Hometown Cha-Cha-Cha รู้จักตัวตน ‘หัวหน้าฮง’ และความหมายของชีวิตผ่านหนังสือปรัชญาธรรมชาติ Walden
ในช่วงท้ายของ Hometown Cha-Cha-Cha EP.2 ถ้าใครสังเกตดีๆ จะเห็นว่าซีรีส์ตั้งใจเน้นให้เราเห็นหนังสือ Walden ที่ ‘หัวหน้าฮง’ เลือกหยิบมาอ่านอยู่หลายครั้ง ซึ่งทำให้ ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ต้องไปตามต่อว่าหนังสือเล่มนี้บอกเล่าเรื่องอะไร และมันมีความเกี่ยวข้องหรือบ่งบอกตัวตนภายในของหัวหน้าฮงแห่งหมู่บ้านกงจินด้วยหรือเปล่า บทความนี้จะพาไปหาคำตอบ!
ว่ากันว่าคนเราสามารถทำความรู้จักกันได้ง่ายๆ ผ่านบ้านที่จัด และหนังสือที่อ่าน ดังเช่นวลีที่บอกว่า You Are What You Read ซึ่งในทันทีที่เราเห็นหัวหน้าฮงเลือกหยิบหนังสือ Walden เล่มนี้ขึ้นมาอ่าน ก็รู้ได้ทันทีว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่หนุ่มต่างจังหวัดธรรมดาๆ อย่างที่เห็นแน่นอน
Walden หรือชื่อภาษาไทย วอลเดน: คืนชีวิตสู่ห้วงสงบภายใน ตีพิมพ์ครั้งแรกเมื่อปี 1854 เป็นหนังสือที่ตั้งคำถามกับคนอ่านว่า ‘เราเกิดมาทำไม เราอยู่ไปเพื่ออะไร และเราใช้ชีวิตคุ้มค่าแล้วหรือยัง’ โดยเล่าผ่านเรื่องราวชีวิตของผู้เขียนเอง นั่นก็คือ เฮนรี่ เดวิด ธอโร นักเขียนและนักวิทยาศาสตร์ธรรมชาติชาวอเมริกัน
นอกจากนี้ Walden ยังเป็นหนังสือที่มีอิทธิพลต่อความคิดของบุคคลในประวัติศาสตร์หลายๆ คน เช่น มหาตมะ คานธี, มาร์ติน ลูเทอร์คิง, เออร์เนสต์ เฮมิงเวย์, จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ฯลฯ และยังได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในหนังสือ 100 เล่มของโลกที่ควรอ่านในลำดับที่ 64 อีกด้วย
*ตามไปฟังข้อมูลเพิ่มเติมแบบจัดเต็มของหนังสือ Walden โดย Readery Podcast ได้ที่ Link นี้
**หรือจะสั่งซื้อฉบับภาษาไทย ‘Walden คืนชีวิตสู่ห้วงสงบภายใน’ ผ่านเว็บไซต์ Readery.co ก็ได้ ถ้าอยากอ่านเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษ สามารถสั่งผ่าน Book Depository ส่งฟรีถึงบ้าน อยากแนะนำมากๆ
‘ความสำเร็จ’ อาจไม่ใช่คำตอบสุดท้ายของชีวิต
“ชีวิตของคนเรามันไม่เท่าเทียมกันขนาดนั้นหรอกนะ บางคนก็มีชีวิตเหมือนถนนลูกรังที่ขรุขระ และมีคนที่วิ่งแทบเป็นแทบตาย แต่ท้ายที่สุดก็เจอกับหน้าผาสูงชัน” นี่เป็นประโยคทัชใจที่หัวหน้าฮงพูดกับฮเยจินหลังจากที่เธอก่อเรื่องในงานเลี้ยงผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นการสะท้อนให้เห็นความแตกต่างของต้นทุนในชีวิต ที่เราไม่สามารถเอาตัวเองเป็นเกณฑ์ในการมองว่าใครพยายามมากพอหรือยังได้
สำหรับคนในเมืองอย่างฮเยจิน เธอเคยชินกับสังคมแบบตัวใครตัวมัน ไม่เชื่อใจใครง่ายๆ ไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องพึ่งพาใคร ยังคงเสพติดของแบรนด์แนม ใช้แชมพูจากต่างประเทศ และมองความสำเร็จในหน้าที่การงานเป็นจุดหมายที่ต้องไปให้ถึง ซึ่งในขณะที่ซีรีส์ดำเนินเรื่องไป 2 อีพี เรารู้สึกว่า Hometown-Cha-Cha-Cha กำลังทำให้ฮเยจินค่อยๆ เข้าใจความหมายของชีวิต และเราคนดูก็ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ เธอเช่นกัน
ส่วนฮงดูชิก หรือหัวหน้าฮง หนึ่งในประชากรชายหนุ่มอันน้อยนิดที่เลือกมาอยู่ในชนบท เขาหาเลี้ยงชีพด้วยงานรับจ้างทั่วไป และรับเงินด้วยค่าแรงขั้นต่ำรายชั่วโมง ในขณะที่กระแสสังคมปัจจุบันมองว่าคนที่ประสบความสำเร็จควรจะต้องมีหน้าที่การงานดีๆ อยู่ในเมืองใหญ่ อย่างเช่นคุณยายกัมรีที่มักจะพูดอวดเพื่อนๆ นักหนาว่าลูกชายเป็นนักบัญชีอยู่ที่โซล
แต่ถ้าลองมองลึกลงไปในรายละเอียดจริงๆ จะเห็นว่าต่อให้เป็นคนต่างจังหวัด แต่การที่คนคนหนึ่งจะเรียนรู้งานหลากหลายประเภทและยังทำได้ดีด้วยนั้นก็คงไม่ใช่ทุกคนที่จะทำได้
Walden ตั้งคำถามกับคนอ่านว่า…
‘เราเกิดมาทำไม เราอยู่ไปเพื่ออะไร และเราใช้ชีวิตคุ้มค่าแล้วหรือยัง’
และที่โชว์ให้เห็นชัดๆ เลยคือฉากในบ้านของหัวหน้าฮงที่เผยให้เห็นตู้หนังสือที่อัดแน่น แสดงให้เห็นว่าตัวละครนี้ใฝ่รู้ในเรื่องราวต่างๆ อยู่เสมอ จึงไม่ต้องสงสัยเลยว่าสารพัดใบอนุญาตทำงานที่หัวหน้าฮงได้มาครอบครองนั้นจะต้องผ่านการศึกษา เรียนรู้ และฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เพราะแม้แต่ฮเยจินเองก็ยังยังต้องชมฝีมือการตกแต่งคลินิกว่างานดีและเรียบร้อยมาก
ดังนั้นฉากที่หัวหน้าฮงนั่งอ่านหนังสือ Walden อยู่บนโขดหินริมทะเล ก็อาจเป็นการบ่งบอกความรู้สึกของตัวละคร เขาอาจอ่านหนังสือเล่มนี้มาแล้วหลายครั้ง หรือเพิ่งเริ่มต้นอ่านเราก็ไม่อาจรู้ แต่สิ่งที่แน่ชัดคือแนวความคิดที่เขามีอยู่คือการมีชีวิตเพื่อสร้างความสุขและความสบายใจให้กับคนอื่นๆ คอยเป็นผู้ช่วยเหลือให้กับผู้สูงอายุ เป็นน้องชายให้กับพี่ชายเจ้าของคาเฟ่ที่อกหักจากความฝันในแวดวงดนตรี เป็นประชากรของหมู่บ้านที่คอยทำหน้าที่ประสานงานและช่วยงานเล็กๆ น้อยๆ ด้วยความยินดี ทั้งยังเป็นคนที่คอยช่วยเหลือฮเยจินที่ตั้งใจจะมาลงหลักปักฐานที่เมืองเล็กๆ แห่งนี้
มีข้อความในหนังสือ Walden หลายช่วงที่น่าจะเป็นการบ่งบอกถึงเรื่องราวผู้คนในซีรีส์ Hometown Cha-Cha-Cha และตัวตนข้างในของหัวหน้าฮง อย่างเช่น
“..ธรรมชาตินั้นปรับเข้ากับความอ่อนแอของเราได้ดีพอๆ กับความเข้มแข็ง ความวิตกกังวลและเครียดไม่หยุดหย่อนของบางคนนั้นเป็นรูปแบบหนึ่งของโรคภัยไข้เจ็บที่ไม่อาจรักษาได้”
“..คนส่วนใหญ่ได้ถูกครอบงำไว้ด้วยความเป็นห่วงบ่วงใยอันจอมปลอม และงานหนักตรากตรำเกินจำเป็นแห่งชีวิต ซึ่งดอกผลอันหอมหวานนั้น พวกเขามิอาจเก็บเกี่ยวได้ นิ้วที่เผชิญความยากเข็ญเกินการนั้นงุ่มง่ามและสั่นเทิ้มเกินกว่าจะทำเช่นนั้นได้ ปกติแล้วคนที่หมกมุ่นทำงานนั้นมิได้มีเวลาว่างเพื่อความมั่นคงเป็นหนึ่งเดียวที่แท้จริง และเขาไม่มีเวลาที่จะเป็นอะไรได้นอกจากเครื่องจักร”
“..มนุษย์ทำงานภายใต้ความผิดพลาดประการหนึ่ง ส่วนที่ดีกว่าของมนุษย์จะทับถมลงกลายเป็นปุ๋ยในเนื้อดินในไม่ช้า โดยสิ่งที่ดูเหมือนว่าเป็นชะตากรรมซึ่งเรียกกันว่าความจำเป็น พวกเขาต่างพากันสะสมทรัพย์สมบัติที่รังแต่จะผุพังไป หรือไม่ก็ถูกปล้นชิงลักขโมย มันเป็นวิถีชีวิตที่เขลา พวกเขาจะได้สำนึกเมื่อไปถึงที่สุด”
หลายเนื้อความในหนังสือเล่มนี้ ถ้าเรามีเวลาพอจะหยุดพักจากชีวิตเร่งรีบ ค่อยๆ อ่าน ค่อยๆ ทำความเข้าใจ ไม่แน่ว่าเราอาจค้นพบความจริงที่กำลังตามหามาตลอดว่า… ‘เราเกิดมาทำไม เราอยู่ไปเพื่ออะไร และเราใช้ชีวิตคุ้มค่าแล้วหรือยัง’
อยากทิ้งท้ายด้วยท่อนจำจากหนังสือ Walden ที่แทนใจหัวหน้าฮงไว้ว่า “ข้าพเจ้าไปสู่ป่าก็เพราะปรารถนาจะใช้ชีวิตอย่างลุ่มลึก เพื่อเผชิญกับปัจจัยพื้นฐานที่สุดของชีวิตเท่านั้น เพื่อลองดูว่าข้าพเจ้าจะเรียนรู้ในสิ่งซึ่งสมควรจะได้รู้หรือไม่ และเพื่อว่าเมื่อถึงวันที่จะต้องตาย ข้าพเจ้าจะได้ไม่ต้องพบว่าตนยังไม่ได้มีชีวิตอยู่อย่างแท้จริงเลย ข้าพเจ้าไม่ปรารถนาที่จะใช้ชีวิตอย่างที่มิใช่ชีวิต ด้วยว่าการมีชีวิตอยู่นี้เป็นสิ่งมีค่ายิ่ง” – Walden โดย เฮนรี่ เดวิด ธอโร