Parasyte: The Grey ปรสิต เวอร์ชัน เกาหลี งานดี 6 อีพีจบ โดยผู้กำกับ ยอนซังโฮ
ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ซัดรวดทีเดียว 6 อีพีจบกับ Parasyte: The Grey ปรสิต เวอร์ชัน เกาหลี เพราะขึ้นชื่อว่าเป็นงานสร้างโดย ยอนซังโฮ จาก Train to Busan, Hellbound ทางเราก็พร้อมกดดูแบบไม่รอใครรีวิว
และเป็น 6 อีพีที่ประทับใจ เพราะ Parasyte: The Grey ทำออกมาได้กำลังดี ดูสนุก แฟนการ์ตูนชอบใจ เพราะเป็นสปินออฟที่ไม่ได้ตามเรื่องราวดั้งเดิม แต่ยังคงอยู่ในขนบของปรสิตในแบบที่ผู้กำกับยอนซังโฮใส่ลายเซ็นชัดๆ จัดเต็ม
สำหรับมังงะ Parasyte หรือ ปรสิต เล่าเรื่องราวของ ชินอิจิ เด็กหนุ่มในเมืองเล็กๆ ไม่ไกลจากโตเกียว เขาถูกปรสิตกัดกินแขนขวา และต้องใช้ชีวิตร่วมกับมัน หรือที่ชินอิจิตั้งชื่อให้ว่า มิกิ โดยที่พวกเขาก็ไม่รู้ว่าปรสิตตัวอื่นๆ ก็เข้าไปสิงในร่างมนุษย์และพยายามยึดครองโลก ความสนุกปนน่ารักก็คือ ‘มิกิ’ หรือปรสิตแขน มีความน่ารักน่าชัง มองโลกแบบตรงไปตรงมา และสนทนาตอบโต้ได้แบบเรียลไทม์อีกด้วย
ส่วนเวอร์ชันเกาหลี Parasyte: The Grey เล่าถึงเหตุการณ์ปรสิตบุกโลก เข้าไปกัดกินสมองและยึดครองร่างคนคนนั้น โดยปรสิตตัวหนึ่งเข้าไปในร่างของ ซูอิน แต่กลับไม่สามารถกัดกินสมองยึดครองร่างได้ทั้งหมด ทำให้สองชีวิตต้องใช้ร่างเดียวกัน และพบว่าปรสิตตนอื่นพัฒนาความสามารถในการเอาตัวรอดไปอีกขั้น ขณะที่ Team Grey หรือหน่วยปราบปรามปรสิต กำลังออกตามกวาดล้างปรสิตสิงร่างมนุษย์ให้สิ้นซาก
Parasyte: The Grey สปินออฟจากการ์ตูนญี่ปุ่น ‘ปรสิต’ ที่แฟนๆ รู้จักกันดี
Parasyte หรือปรสิต เป็นการ์ตูนญี่ปุ่นช่วงปี 1988-1995 โดย อาจารย์ฮิโตชิ อิวาอากิ ตอนนั้นในไทยตีพิมพ์กับสยามอินเตอร์คอมิกส์ เรียกว่าวัยรุ่นยุค 90 ติดกันงอมแงม ซึ่งตัวการ์ตูนก็ฮิตมากๆ ขนาดว่าทำยอดขายโดยรวมไปกว่า 25 ล้านเล่ม และสร้างเป็นแอนิเมชัน รวมถึงภาพยนตร์ญี่ปุ่น 2 ภาค จนล่าสุดทาง Netflix ได้สิทธิ์สร้างซีรีส์ที่เขียนเรื่องราวขึ้นใหม่ แตกจากต้นฉบับเดิมเป็นเวอร์ชันเกาหลี โดยนักเขียน-ผู้กำกับยอนซังโฮ
ซึ่งทางอาจารย์อิวาอากิ นักเขียนมังงะต้นฉบับเอง ก็พูดถึงซีรีส์ Parasyte: The Grey ที่เขาได้ดูก่อนใครไปแล้วว่า “ผมรู้สึกได้เลยว่าผู้สร้างซีรีส์ Parasyte: The Grey ให้ความเคารพผลงานต้นฉบับเป็นอย่างมาก และในขณะเดียวกันผมก็ได้เห็นไอเดียต่อยอดที่สร้างสรรค์ออกมาได้อย่างมีเอกลักษณ์ตลอดทั้งเรื่อง และยังได้เพลิดเพลินกับซีรีส์เรื่องนี้ทั้งในฐานะผู้เขียนมังงะต้นฉบับและในฐานะ ‘ผู้ชม’ อย่างแท้จริง แต่ละตอนมีจังหวะเดินเรื่องที่ฉับไวและทรงพลัง ซึ่งทำให้ซีรีส์เรื่องนี้ดูสนุกมากครับ
“สิ่งที่ผมตื่นเต้นที่สุดคือซีรีส์เรื่องนี้จะเป็น ‘เรื่องราวใหม่’ ทั้งหมด แม้ว่าผมจะเป็นคนเขียนมังงะต้นฉบับ แต่ผมเองกลับเป็นหนึ่งในผู้ชมที่จะได้สัมผัสกับความระทึกและความสุดยอดของมันด้วยเช่นกัน พอลองนึกย้อนกลับไปตอนที่มังงะต้นฉบับได้รับการดัดแปลงเป็นเวอร์ชันต่างๆ ในญี่ปุ่น มังงะเรื่อง Parasyte เป็นเสมือน ‘ลูก’ ของผม ที่ถือกำเนิดขึ้นจากงานของผมเองในห้องทำงานเล็กๆ
“ส่วนแอนิเมชันและภาพยนตร์ไลฟ์แอ็กชันในตอนนั้นก็เป็นเหมือน ‘หลาน’ ที่เกิดจากลูกของผมอีกที ซึ่งได้ออกไปสู่โลกกว้าง ได้พบกับผู้คนมากมายที่มีความรู้ความสามารถ อีกทั้งมีประสบการณ์และเทคโนโลยี
“ผมมีความสุขเหลือล้นที่ ‘หลาน’ คนใหม่จะได้ถือกำเนิดขึ้นในประเทศเกาหลี และผมเชื่อว่า ‘เรื่องราวใหม่’ ที่เกิดขึ้นในสถานที่แห่งใหม่นี้จะพาเราไปพบกับโลกที่ไปไกลได้ยิ่งกว่าจินตนาการของผมด้วยครับ”
Parasyte: The Grey งานสร้างจากยอนซังโฮ
Parasyte: The Grey เป็นซีรีส์ที่จะขยายจักรวาลของ Parasyte มังงะต้นฉบับเรื่องฮิตของ ฮิโตชิ อิวาอากิ ที่น่าสนใจคือเป็นงานบูชาครูโดยนักเขียน-ผู้กำกับยอนซังโฮ ซึ่งเขาก็เป็นหนึ่งในนักอ่านแฟนพันธุ์แท้ปรสิต และยอมรับว่าได้รับอิทธิพลในการทำงานมากมายจากมังงะเรื่องนี้
“ตอนผมอายุประมาณ 20 กว่าๆ มังงะเรื่อง Parasyte นับว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อพวกเราที่หลงใหลในมังงะและแอนิเมชัน ผมรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับโอกาสในการสร้างผลงานใหม่ที่ต่อยอดมาจากมังงะเรื่องนี้ และนับว่าความฝันในช่วงวัยรุ่นของผมได้กลายมาเป็นความจริงอีกด้วย
“สำหรับผม มังงะเรื่อง Parasyte พูดถึงประเด็นการอยู่ร่วมกัน และผมก็อยากให้ซีรีส์เรื่อง Parasyte: The Grey สะท้อนถึงแก่นเรื่องเดียวกันนี้ด้วย ผมจึงตั้งคำถามว่ามนุษย์จะสามารถอยู่ร่วมกับสิ่งมีชีวิตอื่นหรือมนุษย์กลายพันธุ์ที่ไม่เหมือนกับพวกเขาได้อย่างสันติหรือไม่”
ในซีรีส์ Parasyte: The Grey เราจะได้เห็นงานสร้างที่มาพร้อมลายเซ็นของยอนซังโฮกันเต็มอิ่ม ถ้าให้นึกถึงก็น่าจะเป็นซีรีส์ Hellbound ที่มีอารมณ์ใกล้เคียงกัน เชื่อว่าคนดูที่เป็นแฟนมังงะจากยุค 90 คงจะปลื้มปริ่ม เพราะการได้เห็นภาพขาวดำนิ่งๆ กลายเป็นตัวปรสิตแหวกใบหน้าออกมาฟาดฟันกันในจอโทรทัศน์ได้สมจริง ความตื่นตาตื่นใจของงานวิชวลเอฟเฟกต์ที่สร้างปรสิตขึ้นมาจริงๆ ก็คือใจฟูไม่ไหวแล้ว
Parasyte: The Grey เอกลักษณ์ปีศาจแบบเกาหลีที่มีชีวิตจิตใจ
ซีรีส์เรื่อง Parasyte: The Grey เล่าถึงตัวละคร ซูอิน หญิงสาวที่ติดอยู่ระหว่างความเป็นมนุษย์และการโดนปรสิตยึดร่าง คือภาพแทนของแก่นเรื่องที่ว่าด้วยการอาศัยอยู่ร่วมกัน เหมือนกับที่ ไฮดี้ ปรสิตที่เข้ายึดร่างซูอินหลังเผชิญเหตุการณ์เฉียดตาย ได้กล่าวไว้ว่า “ถ้าหากว่าเราไม่รวมร่างกัน เราคงตายไปแล้วทั้งคู่ ยังไงซะเราทั้งสองก็ต้องอาศัยอยู่ด้วยกัน”
แต่เมื่อต้องอยู่ในฐานะมนุษย์กลายพันธุ์ที่ครึ่งหนึ่งเป็นปรสิต อีกครึ่งหนึ่งเป็นมนุษย์ ทว่าซูอินก็ไม่สามารถอยู่ข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายปรสิตที่พยายามยึดครองสังคมมนุษย์ หรือฝ่ายทีมเฉพาะกิจของมนุษย์ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อกำจัดปรสิตอย่าง Team Grey ความตึงเครียดนี้เองที่จะตรึงผู้ชมไว้ ณ ใจกลางความขัดแย้งในซีรีส์เรื่องนี้
จุดเด่นของซีรีส์เน้นความเป็นปีศาจแบบเกาหลีที่มีชีวิตจิตใจ อย่างเช่น ไฮดี้ที่สิงอยู่ในรางของซูอิน เรียนรู้มิติทางความรู้สึกของมนุษย์ที่มากกว่าสัญชาตญาณเอาตัวรอดอย่างที่ปรสิตอย่างเธอมี, ซูอิน ที่เจอกับมนุษย์ในคราบปีศาจมาตลอด, การทำให้มนุษย์อยู่เหนือกว่าปรสิต ในการมีความเชื่อ ความหวัง ความศรัทธา ซึ่งในกรณีนี้ก็มีการล้อกับลัทธิทางศาสนาในแบบที่เจ็บแสบ รวมถึงหน่วยงานภาครัฐที่มีการสะท้อนผ่านซีรีส์ ว่า แม้อยู่ในสถานะตำรวจ แต่สิ่งที่พวกเขาต้องแบกรับคือความกดดันในการมีชีวิตไม่ต่างกัน
เหล่านี้คือสิ่งที่ทำให้ Parasyte: The Grey เป็นซีรีส์สปินออฟจากเวอร์ชันมังงะต้นฉบับที่เคารพต้นฉบับ ขณะเดียวกันก็สร้างเส้นทางใหม่ๆ ให้กับเรื่องราวของตัวเองได้อย่างสวยงาม
จอนโซนี รับบท ซูอิน Parasyte: The Grey เธอคือใคร ไปอยู่ที่ไหนมา
จอนโซนี เรียกว่าเป็นนักแสดงสาวดาวรุ่งก็ว่าได้ เพราะตั้งแต่เดบิวท์ในหนังอินดี้เรื่อง Photo (2014) ระหว่างที่กำลังเรียนด้านโทรทัศน์ที่ Seoul Institute of Arts ก็ทำให้เธอตัดสินใจอย่างหนักแน่นที่จะเป็นนักแสดง จนได้แสดงในภาพยนตร์หลายเรื่อง ก่อนจะรับงานแสดงทางโทรทัศน์ Encounter (2018-2019) รับบทเป็นเพื่อนของ พัคโบกอม ตามมาด้วยซีรีส์ When My Love Blooms ที่เธอรับบทนำครั้งแรก และมีผลงานต่อเนื่อง Scripting Your Destiny, Dr. Brain, Our Blooming Youth จนมาถึง Parasyte: The Grey
ความท้าทายก็คือใน Parasyte: The Grey จอนโซนีต้องรับบทเป็นสองคนในร่างเดียว ก็คือ ซูอิน หญิงสาวที่ถูกปรสิตเข้าสิง และยังต้องแสดงเป็น ไฮดี้ ปรสิตที่อยู่ในร่างเธออีก ซึ่งก็ต้องบอกว่าเฉียบขาด ทำดี ทำถึง
และจากซีรีส์ Parasyte: The Grey เชื่อว่าจอนโซนีจะมีผลงานตามมาอีกเพียบ ปัจจุบันเธอสังกัดค่าย Fable Company ที่ชเวอูชิกเป็นผู้ก่อตั้ง เอาเป็นว่าใครชอบผลงานของจอนโซนี เราไปตามหา Instagram มาให้แล้ว ไปกดติดตามกันได้ https://www.instagram.com/somewheregreeny/
คูคโยฮวาน เขาคือคู่หูคนเก่งฟ้าประทานอีกครั้ง ในซีรีส์ Parasyte: The Grey
คูคโยฮวาน มารับบท คังอู ชายหนุ่มผู้ต่อสู้กับเหล่าปรสิตเพื่อตามหาน้องสาวที่หายสาบสูญ บอกเลยว่าตัวละครคังอูคือแสงสีสดใสของซีรีส์ แบบเดียวกับที่เขาเคยทำมาแล้วในการรับบทคู่หูคนเก่งจาก D.P. หน่วยล่าทหารหนีทัพ
ในซีรีส์ Parasyte: The Grey คังอูเป็นหนึ่งในแก๊งมาเฟียที่กำลังหนีเอาชีวิตรอดแบบหัวซุกหัวซุน พอกลับมาบ้านเกิดก็พบกับเหล่าปรสิต เพิ่มความวุ่นวายในการหนีไปอีกขั้น พร้อมๆ ปมครอบครัวที่เขาไม่รู้เลยว่าน้องสาวหายสาบสูญไปไหน และทำไมพี่สาวถึงได้ทำตัวแปลกไป
คูคโยฮวานให้สัมภาษณ์ถึงคาแรกเตอร์ของเขาว่า “คังอูเป็นมนุษย์ที่ชอบหนีครับ เรียกว่าหนีเป็นชีวิตจิตใจ แต่เมื่อเขาหนีกลับไปบ้านเกิดและได้เจอกับซูอินและไฮดี้ที่นั่น เขาจึงค่อยๆ เรียนรู้ที่จะหนีให้น้อยลงครับ
“ในซีรีส์ คังอูค่อนข้างรับข้อมูลเยอะมาก ทั้งต้องสื่อสารให้ผู้ชมทราบ และก็ต้องบอกให้ซูอินรับรู้ด้วย ผมคิดว่าผมมีบทบาทเป็นผู้ส่งสารให้กับทุกคนครับ ดังนั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ เปิดตาดูให้ดี เงี่ยหูฟังให้ชัด และผมหวังว่าเขาจะดูเป็นคนที่มีความสามารถในการต่อสู้ที่แกร่งกว่ามนุษย์คนอื่นครับ”