอยู่ ความหวือหวาคือได้ล่องเรือรอบๆ เทพีเสรีภาพทุกมุม แล้วยังได้เห็นแบบชัดๆ ใกล้ๆ อีกด้วย สนนราคาโดยทั่วไปอยู่ที่ 19-39 เหรียญสหรัฐ ไม่รวมราคาตั๋วขึ้นไปบนเทพีเสรีภาพ ซึ่งทางเรามองว่าไม่จำเป็นเท่าไหร่นัก หรือถ้าเลือกทัวร์หรูหราไปเลยก็จะรวมมื้ออาหารเข้าไปด้วย ถ้าเลือกช่วงเย็นหน่อยจะแสงสวยดี แต่สนนราคาบางเจ้าขึ้นไปถึง 100 เหรียญสหรัฐได้เลย

ส่วนใครที่งบจำกัดก็สามารถนั่งเฟอรี่ไปกลับรูท Stanten Island ก็ได้ จะเห็นเทพีเสรีภาพไกลหน่อย แต่เราว่าโอเค วิธีการคือไปที่สถานี South Ferry แล้วขึ้นเฟอรี่ Staten Island เปิดให้บริการตลอดวันตลอดคืน 

**ลองศึกษาเพิ่มเติม https://www.cityexperiences.com/new-york/city-cruises/statue/

Holiday Cocktail Lounge 

นอร่า นางเอกของเราบอกเอาไว้ในภาพยนตร์ว่า เธอกับแฟนเคยอยู่ย่าน East Village ก่อนจะย้ายมาอยู่ที่บ้านปัจจุบัน แต่ก็ไม่ได้บอกชัดเจนว่าอยู่ตรงไหนของแมนฮัตตัน สำหรับฉากบาร์ตอนตีสี่ที่ปรากฏต้นเรื่องและท้ายเรื่อง ก็อาจจะเป็นตัวบอกโลเคชันคร่าวๆ ว่าพวกเขาย้ายมาอยู่ย่านนี้ ซึ่งยังคงเป็นย่าน East Village แถวๆ ถนน 75 ตัดกับ St. Marks ซึ่งอยู่ในบริเวณเดียวกับบาร์ที่พวกเขาไปนั่งคุยข้ามคืนที่ชื่อ Holiday Cocktail Lounge

เซลีน ซอง นักเขียนและผู้กำกับ Past Lives ให้สัมภาษณ์ว่าที่นี่คือสถานที่ถ่ายทำ ซึ่งในตัวหนังเราจะเห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่ผู้คนในนิวยอร์กจะใช้เวลาข้ามคืนในบาร์สักแห่ง กับบทสนทนาที่เต็มไปด้วยความสุขุมลุ่มลึก หรือก้าวข้ามคืนๆ หนึ่งพร้อมเสียงหัวเราะและหยดน้ำตาไปด้วยกัน ฉากนี้ค่อนข้างสำคัญในเรื่อง และเต็มไปด้วยคำถามที่คนดูอยากรู้ในประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาทั้งสามคน

สำหรับร้าน Holiday Cocktail Lounge เปิดมาตั้งแต่ปี 1950 อยู่ในตัวอาคารเก่าแก่ตั้งแต่ปี 1835 เสิร์ฟทั้งอาหารและค็อกเทลหน้าตาดีมากมาย ถ้าแวะไปนิวยอร์กแล้วอยากได้ความรู้สึกแบบ Past Lives เชิญไปที่หน้าบาร์ แล้วสั่งเครื่องดื่มมาจิบได้ตามอัธยาศัย

**ตรวจเมนูก่อนตามร้อยร้าน Holiday Cocktail Lounge ได้ที่ https://www.holidaycocktaillounge.bar/