ป้ายยา The Acolyte กับเจไดมาสเตอร์ ‘อีจองแจ’ ในจักรวาล Star Wars
เปิดฉากมาก็บู๊เลย กับซีรีส์ Star Wars: The Acolyte ที่ทาง ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ได้ไปร่วมรับชมสองตอนแรกในโรงภาพยนตร์เมื่อคืนก่อนเรียกว่าเปิดซีรีส์แบบไม่ต้องเป็นแฟน Star Wars มาก่อนก็ดูเข้าใจได้เลย เพราะตัวละครในเอพิโสดแรกเรียกว่าใหม่หมด วิธีตัดก็กระชับ ทั้งยังเล่าเรื่องราวได้เข้าใจง่าย ขณะเดียวกันก็เย้ายวนให้รอดูตอนต่อไปอีกด้วย โดยซีรีส์มีทั้งหมด 8 ตอน เริ่มสตรีมแล้วทาง Disney+ Hotstar
ความดีความชอบหลักๆ ยกให้นักแสดงสาว Amandla Stenberg ที่รับบทเป็น โอชา / เมย์ ฝาแฝดฝ่ายธรรมและด้านมืด ที่สีหน้าแววตา แตกต่างไปเลย
ส่วนนักแสดงอีกคนสำคัญที่มาสร้างมิติใหม่ให้Star Warsก็คือ อีจองแจ นักแสดงชาวเกาหลีที่เดบิวต์งานแสดงภาษาอังกฤษเรื่องแรกก็รับบทเด่นเป็นอาจารย์เจไดโซล ท่านอาจารย์ของโอชา ที่การแสดงของเขาเหลือจะเชื่อ โดยเฉพาะภาษาอังกฤษที่พลิ้วมาก ทำให้เราได้เห็นว่าเขาทุ่มเทขนาดไหนในการเป็นตัวละครตัวนี้
Star Wars: The Acolyte เรื่องมีอยู่ว่า...
ปูพื้นกันเล็กน้อยสำหรับแฟนๆ อีจองแจ รวมถึงแฟนๆ ซีรีส์เกาหลีที่อยากข้ามฟากมาฮอลลีวูดเพื่อดูเรื่องนี้
The Acolyte ตามไทม์ไลน์ Star Wars เป็นช่วงเวลาหลังจากยุคเฟื่องฟูของ The High Republic หรือราวหนึ่งศตวรรษก่อนที่จะเกิดเรื่องราวใน Phantom Menace ไตรภาคของ จอร์จ ลูคัส ฉบับภาพยนตร์ ซึ่งเรียกว่าเป็นช่วงเวลาที่ยังไม่มีการกล่าวถึงในซีรีส์หรือหนังของ Star Wars มากนัก จึงเหมาะมากถ้าจะหยิบมาเขียนเป็นสปินออฟ โดยที่ไม่จำเป็นต้องยึดโยงกับตัวละครฮิตๆ อื่นๆ
เส้นเรื่องเป็นการหาตัวฆาตกรที่ออกตามล่าเอาชีวิตเจไดทั้ง 4 โดยทางสภาเจไดเองก็ได้ส่ง โซล ปรมาจารย์เจได ลงมาสืบสวนคดีปริศนาครั้งนี้ร่วมกับ โอชา อดีตพาดาวัน หรือลูกศิษย์ของเขา ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นฆาตกรนั่นเอง ระหว่างการสืบคดีก็มีทั้งการต่อสู้ การชิงไหวชิงพริบ และการตัดสลับแบบที่ยังคงเอกลักษณ์ของซีรีส์ Star Wars เป็นอย่างดี
ส่วนโชว์รันเนอร์ที่เขียนบทและกำกับ Star Wars: The Acolyte ก็คือ Leslye Headland ที่เคยมีผลงานซีรีส์สนุกๆ อย่าง Russian Doll มาแล้วนั่นเอง!
ทำไมต้อง อีจองแจ?
ใครที่ตามข่าวอยู่คงจำกันได้ว่าอีจองแจขึ้นเป็นหนึ่งในรายชื่อนักแสดงตั้งแต่ประกาศสร้าง และพอถึงวันนี้ที่ได้เห็นผลงานของเขาก็ยอมรับจริงๆ ว่านักแสดงที่ดีนั้น พรมแดนภาษาไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เพราะถึงแม้ว่าจะไม่ได้คล่องภาษาอังกฤษเท่าเจ้าของภาษา แต่อีจองแจก็ทำให้คนดูเชื่อได้จริงๆ ว่าเขาคือมาสเตอร์เจไดที่เต็มไปด้วยจิตวิญญาณภายในในแบบที่แตกต่างไปจากปรมาจารย์เจไดคนอื่นๆ
Leslye Headland ผู้สร้าง Star Wars: The Acolyte เล่าให้ฟังว่า ตอนที่ซีรีส์ Squid Game กำลังดังระเบิด ตอนนั้นเธอกำลังเขียนบทเรื่องนี้อยู่ด้วย งานแสดงของอีจองแจใน Squid Game ทำให้เธอรู้ทันทีว่าเขาเหมาะที่สุดกับบทปรมาจารย์เจไดโซล ที่จะมาเป็นศูนย์กลางของเรื่องราวในซีรีส์ และเธอเขียนบทโซลขึ้นมาโดยที่นึกถึงอีจองแจแบบไม่เผื่อใจให้ใครอีกเลย
อีจองแจ รับบท โซล ปรมาจารย์เจได
ในซีรีส์ Squid Game อีจองแจ รับบทเป็นนักพนันที่หมดเนื้อหมดตัว คนสิ้นหวังขนาดว่าอยากจบชีวิตตัวเอง แม้ว่าจะมีแม่และลูกสาวเป็นครอบครัวที่เหลืออยู่ เราคิดว่ามิติทางอารมณ์ของตัวละครมีบางอย่างเชื่อมโยงกับ โซลที่เชื่อในตัวพาดาวันของเขา รวมถึงการได้เข้าไปเกี่ยวข้องกับเด็กสาวฝาแฝดที่เขาพยายามช่วยชีวิตไว้เมื่อ 16 ปีก่อน
อีจองแจเองให้สัมภาษณ์ไว้ว่า ตอนแรกเขาคิดว่าสองคาแรกเตอร์นี้แตกต่างกันมาก แต่ตัวเขารู้สึกว่าสองคาแรกเตอร์นี้มีความเกี่ยวข้องกันในเรื่องของการมีจิตใจที่ดี ความปรารถนาที่จะมีชีวิตรอด และขณะเดียวกันได้ช่วยเหลือคนอื่นด้วย
ส่วนการรับบทโซลก็เรียกว่าเป็นฝันเกินฝัน สำหรับนักแสดงเกาหลีใต้ที่เคยดู Star Wars มาตั้งแต่เด็กๆ ในวันนี้จะได้มารับบทเป็นปรมาจารย์เจได
อีจองแจศึกษาคาแรกเตอร์ของเขาจากตัวละคร ไคกวอน ปรมาจารย์เจไดจาก The Phantom Menace ส่วนเรื่องของฉากแอ็กชันหายห่วงได้ เพราะอีจองแจชั่วโมงบินสูงอยู่แล้ว และการต่อสู้แบบเจไดก็ใกล้เคียงกับศิลปะการต่อสู้แบบเอเชียอยู่แล้ว ไลท์เซเบอร์ก็มีวิธีการใช้งานแบบเดียวกับดาบ รวมถึงเรื่องของความเชื่อและศรัทธาที่อ้างอิงจากศาสนาพุทธก็ไม่ได้ไกลตัวเขาเท่าไรนัก แต่ที่เขาทุ่มเทสุดๆ ก็คือการเตรียมพร้อมสำหรับบทพูดภาษาอังกฤษตลอดเรื่อง โดยที่อีจองแจมีเวลาเตรียมตัวเพียง 4 เดือนก่อนถ่ายทำเท่านั้นเอง
สำหรับใครที่ว้าวมากๆ กับสกิลภาษาอังกฤษของอีจองแจ ก็ต้องบอกว่าเขาทุ่มสุดตัวมาก นอกจากโค้ชสองคนที่คอยช่วยฝึกทั้งก่อนและระหว่างการถ่ายทำ นักแสดงในกองถ่ายก็คอยช่วยเขามากๆ จนเราได้เห็นในท้ายที่สุดว่า ปรมาจารย์เจไดโซล ภาษาอังกฤษพลิ้วจริงๆ #ยืนปรบมือ
Amandla Stenberg รับบท โอชา ด้านสว่าง และเมย์ ด้านมืด
ว่ากันว่า อแมนดลา น่าจะเป็นความหวังใหม่ให้กับ Star Wars ด้วยความที่ตัวละครของเธอมีเสน่ห์มาก และการแสดงของเธอก็พิเศษเอามากๆ
อแมนดลาให้สัมภาษณ์ว่า ตั้งแต่รู้ว่าต้องแสดงเรื่องนี้ เธอก็ใช้เวลามากกว่า 1 ปีในการเข้าไปเป็นติ่ง Star Wars เรียกว่าศึกษาเอาจริงเอาจังทุกเรื่องราวของ Star Wars ทั้งภาพยนตร์ ซีรีส์ ฟิกชัน แอนิเมชัน จนเข้าใจความเป็นStar Warsในหลายๆ ส่วน รวมถึงส่วนสำคัญคือตัวละคร อมิดาลา แพดเม่ ที่รับบทโดย นาตาลี พอร์ตแมน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยตีความตัวละครของเธอ
เธอเล่าอีกว่าสนใจตัวละครผู้หญิงในจักรวาล Star Wars และการที่เธอได้รับโอกาสในการเป็นตัวละครหญิง ยิ่งทำให้เธออินมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม!
หุ่นปี๊ป ที่ได้ใจตั้งแต่อีพีแรก
PIP หุ่นดรอยด์คู่ใจตัวละครหลักของเรื่อง เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งลายเซ็นของจักรวาล Star Wars ทั้งที่ผ่านมาอย่าง R2D2, BB-8 มาในซีรีส์ The Acolyte เราจะได้พบกับ ปี๊ป (Pip) ดรอยด์จิ๋วสุดแสบที่คอยอยู่ข้างกายโอชาโดยตลอด
ปิ๊ป คือดรอยด์ซ่อมแซมแบบมือถือ แม้มีขนาดเล็ก แต่ทำงานได้หลากหลาย ซึ่งด้วยรูปร่างหน้าตาแล้ว แฟนๆ น่าจะถูกใจได้ตั้งแต่แรกพบเลย
แล้วการผูกเรื่องให้โอชาที่ออกจากการเป็นเจไดไปทำงานเป็นคนซ่อมนอกยานอวกาศนั้น ก็ทำให้ชั้นเชิงทางเทคนิคของเธอเก่งกว่าใคร ซึ่งประเด็นนี้เอาไปใช้ประโยชน์ในการแก้ปมปัญหาหลายๆ อย่างในซีรีส์ได้ต่อไปอีก แน่นอนว่าปิ๊ปจะตามไปเกี่ยวข้องด้วยในฐานะดรอยด์คู่หูคนสำคัญ
ดูดีไหม?
ตามสูตรสำเร็จเรื่องที่ชอบๆ ของชาว #ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ก็ต้องบอกว่า Star Wars: The Acolyte ครบเครื่องมากๆ ก็คือ
– เปิดมาสนุกเลย คัทซีนฉากต่อสู้เดือดๆ มาไว้ต้ังแต่ต้นเรื่อง
– และใน 15 นาทีแรก มีเรื่องของเลือด และการเสียชีวิต
– ที่สำคัญ เต็มไปด้วยปริศนาที่รอการเฉลย
– ตัวละครหลักยังเป็นอีจองแจอีก
– เพราะฉะนั้นเรื่องราวที่ผสมผสานงานสืบสวนและปมปริศนาแบบนี้ #ดูซีรีส์ให้ซีเรียสไม่พลาดแน่นอน