best-of-2022-kdrama

Best of 2022 ซีรีส์เกาหลีที่สุดแห่งปี คัดสรรโดย ดูซีรีส์ให้ซีเรียส

ที่สุดแห่งปี Best of 2022 ดูซีรีส์ให้ซีเรียส กลับมาอีกครั้งในปีที่การแข่งขันดุเดือด ทั้งแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งในประเทศและต่างประเทศที่แย่งชิงสิทธิ์ในการฉาย ซีรีส์เกาหลี จนทำให้แฟนซีรีส์อย่างเราๆ ขอบตาคล้ำกันถ้วนหน้า

และเพื่อให้เข้ากับสโลแกนของดูซีรีส์ให้ซีเรียส ที่ว่า “ดูซีรีส์ให้ขอบตาคล้ำอย่างมีคุณภาพ” ทีมแอดมินจึงได้จัดโหวตและสรุปออกมาเป็น ซีรีส์เกาหลีที่สุดแห่งปี 2022 สำหรับใครที่ช่วงปลายปีนี้อยากจัดซีรีส์ดูยาวๆ บอกเลยว่าเลือกตามลิสต์นี้ไม่น่าผิดหวัง 

best-of-2022-kdrama

Reborn Rich

ยุนฮยอนอู ผู้ชายคนหนึ่งที่มีชีวิตรันทด ทั้งยังต้องทนทำงานตัวเป็นเกลียวเพื่อรับผิดชอบครอบครัว การเข้าไปทำงานเป็นคนใกล้ชิดครอบครัวจินแห่งกลุ่มบริษัทซุนยัง แม้จะเป็นทางเลือกที่กล้ำกลืนฝืนทน เขาก็ต้องยอมทำ จนวันหนึ่งที่ถูกป้ายสีความผิด และถูกยิงเสียชีวิต วิญญาณของเขากลับไปเกิดใหม่เป็นนายน้อยจินโดจุน หลานชายคนเล็กของประธานจิน และวางแผนล้างแค้นนับสิบๆ ปีเพื่อครอบครองซุนยังให้ได้ในท้ายที่สุด

เหตุผลที่เรายกให้

– แค่ดูการแสดงของ อีซองมิน ในบท ประธานจินยังซอล ก็คุ้มค่าแล้ว เพราะนี่คือที่สุดของความสามารถที่ไม่ใช่ว่าใครจะมารับบทนี้ได้ และหลังจากนี้ให้จับตามองงานประกาศรางวัลโทรทัศน์ในปีหน้า ที่คุณปู่ต้องมีลุ้นรางวัลใหญ่!

– ได้ความรู้ประวัติศาสตร์เกาหลีสมัยใหม่แบบสับ แบบสุด ไล่ตั้งแต่ช่วงหลังเหตุการณ์ 1988 Uprising การประท้วงใหญ่ของประชาชน จนนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ การสร้างชาติ การสร้างเศรษฐกิจในยุค 80-90 และการเติบโตอย่างก้าวกระโดดของเกาหลียุค 2000 

– การันตีด้วยเรตติ้งสูงสุดตลอดกาลอันดับ 2 ของซีรีส์ช่องเคเบิล เป็นรองเพียง The World of the Married เท่านั้น

– ซงจุงกิ ที่อยู่ในวัย 30 ปลายๆ แต่ยังรับบทนักศึกษามหาวิทยาลัยได้แบบที่เนียนมาก 

– อ่านบทวิเคราะห์ซีรีส์ Reborn Rich โดย ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ทั้งหมดได้ ที่นี่

best-of-2022-kdrama

Alchemy of Souls 1-2

เรื่องราวของอาณาจักรแดโฮ ดินแดนสมมติที่ก่อกำเนิดมานับพันปี โดยมี 4 ตระกูลเทพที่คอยทำหน้าที่คานงัดและปกป้องคุ้มครองเมืองแดโฮมายาวนาน จนวันหนึ่งมีการลักลอบนำหินน้ำแข็งมาใช้ในการแปรวิญญาณ ย้ายวิญญาณคนเป็นไปสู่ร่างที่อ่อนเยาว์กว่า จนทำให้เกิดปัญหามากมายตามมา ผู้ครอบครองหินน้ำแข็งนั้น หากเป็นคนชั่วร้ายก็ย่อมใช้ประโยชน์จากหินน้ำแข็งในทางที่ไม่ถูกต้อง และนี่คือต้นทางของเหตุการณ์การต่อสู้แย่งชิงความรักและอำนาจในการครอบครองหินน้ำแข็งนี่เอง

เหตุผลที่เรายกให้

– ถ้าคุณเป็นแฟนสายนิยายกำลังภายในจีน เสพติดความพีเรียดแฟนตาซีเกาหลี ชอบความตลก มุกขำๆ ที่แทรกในซีรีส์ ขณะเดียวกันตอนดราม่าก็หนักหนาเหลือบรรยาย แนะนำเลย มันดี!

– ดูซีรีส์ Alchemy of Souls แล้วมันจะต้องโดนตกสักตัวละครหนึ่ง ไม่ว่าจะฝั่งหญิงหรือชาย หลายคนตกหลุมรัก ซอยุล ส่วนแอดมินคืออุกจ๋ายืนหนึ่ง ข้างๆ องค์รัชทายาท

– พล็อตเรื่องแฟนตาซีที่ผูกโยงเรื่องราวได้เก่งกาจมาก ไม่เสียแรงงานที่เป็นเขียนบทของสองพี่น้องตระกูลฮง

– ซีรีส์มีทั้งหมด 2 ภาค รวม 30 เอพิโสด ขอบตาคล้ำอย่างมีคุณภาพต้องเข้าแน่ๆ 

– อ่านบทวิเคราะห์ซีรีส์ Alchemy of Souls โดย ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ทั้งหมดได้ ที่นี่

best-of-2022-kdrama

Thirty-Nine

หญิงสาวสามคนที่โชคชะตาพัดพาให้มาพบและเป็นเพื่อนสนิทกันตั้งแต่ช่วงมัธยมปลาย พวกเธอแตกต่างทั้งฐานะ อาชีพ การศึกษา แต่กลับเป็นเพื่อนที่สนิทใจกัน เรียกกันว่าเป็นครอบครัวได้อย่างไม่ขัดเขิน 

ในช่วงวัยปลาย 30 ของพวกเธอได้พบกับจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญของชีวิต ที่เป็นปกติธรรมดาว่าคนทั่วไปก็อาจผ่านประสบการณ์แบบเดียวกันได้ แต่สิ่งที่มากกว่านั้นคือ Thirty-Nine ทำให้เราต้องย้อนกลับมามองชีวิตตัวเองว่า ถ้าหากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในชีวิต เราจะเลือกเส้นทางเดินแบบไหนที่จะสง่างาม และไม่ลดทอนคุณค่าของตัวเรา

เหตุผลที่เรายกให้

– Thirty-Nine สะท้อนชีวิตผู้หญิงทำงานในเกาหลีได้อย่างน่าอัศจรรย์ใจ ความเป็นผู้หญิงยุคใหม่ที่ใช่ว่าจะทำงานบ้าน แต่งงาน ดูแลครอบครัว ขณะเดียวกันก็ท้าทายระบบความสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นได้จริงในสังคมอนุรักษนิยมของเกาหลี

– การแสดงของทีมนักแสดง 3 สาวที่ต้องบอกว่าเก่งมากๆ มากจนเหมือนไม่ได้ดูพวกเธอแสดง แต่มองดูชีวิตของทั้งสามคนในแบบที่ร่วมลุ้นตามไปด้วย

– Thirty-Nine เป็นซีรีส์ที่มอบบทเรียนชีวิตให้ทั้งคนในวัย 20 30 40 หรือวัยใดๆ ก็ตาม แต่แน่นอนว่าวัย 30+ คงอินมากๆ และร้องไห้ตามกันได้ไม่อั้น

– อ่านบทวิเคราะห์ซีรีส์ Thirty-Nine โดย ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ทั้งหมดได้ ที่นี่

Pachinko 

จะบอกว่าเป็นซีรีส์เกาหลีเสียทีเดียวก็คงไม่ถูกต้องทั้งหมด แต่ Pachinko เป็นซีรีส์เกาหลีที่จัดทำออกมาผ่านสายตาของตะวันตก โดยเฉพาะการเป็นออริจินัลคอนเทนต์ของ Apple TV สร้างโดยสตูดิโอและทีมสร้างฮอลลีวูด ส่วนต้นเรื่องเป็นงานเขียนบทของนักเขียนอเมริกัน-เกาหลี เพราะฉะนั้นกลิ่นของ Pachinko จึงมีความเป็นสากลค่อนข้างมาก รวมไปถึงการตัดต่อ ดนตรีที่ใช้ องค์ประกอบ ฉากต่างๆ จึงให้ความรู้สึกที่หวือหวา คนละรสชาติกับซีรีส์เกาหลีที่ออกอากาศในประเทศ

เหตุผลที่เรายกให้

– ดูซีรีส์ Pachinko จบแล้วแทบจะยกรางวัลให้ อีมินโฮ โดยเฉพาะช่วงท้ายๆ ของซีรีส์ที่สะท้อนให้เห็นแง่มุมการแสดงของเขาที่เราว้าวมากๆ

– นักแสดงฝีมือดีๆ อย่าง ยุนยอจอง หรือคุณย่าจากภาพยนตร์ Minari แสดงออกมาได้ใสสะอาดและเป็นธรรมชาติมากๆ  

– คิมมินฮา นักแสดงหน้าใหม่ แต่รับบทนำใน Pachinko ได้อย่างไม่น่าเชื่อว่าเป็นผลงานแรกๆ ดวงตา ท่าทาง คือพลังที่ส่งออกมาจากข้างใน

– รีบดู ก่อนที่ภาคสองจะออกอากาศอีกไม่นานนี้

Narco-Saints

เป็นซีรีส์แฟนบอยที่จริงๆ ไม่ค่อยถูกทาง ดูซีรีส์ให้ซีเรียส เท่าไหร่ แต่พอได้ดูแล้วคือหยุดไม่ได้ เพราะความที่เรื่องราวเข้มข้นมาก ดำเนินเรื่องเร็ว และเต็มไปด้วยนักแสดงระดับเทพๆ อ้างอิงจากเหตุการณ์ในหน้าข่าวจริงอีก จะเป็นซีรีส์พ่อค้ายาเสพติด ยิงกันระเบิดแค่ไหนก็ไม่ติด 

เรื่องราวของราชายาเสพติดเกาหลีที่ไปทำธุรกิจอย่างยิ่งใหญ่และเต็มไปด้วยอำนาจในประเทศซูรินัม กับ คังอินกู นักธุรกิจชาวเกาหลีที่ทุ่มทุกอย่างที่มีเพื่อไปกอบโกยเงินทองจากธุรกิจส่งออกปลากระเบน แต่แล้วกลายเป็นว่าเขาก็ต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับวงการยาเสพติดอย่างเลี่ยงไม่ได้ 

เหตุผลที่เรายกให้

– Narco-Saints สร้างจากเค้าโครงเรื่องจริงของ โชบงแฮง พ่อค้ายาเสพติดชาวเกาหลีรายใหญ่ในประเทศซูรินัม และยังเป็นหนึ่งในเครือข่ายแก๊งยาเสพติด Sinaloa Cartel 

– มีแค่ 6 อีพี จบไวได้ในวันเดียว

– ผลงานของผู้กำกับ ยุนจงบิน จาก The Spy Gone North และ Nameless Gangster: Rules of the Time 

– ทีมนักแสดงก็คือยกมือไหว้แล้ว นำแสดงโดย ฮาจองอู, ฮวังจองมิน, พัคแฮซู, โจอูจิน และยูยอนซอก

– อ่านบทวิเคราะห์ซีรีส์ Narco-Saints โดย ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ทั้งหมดได้ ที่นี่

best-of-2022-kdrama

Twenty-Five, Twenty-One

เรื่องราวของกลุ่มคนที่ยุคสมัยและวิกฤตเศรษฐกิจโขมยความฝันและอนาคตไป ถ่ายทอดเรื่องราวผ่านตัวละครของ นาฮีโด เด็กสาวที่กำลังตามความฝันของการเป็นนักฟันดาบ แต่ชมรมของเธอถูกปิดลงเพราะวิกฤต IMF ขณะเดียวกัน เธอได้พบกับ แพคอีจิน ชายหนุ่มที่สูญเสียทุกอย่างไปเพราะเหตุเดียวกัน พวกเขาจึงเป็นกำลังใจให้กันในวันที่ต้องต่อสู้เพื่อตามความฝันและอนาคตที่ยุคสมัยพรากไปคืนมา 

ในซีรีส์ Twenty-Five, Twenty-One ไม่ได้มีเพียงแค่ตัวเอกของเรื่องที่พยายามทำตามความฝัน แต่ยังมีตัวละครอีกหลายตัวที่พยายามเพื่อความฝันของตัวเองเช่นกัน เช่น โกยูริม ฝันจะทำให้ชีวิตครอบครัวดีขึ้น, จีซึงวาน ที่อยากเป็นนักจัดรายการวิทยุ และ มุนจีอุง ที่ทำเว็บไซต์แฟชั่นให้มีชื่อเสียง ซึ่งถึงแม้จะมีฝันแตกต่างกัน แต่ทุกตัวละครก็ทำให้เราเห็นถึงความเพียรพยายาม ไม่ย่อท้อ จนเปลี่ยนจากความฝันไปสู่ความสำเร็จ

เหตุผลที่ยกให้

– เหมาะสำหรับคนที่กำลังมองหาแรงบันดาลใจที่จะทำตามความฝัน ไล่ตามในสิ่งที่รักอย่างไม่ยอมถดถอย

– คิมแทรี นักแสดงนำที่ต้องรับบทเป็นเด็กอายุ 18 ปี ทั้งที่อายุจริงของเธอคือ 32 ปี!

– ซีรีส์พาคนดูย้อนวัยไปกลับไปในยุค 90 สไตล์ Nostalgia ไม่ว่าจะเป็นการใช้เพจเจอร์ ดนตรี การ์ตูน เขียนไดอะรี่

– ทำความรู้จักกับวิกฤตเศรษฐกิจ IMF ที่พรากความฝันของหนุ่มสาวในปี 1998 ซึ่งตรงกับวิกฤตต้มยำกุ้งในประเทศไทย

– เล่าเรื่องการแข่งขันและมิตรภาพของนักกีฬาฟันดาบได้อย่างลึกซึ้ง ซึ่งแม้กีฬาฟันดาบไม่ใช่สิ่งที่ได้รับความนิยมในเกาหลีมากนัก แต่ในปี 2000 นักกีฬา คิมยองโฮ ก็คว้าเหรียญทองโอลิมแรกให้กับเกาหลีในโอลิมปิก ครั้งที่ 27 ที่ซิดนีย์ มาได้ ซึ่งใกล้เคียงกับบทนาฮีโดในซีรีส์

– อ่านบทวิเคราะห์ซีรีส์ Twenty-Five, Twenty-One โดย ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ทั้งหมดได้ ที่นี่

best-of-2022-kdrama

Little Women

เรื่องราวของสามพี่น้อง โออินจู,โออินกยอง และโออินฮเย ที่ผูกพันรักใคร่กันมาก แม้จะเติบโตขึ้นมาท่ามกลางความยากจน เหล่าพี่น้องทั้งสามได้เข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์หนึ่งที่นำไปสู่การต่อสู้และต้องเผชิญหน้ากับครอบครัวที่ร่ำรวยและทรงอิทธิพลที่สุดในเกาหลีใต้ และการเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ในครั้งนี้อาจจะเปลี่ยนชีวิตพวกเธอไปตลอดกาล 

Little Women เป็นการเปลี่ยนแปลงต้นฉบับจากวรรณกรรมระดับโลก ‘สี่ดรุณี’ มาสู่ ‘สามดรุณี’ ที่ถูกตีความใหม่ในบริบทสังคมเกาหลีที่สะท้อนความเป็นไปในสังคมปัจจุบัน

เหตุผลที่ยกให้

– การแสดงของ คิมโกอึน ในเรื่องนี้ที่ทำให้ชื่อของเธอติดอันดับ 1 ของคำค้นหาที่มีคนพูดถึงมากที่สุดในช่วงที่ซีรีส์ออกอากาศ

– ทีมนักแสดงที่ทำให้เรื่องราวน่าติดตามขึ้นไปอีก นำโดย นัมจีฮยอน, พัคจีฮู, วีฮาจุน, คังฮุน, ออมกีจุน และออมจีวอน 

– เนื้อเรื่องที่หักมุม ปริศนาในความหมายของกล้วยไม้แห่งความตาย สมาคมจองรัน ที่สร้างความปวดหัวให้กับคนดู

– งานภาพ พร๊อพ แสง สี ที่สวยไปหมดทุกฉาก 

– ผลงานของผู้กำกับ คิมฮีวอน จากซีรีส์ Vincenzo และ The Crowned Clown รวมถึงการเขียนบทโดย จองซอคยอง จากภาพยนตร์ Decision to Leave

– อ่านบทวิเคราะห์ซีรีส์ Little Women โดย ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ทั้งหมดได้ ที่นี่

best-of-2022-kdrama

My Liberation Notes

สามพี่น้องที่เกิดและเติบโตในซันโพ เมืองเล็กๆ ที่ห่างจากกรุงโซลราว 1.30 ชั่วโมง แต่ละวันพวกเขาต้องเผชิญกับความเหนื่อยหน่ายจากการเดินทางไกล อาชีพการงานที่น่าเบื่อจนทำให้อยากหลีกหนีชีวิตที่เป็นอยู่ แต่ชีวิตเริ่มแตกต่างออกไป เมื่อมีชายลึกลับคนหนึ่งย้ายมาทำงานในเมืองนี้ คุณกู เป็นเหมือนกล่องปริศนาที่ทำให้ครอบครัวจองได้เปลี่ยนผ่านไปสู่ชีวิตที่แตกต่าง 

My Liberation Notes เป็นซีรีส์ที่เนิบนาบ แต่เต็มไปด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่สะท้อนชีวิตชนชั้นกลางในเมืองหลวง การถูกแบ่งแยกโดยพื้นที่ระหว่างโซลและเมืองซันโพที่ห่างไกล

เหตุผลที่ยกให้

– ผลงานของนักเขียนบท พัคแฮยอง ที่เคยเขียนบทซีรีส์คุณภาพอย่าง My Mister

– ยิ่งดูจะยิ่งหลงรักคุณกู ที่รับบทโดย ซนซอกกู

– นางเอก ยอมมีจอง กับพี่น้องของเธอ ทำให้เราอยากติดตามชีวิตพวกเขาไปจนจบ

– ความรักของนางเอกในมุมมองที่ลึกซึ้งยิ่งกว่าคำว่า ‘รัก’ ผ่านคำว่า ‘เชิดชู’

– บทพูดในเรื่องที่เหมือนกับการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม

– เป็นซีรีส์ที่เมื่อดูแล้วทำให้หลายคนนึกย้อนถึงชีวิตตัวเองขึ้นมา ที่เชื่อได้ว่าต้องมีสักหนึ่งอย่างที่ตรงกับชีวิตของคุณ

– อ่านบทวิเคราะห์ซีรีส์ My Libertation Notes โดย ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ทั้งหมดได้ ที่นี่

If You Wish Upon Me

เรื่องราวของ ยุนกยอเร ชายหนุ่มที่ประสบปัญหามาตั้งแต่เล็ก ชีวิตวัยเด็กของเขาอาศัยอยู่ในสถานรับเลี้ยงเด็กกำพร้า และเติบโตมาในศูนย์กักกันเยาวชน เรื่องราวชีวิตพลิกผันทำให้เขาได้เข้ามาเป็นอาสาสมัครช่วยเหลือสังคมในฐานะเจ้าหน้าที่ประจำสถานพยาบาลผู้ป่วยระยะสุดท้าย และเข้าร่วม ‘ทีมจีนี่’ โดยหน้าที่หลักคือการทำความปรารถนาสุดท้ายก่อนตายของผู้ป่วยให้เป็นจริง

เหตุผลที่ยกให้

– บทที่เล่าถึงคุณค่าของการมีชีวิตอยู่ และการทำสิ่งสุดท้ายก่อนตาย

– เป็นซีรีส์ที่ควรค่าแก่การเสียน้ำตาในทุกๆ ตอน

– จีชางอุค ที่กลับมาในลุคแบดบอย

– นักแสดง ซองดงอิล แค่เห็นชื่อก็รู้สึกถึงความอบอุ่นของซีรีส์

– ได้รับแรงบันดาลใจมาจากองค์กรที่มีอยู่จริง อ่านต่อได้ที่ https://theseriousseries.com/if-you-wish-upon-me/ 

best-of-2022-kdrama

Blind

เรื่องราวของ รยูซองจุน ตำรวจสายสืบ, รยูซองฮุน ผู้พิพากษา และโจอึนกี นักสังคมสงเคราะห์ หนึ่งในคณะลูกขุน โดยทั้ง 3 คนได้เข้ามาเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมต่อเนื่องที่มีนักศึกษาสาวตกเป็นเหยื่ออย่างไม่เป็นธรรม ในการไต่สวนในคดีได้แต่งตั้งคณะลูกขุน 9 คนเพื่อร่วมพิจารณคดี แต่แล้วเหตุการณ์กลับพลิกผัน เมื่อผู้ตกเป็นเหยื่อคดีฆาตกรรมต่อเนื่องกลับกลายเป็นเหล่าคณะลูกขุน ทำให้พวกเขาต้องตามสืบหาฆาตกรตัวจริงและความจริงที่ถูกปิดตาไว้

เหตุผลที่ยกให้

– Blind เป็นซีรีส์ที่มีปมซับซ้อน และต้องลุ้นไปกับการตามหาฆาตกรตัวจริง

– ความขาว ดำ เทา ของตัวละคร ทั้งคนกระทำและคนที่ถูกกระทำ

– ชินยงฮวี ผู้กำกับที่เคยฝากผลงานไว้ในซีรีส์สืบสวนเรื่องดังอย่าง Tunnel และ Voice 4 

– การแสดงของ อ๊กแทคยอน ที่เคยรับบทร้ายในซีรีส์ Vincenzo จนหลายคนเซอร์ไพรส์ ครั้งนี้กลับมาในบทบาทของตำรวจสายสืบ กับงานสายตาที่ทำเอาคนดูลุ้นว่าครั้งนี้จะกลับมารับบทร้ายหรือดีกันแน่

Forecasting Love and Weather

ชีวิตการทำงานและความรักของผู้คนที่ทำงานในกรมอุตุนิยมวิทยาเกาหลีใต้ ซึ่งอย่างที่ทราบกันดีว่า กรมอุตุนั้นมีหน้าที่คอยพยากรณ์อากาศว่าวันนี้สภาพอากาศเป็นอย่างไร แต่ซีรีส์ Forecasting Love and Weather จะพาไปดูเบื้องหลังว่ากว่าจะพยากรณ์อากาศออกมาได้ในแต่ละครั้งนั้นต้องผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลและปัจจัยต่างๆ เพื่อการพยากรณ์ออกมาให้แม่นยำมากที่สุด เรียกว่าเนิร์ดงานอุตุนิยมวิทยาเอามากๆ ซีรีส์เรื่องนี้ นอกจากนั้นก็เป็นเรื่องความรักของหนุ่มสาวในสำนักงานที่ต้องฝ่าฟันสิ่งต่างๆ มากมาย ซึ่งเต็มไปด้วยปมปัญหาที่เราต้องลุ้นตามไปด้วยตลอดเรื่อง

เหตุผลที่ยกให้

– ผลงานก่อนหน้าโดยส่วนใหญ่ของ พัคมินยอง จะเป็นตัวละครที่สดใส เช่น When the Weather Is Fine, Her Private Life, What’s Wrong with Secretary Kim แต่มาในเรื่องนี้เธอรับบทเป็น จินฮากยอง หัวหน้ากองพยากรณ์อากาศที่เฉลียวฉลาดและเจ้าระเบียบ ต้องทำทุกอย่างตามคู่มือ ซึ่งถือได้ว่าเป็นบทบาทใหม่ที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยมากนัก

– ซงคัง นักแสดงดาวรุ่งที่น่าจับตามองแห่งปี รับบทเป็น อีชีอู พนักงานใหม่ของกองพยากรณ์อากาศ เขาเป็นคนที่รักอิสระและมักจะมีความคิดที่นอกกรอบ โดยเขามีไอคิวสูงถึง 150 

Through The Darkness

เรื่องราวของโปรไฟเลอร์คนแรกของเกาหลีใต้ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 ถึงช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ที่ในยุคสมัยนั้นอาชีพนี้ยังไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับมากนัก โดยเขาพยายามมองเข้าไปยังจิตใจของเหล่าอาชญากรเพื่อไขคดีที่ใครก็ไม่สามารถไขออกได้ 

ซีรีส์มีเค้าโครงมาจากเรื่องจริง โดยถูกดัดแปลงมาจากงานเขียน Those Who Read The Minds Of Evil ของ ควอนอิลยง โปรไฟเลอร์คนแรกของเกาหลีใต้ และ โกนามู นักข่าวที่ผันตัวมาเป็นนักเขียนอัตชีวประวัติ 

เหตุผลที่ยกให้

– ผลงานคัมแบ็กซีรีส์ในรอบ 3 ปีของ คิมนัมกิล กับบท ซงฮายอง โปรไฟเลอร์คนแรกของเกาหลีใต้ คนที่เย็นชา ไร้อารมณ์ แต่สามารถอ่านจิตใจผู้คนได้อย่างลึกซึ้ง 

– คิมนัมกิลให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ‘ผมกังวลมากว่าจะเกิดอะไรขึ้น หากบทบาทที่ผมแสดงทำร้ายผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของเหตุการณ์นี้ ผมทำงานในขณะที่คิดว่าจะต้องเปิดเผยความเจ็บปวดอีกครั้งหรือไม่ ผมพยายามทำตัวเป็นโปรไฟเลอร์ตัวจริง เพื่อทำความเข้าใจว่าทำไมผมถึงต้องอ่านใจคนชั่วร้าย และทำไมมันถึงจำเป็น”

– ตัวซีรีส์ได้นำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงมาเล่า ก็คือคดีฆาตกรต่อเนื่อง ‘ยูยองชอล’ ซึ่งถือได้ว่าเป็นฝันร้ายของคนเกาหลีใต้ โดยยูยองชอลก่อคดีฆาตกรรมมากถึง 20 ศพในช่วงระหว่าง 2003-2004 

– สิ่งที่ยูยองชอลทำได้สร้างฝันร้ายแก่คนเกาหลีใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหล่าครอบครัวของเหล่าผู้เสียชีวิตที่ต้องเจอฝันร้ายนี้ไปตลอดชีวิต อีกทั้งคดีฆาตกรรมต่อเนื่องของยูยองชอลนี้เองก็ถูกนำไปสร้างเป็นสารคดี The Raincoat Killer: Chasing a Predator in Korea (2021) สามารถรับชมได้ทาง Netflix

– นอกจากคดียูยองชอลที่มีเค้าโครงจากเรื่องจริงแล้วยังมีการกล่าวถึงคดีอื่นๆด้วย นั่นก็คือคดีฆาตกรรมต่อเนื่องฮวาซอง 

ข้อมูลเพิ่มเติม

คดีฆาตกรรมต่อเนื่องฮวาซอง ที่เป็นคดีที่โด่งดังอย่างมากในประเทศเกาหลีใต้ อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ซีรีส์และภาพยนตร์เรื่องอื่นๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Signal, Tunnel, Partner For Justice และภาพยนตร์ Memories of Murder 

เหตุการณ์เริ่มต้นจากมีหญิงสาวถูกข่มขืนและฆาตกรรมนับ 10 รายในช่วงปี 1986-1988 ในเมืองฮวาซอง จังหวัดคยองกี จึงขนานนามฆาตกรรายนี้ว่า ‘ฆาตกรแห่งฮวาซอง’ จนในปี 1988 ตำรวจจับผู้ต้องสงสัยได้คนหนึ่ง แต่เบื้องหลังการจับกุมในครั้งนี้ เขาถูกซ้อมและถูกบังคับให้การเท็จจากตำรวจที่จับกุมเขา และเหล่าผู้ใช้กฎหมายในเวลานั้นเมินเฉยกับคำพูดผู้ต้องสงสัย จนทำให้เขาต้องกลายเป็นแพะรับบาปในคดีนี้และถูกจำคุก 20 ปี 

จนกระทั่งในปี 2019 ได้มีการ DNA ไปตรวจใหม่ และพบว่าคนร้ายตัวจริงคือ อีชุนแจ ฆาตกรที่ฆ่าคนตายในปี 1994 และถูกจำคุกตลอดชีวิต ถึงแม้คดีจะหมดอายุความไปแล้ว และเนื่องจากคนร้ายถูกจำคุกตลอดชีวิต ทำให้คดีฆาตกรรมต่อเนื่องฮวาซองเป็นคดีที่ปิดไม่ลงมานานกว่า 30 ปี 

ถึงแม้ว่าในที่สุดคดีจะปิดลงไปได้ก็ตาม แต่สิ่งที่ผู้ใช้กฎหมายในสมัยนั้นทำกับผู้บริสุทธิ์คนหนึ่งจนทำให้เขาต้องหมดอนาคต จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่ได้รับคำ ‘ขอโทษ’ จากผู้ใช้กฎหมายในสมัยนั้น อีกทั้งยังสร้างความเคลือบแคลงใจแก่ประชาชนเกาหลีใต้ว่าระบบความยุติธรรมมีอยู่จริงหรือไม่

Military Prosecutor Doberman 

อัยการทหารหนุ่มสาวร่วมมือกันเพื่อเอาชนะความชั่วร้ายภายในกองทัพ โดยที่คนหนึ่งเป็นอัยการหนุ่มที่ทำได้ทุกอย่างเพื่อเงินทองและชื่อเสียง ส่วนอีกคนเป็นอัยการสาวที่ทำทุกอย่างเพื่อการแก้แค้นคนที่ทำลายชีวิตเธอ

Military Prosecutor Doberman ตีแผ่เบื้องหลังวงการทหาร ไม่ว่าจะเป็นการทุจริตคอร์รัปชัน การใช้เส้นสายในการหนีทหารของลูกคนรวย การใช้อภิสิทธิ์ของทหารเกณฑ์ ชนชั้นที่แตกต่างของลูกหลานคนมีเงินและคนธรรมดา การใช้อำนาจของข้าราชการในการเอาเปรียบประชาชน หรือแม้กระทั่งการร่วมมือกันระหว่างนายทุนกับข้าราชการ ถือได้ว่าเป็นอีกมุมมองหนึ่งเกี่ยวกับวงการทหารที่กล้ามากในการแฉเรื่องราวที่เกิดขึ้นในซีรีส์ และเราอาจไม่ได้เห็นกันบ่อยนัก

เหตุผลที่ยกให้

– การถูกกดขี่ของทหารเกณฑ์ที่อาจนำไปสู่โศกนาฏกรรม Military Prosecutor Doberman หยิบประเด็นเหล่าทหารเกณฑ์ที่ถูกกดขี่มาเล่าว่าพวกเขาต้องพบเจอกับอะไรบ้าง ซึ่งมีทหารเกณฑ์หลายคนเลือกที่จะอดทนกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และบางคนไม่สามารถหาทางออกให้กับตัวเองได้ จนสุดท้ายนำไปสู่การใช้ความรุนแรงในการแก้ปัญหา 

– อันโบฮยอน กับการเติบโตอย่างสง่างาม จากจุดเริ่มต้นจากการเป็นนักมวย ผันตัวมาเป็นนายแบบ จากนั้นก็เริ่มเข้าวงการนักแสดง โดยบท โดแบมัน อัยการทหาร เป็นอีกครั้งที่เขาแสดงให้เห็นฝีมือที่สุดจริงๆ

– เป็นการคัมแบ็กที่แปลกใหม่สำหรับนักแสดงสาว โจโบอา เพราะเธอมาในลุคสาวผมสั้น โดยผลงานก่อนหน้านี้อย่าง Tale of the Nine-Tailed, Forest, My Strange Hero ส่วนใหญ่มักจะเป็นสาวผมยาว แต่มาในเรื่องนี้เพื่อให้เข้ากับบทเธอเลยต้องไว้ผมสั้น โดยเธอรับบทเป็น ชาอูอิน อัยการทหารที่มั่นใจและไม่เกรงกลัวต่อผู้มีอิทธิพล

 

Green Mothers’ Club

เรื่องราวเกี่ยวกับมิตรภาพ ความเป็นแม่ และการเติบโตไปพร้อมกันของเหล่าคุณแม่ที่พบกันในชุมชนเลี้ยงเด็กประถมแห่งนี้ ซึ่งแต่ละคนมีความซับซ้อนและความแตกต่างกันออกไป โดยที่พวกเขาเองเป้าหมายบางอย่างที่ยังไม่สามารถเอาชนะได้ด้วยตัวเอง  

หากคุณอยู่ในสังคมที่เต็มไปด้วยการแข่งขัน ไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันด้านการเรียน หน้าตา หรือฐานะทางสังคม คุณจะต้องมีอะไรบางอย่างที่เป็นจุดแข็งไว้แข่งขันกับคนในสังคมนั้นได้ แต่ถ้าคุณอยู่ในสังคมของผู้ปกครอง อะไรที่จะเป็นสิ่งที่ผู้ปกครองนำมาใช้เกณฑ์ในการแข่งขันกันเอง คำตอบก็คือ ‘ความสำเร็จของลูก’ 

ซีรีส์เรื่องนี้มีการนำบริบทของ Manager Mom มานำเสนอว่าพวกเธอต้องประสบเจอกับอะไรบ้าง และทำให้เห็นว่าการเลี้ยงดูลูกหนึ่งคนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเลย และกว่าจะเลี้ยงให้คนหนึ่งคนมีคุณภาพได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่ใครๆ คิด

เหตุผลที่ยกให้

– Manager Mom เพราะลูกคือความสำเร็จ ความสำเร็จที่คนเกาหลีใต้นิยามไว้คือสอบได้อันดับต้นๆ เข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำ มีหน้าที่การงานที่มั่นคง แต่งงานมีครอบครัวที่มีสถานะทางสังคมสูงส่ง ซึ่งกว่าที่จะไปถึงจุดนั้นได้ หากไม่ทำด้วยตัวเองก็ต้องให้แม่ช่วยจัดการ เพราะบทบาทของแม่ในเกาหลีใต้หรือประเทศในแถบโซนเอเชียนั้นจะมีหน้าที่ดูแลงานบ้านและเลี้ยงดูลูกเป็นหลัก จึงเกิดคำว่า Manager Mom ขึ้นมานั่นเอง

– การศึกษาที่กำลังสร้างคนให้เป็น Perfectionist แบบไม่รู้ตัว นอกจากตัวซีรีส์ที่พาไปสำรวจชีวิตคุณแม่ในเกาหลีใต้แล้ว ยังพาไปสำรวจระบบการศึกษาในประเทศผ่านมุมมองเหล่าเด็กประถม โดยเฉพาะระบบการเชิดชูที่หนึ่ง และต้องสอบได้ 100 คะแนนเต็ม หากได้ 99 คะแนนก็ถือว่าเป็นคนล้มเหลว 

– การปลูกฝังแนวคิดที่ต้องเป็นที่หนึ่งเสมอมาตั้งแต่เด็ก ในบางรายอาจเกิดอาการ Perfectionist หรือโรคสมบูรณ์แบบ คือพฤติกรรมนิยมความสมบูรณ์แบบ ทำอะไรต้องอยู่แต่ในกรอบ และถูกต้องเป๊ะตามที่กำหนด หากเกิดความผิดพลาดก็จะมีอารมณ์รุนแรง และบางคนอาจแสดงออกด้วยการทำลายข้าวของ 

– Green Mother’s Club ส่วนใหญ่จะโฟกัสไปที่ตัวละครคุณแม่เป็นหลัก ซึ่งแน่นอนว่าคนที่มารับเป็นคุณแม่ในเรื่องนี้ ในชีวิตจริงพวกเขาเองก็เป็นคุณแม่ด้วยเช่นเดียวกัน ทำให้ในบางบริบท พวกเธอเองก็เข้าใจในสิ่งตัวละครเผชิญอยู่

– อีโยวอน รับบทเป็น อีอึนพโย คุณแม่ที่จบการศึกษาด้านสุนทรียศาสตร์จากฝรั่งเศส เธอมีสไตล์การเลี้ยงลูกที่ยืดหยุ่นมาก ด้วยความคิดนี้ทำให้ขัดกับค่านิยมของชุมชนใหม่ที่เธอย้ายเข้าไปอยู่ ในชีวิตจริงเธอเป็นคุณแม่ลูกสอง โดยผลงานก่อนหน้านี้ The Running Mates: Human Rights, Different Dreams 

– ชูจาฮยอน รับบทเป็น บยอนชุนฮี คุณแม่ที่ขึ้นเรื่องความสวย ในชีวิตจริงเธอเป็นคุณแม่ลูกหนึ่ง โดยผลงานก่อนหน้านี้คือ My Unfamiliar Family, Little Women

 

Tomorrow

เรื่องราวของชายหนุ่มที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อจะได้งานทำ แต่เขาประสบอุบัติเหตุจนทำให้อยู่ในอาการโคม่า ระหว่างนั้นวิญญาณของเขาได้รับข้อเสนอจากบริษัทยมทูตในฐานะสมาชิกใหม่ของทีมจัดการวิกฤต ซึ่งทีมนี้จะมีหน้าที่คอยช่วยเหลือผู้คนที่คิดคนที่อยากตาย โดยผู้คนที่อยู่ในทีมจัดการวิกฤตส่วนใหญ่ ตอนมีชีวิตอยู่พวกเขาล้วนทำความผิดอย่างมาก ซึ่งในแต่ละตอนก็จะมีบุคคลที่ต้องการอยากตายด้วยเหตุผลแตกต่างกันออกไป และทีมจัดการวิกฤตต้องเข้าไปช่วยเหลือ 

เหตุผลที่ยกให้

– Tomorrow งานดัดแปลงจาก Webtoon ชื่อดังของเกาหลีใต้ ซึ่งปัจจุบันการ์ตูนเรื่องนี้ก็ยังไม่จบ 

– คิมฮีซอน ตัวแม่ที่เอาอยู่ทุกบทบาท รับบท กูรยอน หัวหน้าทีมจัดการวิกฤต เธอเป็นคนที่ภายนอกดูเหมือนเย็นชาและเมินเฉย แต่ภายในเต็มเปี่ยมไปด้วยจิตใจที่ต้องการช่วยเหลือผู้อื่น 

– โรอุน สมาชิกบอยแบนด์ที่พัฒนาตัวเองสู่เส้นทางนักแสดง รับบทเป็น ชเวจุนอุง ชายที่ตกอยู่ในอาการโคม่า แต่ได้รับคำเชิญให้ร่วมภารกิจกับทีมจัดการวิกฤต เขาเป็นคนที่มองโลกในแง่บวกอย่างมาก

– ‘ในทุกๆ สงคราม เราล้วนหลงลืมใครบางคน’ อีพีหนึ่งใน Tomorrow ได้นำผู้รอดชีวิตจากสงครามโลกครั้งที่ 2 มาเป็นแรงบันดาลใจ เล่าถึงคุณยายคนหนึ่งที่ทุกข์ทรมานจากการที่ส่งเพื่อนเธอไปเป็นนางบำเรอให้กับกองทัพญี่ปุ่น หลังสงคราม ความทุกข์ทนทางจิตใจส่งผลจนถึงขั้นที่ต้องการจบชีวิตตัวเอง อีพีนี้ทำให้เห็นอีกมุมมองของผู้รอดชีวิตจากสงครามว่าต้องทรมานขนาดไหนจากช่วงชีวิตที่ผ่านมา โดยมีการพูดถึงเกี่ยวกับการประท้วงของนางบำเรอที่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ว่า ‘ญี่ปุ่นต้องชดเชยค่าเสียหายให้แก่เหล่านางบำเรอที่มีชีวิตอยู่หรือไม่”

best-of-2022-kdrama

Anna

เรื่องราวของ อียูมี เด็กผู้หญิงธรรมดาๆ คนหนึ่ง เธอมีหน้าตาสะสวย แต่เพราะฐานะทางบ้านยากจน ทำให้ไม่สามารถเอื้อมถึงโอกาสหลายๆ อย่างที่เธออยากได้ จุดเริ่มต้นของทั้งหมดเริ่มมาจากคำโกหกเล็กๆ น้อยๆ ที่อยากให้คนหันมาสนใจ แต่นานวันเข้าก็เหมือนขึ้นหลังเสือ เพราะเธอจะต้องโกหกต่อไปเรื่อยๆ อย่างไม่รู้จบ จนกระทั่งมาสู่การเปลี่ยนตัวตนของตัวเองจาก อียูมี มาเป็น อีอันนา หญิงสาวโปรไฟล์ดีที่ไม่มีประวัติด่างพร้อย

ด้วยความทะเยอทะยานที่อยากจะก้าวข้ามชนชั้นเพื่อไปยืนอยู่บนจุดสูงสุดให้ได้ คำโกหกของเธอยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ จนถึงขั้นยืมตัวตนคนอื่นมาสวมทับตัวเอง และได้มาแต่งงานกับนักการเมืองที่มีอิทธิพลในกรุงโซล แต่ระหว่างทางนั้นกลับมีคนคนหนึ่งที่ล่วงรู้ความลับ และพยายามจะแฉความจริงให้โลกรู้

เหตุผลที่ยกให้

– ถ้าชอบการแสดงของ แบซูจี อยู่แล้วจากซีรีส์เรื่องก่อนๆ เช่น Start-Up, Vagabond, Where You Were Sleeping ก็ไม่ควรพลาดชม Anna เพราะจะได้เห็นความสามารถทางการแสดงในแบบที่คาดไม่ถึง

– เชื่อว่า Anna เป็นบทบาทที่ท้าทายที่สุดในชีวิตของ แบซูจี ก็ว่าได้ เพราะเรื่องนี้เธอคือเดอะแบกที่รับบทหนักตลอดทั้งเรื่อง แม้ซีรีส์จะไม่ได้มีบทพูดมากมาย แต่ซูจีสามารถสื่อสารผ่านสายตาและท่าทางได้ดีมาก

– การดำเนินเรื่องแสดงให้เห็นความเหลื่อมล้ำที่ยังคงมีอยู่ในสังคมเกาหลี ถึงแม้คนจนจะมีความสามารถเพียงใด แต่ยังไงคนรวยก็ย่อมมีโอกาสมากกว่าอยู่ดี 

– รับชมพร้อมซับไทยแบบถูกลิขสิทธิ์ได้ผ่าน Prime Video โดยจะมีให้เลือก 2 เวอร์ชันคือ 6 ตอน และ 8 ตอน (เราแนะนำเวอร์ชัน Director’s Cut 8 ตอน เพราะจะมีการลงดีเทลตัวละครมากกว่า)

best-of-2022-kdrama

Extraordinary Attorney Woo

“ชื่อของฉัน ไม่ว่าจะอ่านตรงๆ หรืออ่านกลับด้านก็ยังเป็นอูยองอู” ประโยคคุ้นชินที่ใครได้ดูก็ต้องจำได้ Extraordinary Attorney Woo เป็นซีรีส์แนวกฎหมายที่เล่าผ่านตัวละครหลักอย่าง อูยองอู ทนายสาวที่คนเก่งที่เป็นกลุ่มแอสเพอร์เกอร์ (Asperger’s Syndrome) แม้จะขาดทักษะการเข้าสังคมไปบ้าง แต่เรื่องความจำและความเฉลียวฉลาดนั้นไม่เป็นสองรองใคร

Extraordinary Attorney Woo จะพาคนดูไปขึ้นศาลไขคดีที่คนธรรมดาสามารถพบเจอได้ในชีวิต เช่น ข้อมูลส่วนตัวในอินเทอร์เน็ต ถูกขโมยลอตเตอรี่ หรือการถูกเวนคืนที่ดิน เป็นต้น ซึ่งทุกคดีจะเดินเรื่องจบในตัวภายใน 1-2 อีพีในบรรยากาศที่ไม่เครียดเกินไป เพราะเมื่อเป็นทนายอูยองอูแล้ว กระบวนการลำดับความคิดของเธออาจไม่เหมือนใคร จนบางคดีที่ดูน่าจะเครียดก็กลายเป็นน่าเอ็นดูขึ้นมา เรียกว่าเป็นซีรีส์สืบสวนสอบสวนที่ดูกันได้แบบมีรอยยิ้มและยังสนุกด้วย

เหตุผลที่ยกให้

– พัคอึนบิน เป็นที่ยอมรับในสายการแสดงอยู่แล้ว และยังได้ชื่อว่าเป็นคนที่รับบทบาทหลากหลายมาโดยตลอด เช่น The King’s Affection, Do You Like Brahms?, Hot Stove League

– และโดยเฉพาะกับบท อูยองอู ในซีรีส์ Extraordinary Attorney Woo ยิ่งทำให้พัคอึนบินโชว์ศักยภาพไปอีกขั้น เพราะต้องแสดงออกถึงความซับซ้อนของตัวละครที่ไม่ใช่แค่เรื่องอาชีพการเป็นทนายที่ต้องฝ่ากำแพงอคติของสังคมไปให้ได้ แต่ยังมีเรื่องของปมครอบครัวที่ลึกซึ้งเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย

– การก้าวขึ้นมารับบทนำเป็นครั้งแรกของ คังแทโอ ซึ่งสมการรอคอย เพราะเขาสามารถโชว์มุมที่อ่อนโยนของตัวละครได้ดีมากๆ จนทำให้ได้รับฉายา ‘พ่อไมโครเวฟ’ เพราะคาแรกเตอร์แสนอบอุ่นที่เขาทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ผ่านหน้าจอ

– อ่านบทวิเคราะห์ซีรีส์ Extraordinary Attorney Woo โดย ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ทั้งหมดได้ ที่นี่

One Dollar Lawyer

One Dollar Lawyer ซีรีส์กฎหมายแนวคอเมดี้ที่เล่าเรื่องราวของ ทนายอาสา ผู้ที่ช่วยเหลือคนที่เดือดร้อนโดยรับเงินแค่หนึ่งดอลลาร์ หรือประมาณ 30 บาทเท่านั้น

ชอนจีฮุน ทนายผู้มีจิตใจตั้งมั่นที่จะพิทักษ์ความยุติธรรม ทั้งความใจกล้าและนอกรีตที่ไม่เคยเกรงกลัวใคร เขาจึงได้ฉายาว่าเป็นหนึ่งในทนายมากฝีมือที่ ต่อสู้กับเหล่าสำนักงานกฎหมายแสนแพงและลูกค้าแหกกฎ ด้วยเงินเพียงหนึ่งดอลลาร์เท่านั้น

เหตุผลที่ยกให้

– ถ้าเป็นแฟนซีรีส์ของ นัมกุงมิน อยู่แล้ว คงไม่ต้องพูดอะไรกันเยอะ เพราะฝีมือการแสดงผ่านอยู่แล้ว แต่เหตุผลที่ One Dollar Lawyer น่าสนใจก็คือแฟนๆ ไม่ได้เห็นนัมกุงมินแบบขายขำ ขี้เล่น เป็นกันเอง แบบนี้มานานแล้ว

– ถ้าได้ดูทีเซอร์อย่าเพิ่งคิดว่าเป็นซีรีส์ทนายความขายขำทั่วไป (แม้มันจะขำจริงๆ ก็ตาม) เพราะยังมีพาร์ทดราม่าสุดๆ ที่เชื่อว่าใครได้ดูจะต้องประทับใจในการปูเรื่องราว จนกลายมาเป็นร่างสุดท้ายของทนายชอนจีฮุนในลุคอย่างที่เราเห็นกัน

best-of-2022-kdrama

Under The Queen’s Umbrella

Under The Queen’s Umbrella เป็นซีรีส์พีเรียดผสมความดาร์กคอเมดี้ที่กระแสแรงตั้งแต่เริ่มออนแอร์ตอนแรก ว่าด้วยเรื่องของ พระราชินีอิมฮวายอง ที่คอยปกป้องและผลักดันองค์ชายทั้งห้าให้ประสบความสำเร็จในฐานะคนเป็นแม่ และการอยู่เคียงข้างกษัตริย์ในฐานะภรรยาที่แข็งแกร่ง ท่ามกลางฉากหลังการแย่งชิงอำนาจกันในพระราชวังของเหล่าราชินีและพระสนมทั้งหลายในการส่งลูกชายของตัวเองให้ขึ้นไปอยู่จุดสูงสุด 

เหตุผลที่ยกให้

– บทราชินีที่เป็นทุกอย่างของซีรีส์ Under The Queen’s Umbrella ได้ราชินีแห่งวงการบันเทิงอย่าง คิมฮเยซู ที่ฝีมือการแสดงเด็ดขาดมากในหลายๆ เรื่อง (Signal, Juvenile Justice) ทำให้ไม่ว่าจะเป็นซีนตลก ดราม่า หรือฟาดฟัน ก็เอาอยู่ทุกสถานการณ์

– และไม่ใช่แค่ความบู๊ที่ต้องเค้นสมองทุกส่วนเพื่อเอาชนะเกมแห่งอำนาจเท่านั้น เพราะซีรีส์ก็แอบหยอดความชุบชูใจคนดูด้วยตัวละครองค์ชาย 12 ชีวิตที่มีบุคลิกและลักษณะนิสัยแตกต่างกันไป (ผู้ชมอาจจะแอบเลือกเมนของตัวเองกันได้ตามชอบ)

best-of-2022-kdrama

Our Blues

Our Blues เล่าเรื่องราวอันแสนอบอุ่นประทับใจของตัวละครทั้ง 14 คนที่อาศัยอยู่บนเกาะเชจู ที่เผอิญได้พานพบและข้องเกี่ยวกันในทางใดทางหนึ่ง บ้างก็ในฐานะเพื่อน เพื่อนบ้าน หรือญาติมิตร โดยมีทั้ง 14 ตัวละครอยู่ในจักรวาลเดียวกัน ดังนั้นในแต่ละตอนเราจะได้เห็นบางเสี้ยวบางมุมของชีวิตตัวละครที่เคยเป็นเส้นเรื่องหลักของตอนที่ผ่านมา ทำให้มีระยะห่างระหว่างผู้ชมกับตัวละคร และทำให้เราได้คอยสังเกตการณ์พวกเขาในแบบของเราเอง

เหตุผลที่ยกให้

– ซีรีส์รวมดาวสายนักแสดงที่ดูแล้วรับรองว่าคุ้มค่าและประทับใจ นำโดย คิมฮเยจา, อีบยองฮอน, ชินมินอา, คิมอูบิน, ฮันจีมิน และอีกมากมาย

– ตัวละครทั้ง 14 ที่แม้จะดูเยอะ แต่อย่าเพิ่งกลัวไปก่อน เพราะทุกคนล้วนมีเรื่องราวหม่นๆ ของตัวเอง และทำให้รู้ว่าไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน จะเด็กหรือแก่ ยากดีมีจนอย่างไร ทุกคนต่างก็มีปัญหาที่ต้องข้ามผ่านไปให้ได้ด้วยตัวเองกันทั้งนั้น 

– อ่านบทวิเคราะห์ซีรีส์ Our Blues โดย ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ทั้งหมดได้ ที่นี่

ติดตามเนื้อหาสนุกๆ ของ ‘ดูซีรีส์ให้ซีเรียส’ ได้ที่ช่องทางต่างๆ ดังนี้
Facebook: TheSeriousSeries.TH
Twitter: TheSeriousSerie
YouTube: The Serious Series
Website: Theseriousseries.com
สมัครสมาชิกเพื่อรับข่าวสารและสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ Link นี้