review-somebody-netflix

รีวิว ‘Somebody แอปรัก แอบฆ่า’ จะรอดไหม!? ถ้าแอปหาคู่แมตช์เรากับฆาตกรไซโคพาธ!

รีวิว Somebody แอปรัก แอบฆ่า ซีรีส์มาใหม่ 8 ตอนจบ และกำลังเป็นที่พูดถึงในตอนนี้ของ Netflix เป็นแนวไซโคทริลเลอร์ผสมอีโรติก มีฉากหวาดเสียวพอๆ กับฉากหลอนๆ ในแบบที่น่าสนใจมาก

เรื่องราวเล่าถึง คิมซัม (รับบทโดย คังแฮริม) นักพัฒนาแอปพลิเคชัน Somebody ที่ถึงแม้ว่าจะมีอาการแอสเพอเกอร์ และมีปัญหาในการปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น แต่เธอก็ยังมีเพื่อนสนิทที่ชื่อ กีอึน (รับบทโดย คิมซูยอน) และมกวอน (รับบทโดย คิมยงจี)  จนกระทั่งมีเหตุฆาตกรรมต่อเนื่องเกิดขึ้น และแอป Somebody ก็มีส่วนในคดีนี้ โดยมี ยุนโอ (รับบทโดย คิมยองกวัง) สถาปนิกหนุ่มลึกลับเข้ามาเกี่ยวข้อง

Somebody หลุดออกจากกรอบซีรีส์ทริลเลอร์ที่ไล่ล่าฆ่าฟันอย่างเดียวไปสู่บริบทอื่นๆ ทั้งยังแฝงแมสเสจมากมายให้ตีความ ทั้งเรื่องตัวตนข้างใน การเลี้ยงดู ปมปัญหาสังคม ความเปล่าเปลี่ยวของคนเมือง ความพร่าเลือนเรื่องศีลธรรม-ความดี และพล็อตที่แปลกใหม่สำหรับซีรีส์เกาหลีที่เล่าถึงไซโคทริลเลอร์ ปะปนกับความงดงาม และบรรยากาศของชีวิตหนุ่มสาวสมัยใหม่ในเมือง

คำเตือน : บทความนี้มีการเปิดเผยเนื้อหาบางส่วน

review-somebody-netflix
คิมยองกวัง รับบทเป็น ยุนโอ
review-somebody-netflix
คังแฮริม รับบทเป็น คิมซัม

นักแสดงในซีรีส์ Somebody ที่โดดเด่นมากๆ

คิมยองกวัง รับบทเป็น ยุนโอ ตัวละครนี้มีเสน่ห์ ขณะเดียวกันก็แฝงไปด้วยความเรียบลึกชนิดที่ไม่อาจเข้าใจข้างในใจเขาได้ ซึ่งบทยุนโอในซีรีส์ Somebody นับว่าพลิกบทบาทที่ผ่านมาของคิมยองกวังแทบทั้งหมด เพราะก่อนหน้านี้เขามักจะมีผลงานแนวโรแมนติกคอเมดี้เสียมากกว่า เช่น The Secret Life of My Secretary (2019) หรือ Hello, Me! (2021) แต่กับซีรีส์เรื่องนี้ เขาสามารถสลัดภาพจำออกไปได้ทั้งหมดเลย

คังแฮริม รับบทเป็น คิมซัม คนที่เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็นในบางเรื่อง ขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความไร้เดียงสา แต่ในบางเวลาก็เต็มเปี่ยมไปด้วยความอันตราย อีกทั้งเธอยังต้องรับบทเป็นคนที่มีอาการแอสเพอเกอร์อีกด้วย ความน่าสนใจก็คือ Somebody เป็นผลงานที่เธอก้าวขึ้นมารับบทนำเป็นครั้งแรก หลังจากผ่านการออดิชันจากนักแสดงกว่า 600 คน

review-somebody-netflix
คิมซูยอน รับบทเป็น กีอึน
review-somebody-netflix
คิมยงจี รับบทเป็น มกวอน

คิมซูยอน รับบทเป็น กีอึน เรื่องนี้เป็นผลงานชิ้นแรกของเธอ และความน่าสนใจก็คือคิมซูยอนผ่านการออดิชันกว่า 500 คนเพื่อรับบท ‘ยัยรถเข็น’ เรียกได้ว่านับเป็นซีรีส์ที่เต็มไปด้วยนักแสดงหน้าใหม่ แต่ฝีมือเฉียบขาดชนิดที่ไม่บอกก็ไม่รู้เลยจริงๆ

คิมยงจี รับบทเป็น มกวอน ก่อนหน้านี้หลายคนอาจคุ้นหน้าในซีรีส์หลายๆ เรื่อง เช่น Tale of the Nine-Tailed (2020), The King: Eternal Monarch (2020) และการรับบทนำในครั้งนี้ เธอต้องเพิ่มน้ำหนักตัวเองถึง 10 กิโลกรัม เพื่อปรับลุคให้เข้ากับบทมากที่สุด

somebody-kdrama-netflix

อีกด้านของแอสเพอร์เกอร์

เปิดมาใน 2 อีพีแรก Somebody มีการปูเนื้อเรื่องและภูมิหลังตัวละครแต่ละตัว โดยส่วนใหญ่จะโฟกัสไปที่ตัวละคร ‘คิมซัม’ เป็นหลัก ซึ่งชื่อตัวละครนี้ ผู้เขียนบทตั้งใจให้สอดคล้องกับคำว่า Someone ที่แปลว่า ใครสักคน 

คิมซัมเกิดมาพร้อมอาการแอสเพอร์เกอร์ เธอจึงมีความบกพร่องเชิงทักษะทางสังคม ไม่สามารถรับรู้อารมณ์และความรู้สึกต่างๆ จากผู้คนรอบข้าง แต่กลับมีความสามารถด้านคอมพิวเตอร์ที่สูงมาก จะเห็นได้จากตอนเธอปรับโปรแกรมตู้สล็อตให้ผู้คนหลงกลและเล่นตู้สล็อตมากยิ่งขึ้น ถึงแม้ว่าเธอว่าจะฉลาดมากแค่ไหน แต่เนื่องจากเธอมีความบกพร่องในทักษะสังคม จึงทำให้เธอไม่ค่อยมีเพื่อนมากนัก 

จากจุดนี้เอง คิมซัมได้เริ่มสร้าง AI ไว้เป็นเพื่อน โดยจะเห็นได้จากในงานประกวดโครงงานที่เพื่อนวัยเดียวกันมักจะมองว่าเธอเป็นตัวประหลาด แต่ตัวละคร ซาแมนธา (รับบทโดย ชเวยูฮา) มองเห็นผลประโยชน์จากโปรแกรมที่คิมซัมสร้างขึ้น และค่อยๆ ก้าวเข้ามาเป็น ‘พี่สาว’ ที่คอยดูแลปกป้องเธอ 

review-somebody-netflix
ชเวยูฮา รับบทเป็น ซาแมนธา

แต่ในความเป็นจริง พ่อแม่แท้ๆ กลับมองว่าคิมซัมคือปีศาจ และซาแมนธาที่ควรเป็นพี่สาวก็กลับไม่ได้มอบความรักอย่างแท้จริงให้ นั่นอาจทำให้ในบางสถานการณ์เราจะเห็นว่าคิมซัมค่อนข้างขาดความเห็นอกเห็นใจในตัวผู้อื่น และมีแนวโน้มจะมากยิ่งกว่าเดิมอีก 

ซีรีส์ทำให้เห็นอีกด้านของโรคแอสเพอเกอร์ ในหลายๆ เหตุการณ์ ทั้งความไม่รู้สึกกับความตายที่เกิดขึ้นตรงหน้า หรือเลือกปฏิบัติกับบางเหตุการณ์ในเชิงเหตุและผลมากกว่าความรู้สึกทางจิตใจ อย่างเช่นฉากที่คิมซัมเห็นแมวบาดเจ็บ แต่กลับเลือกที่จะมองดูและปล่อยให้แมวตายไปอย่างนั้น ซึ่งนี่ก็เป็นอีกด้านของแอสเพอร์เกอร์ที่ทำให้ผู้ที่อยู่ในภาวะนี้ไม่สามารถแยกแยะความรู้สึกได้ และยังเป็นการสะท้อนอาการของโรคที่ในบางกรณีก็ไม่ได้ยืนบนบรรทัดฐานความถูกผิดของสังคม

review-somebody-netflix

Somebody แอปที่ผู้พิการและผู้ยากจนก็สามารถใช้ได้

ด้วยความที่เป็นแอปพลิเคชันสำหรับทุกคน ทั้งคนที่เพื่อนเยอะ หรือคนที่ไม่มีตัวตนในสังคม ทำให้แอปพลิเคชันนี้ได้รับความนิยมอย่างมาก และในช่วงต้นก็ได้มีการโปรยสโลแกนของแอปพลิเคชัน Somebody เอาไว้ แถมซีรีส์เองก็ยังเลือกเอาประเด็นนี้มาขยี้ต่อ และทำให้เห็นว่า Somebody เชื่อมโยงผู้คนไว้ด้วยกัน ไม่ว่าใครก็สามารถใช้แอปพลิเคชันนี้ได้

โดยเฉพาะตัวละคร กีอึน ที่เป็นผู้พิการจากอุบัติเหตุ และทำให้ต้องใช้รถเข็นตลอดชีวิต เราจะได้เห็นอีกมุมมองการใช้ชีวิตของผู้พิการ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย ขับรถไปทำงาน หรือใช้ชีวิตประจำวันไม่ต่างจากคนปกติ 

นอกจากตัวละครกีอึนที่เป็นตัวแทนของคนพิการแล้ว ยังมีอีกตัวละครที่ไม่ได้มีการเปิดเผยชื่อออกมา แต่แสดงตัวตนด้วยการใช้ภาษามือในการพูดคุยผ่านแอป Somebody 

โดยสิ่งที่ซีรีส์ต้องการจะสื่อถึง คือแม้จะเป็นผู้พิการแบบไหนก็ล้วนมีความต้องการและใช้ชีวิตเหมือนคนทั่วไปทั้งนั้น โดยส่วนใหญ่เรามักจะตัดสินไปเองว่าผู้พิการห้ามทำบางอย่าง แต่แท้จริงพวกเขาสามารถทำทุกอย่างได้ปกติ หากได้รับการยอมรับจากสังคม

ในขณะเดียวกัน จากไอเดียเริ่มต้นของแอป Somebody ที่ต้องการให้ทุกคนได้รับการมองเห็น สร้างสื่อสังคมออนไลน์เพื่อทำให้ทุกคนไม่เหงา แต่นั่นกลับกลายเป็นดาบสองคมจนทำให้เกิดการนำไปใช้งานในทางที่ผิด ยิ่งในโลกปัจจุบันที่ความพร่าเลือนเรื่องความถูกผิด วิธีคิด และวิถีของผู้คนในสังคมสมัยใหม่ อาจทำให้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าอะไรคือ ‘ความถูกต้อง’ ซึ่งซีรีส์ก็เลือกเล่นประเด็นนี้ผ่านการกระทำและการตัดสินใจของตัวละครหลักทั้งสี่

review-somebody-netflix

LGBT กับร่างทรง

ซีรีส์เกาหลีในช่วง 2 ปีมานี้ได้มีการนำตัวละคร LGBT มาเพิ่มมิติของเรื่องราวมากขึ้น ซีรีส์ Somebody เองก็เช่นกัน โดยได้นำประเด็นความหลากหลายทางเพศมาเล่าผ่านตัวละคร มกวอน ซึ่งเธอมีอาชีพเป็นร่างทรง 

ภาพจำแรกที่หลายคนนึกออกเกี่ยวกับร่างทรงคงจะต้องเป็นผู้หญิงผมยาว ต้องเรียบร้อยดั่งผ้าที่พับไว้ แต่เรื่องนี้ฉีกภาพจำเกี่ยวกับร่างทรงออกไปและตีความขึ้นมาใหม่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เกี่ยวกับ LGBT ในสังคมอนุรักษนิยมของเกาหลีที่ยังไม่ค่อยเป็นที่ยอมรับมากนัก  

ยังมีอีกหลายฉากที่เราได้เห็นความเก็บกดของตัวละครมกวอนผ่านการเก็บซ่อนตัวตนเอาไว้อย่างมิดชิด การปลดปล่อยตัวตนไปกับเสียงเพลง แสงไฟ และวิสกี้ ที่มันยังคงชัดเจนว่าแม้โลกจะยอมรับ LGBT มากยิ่งขึ้น แต่สำหรับสังคมเกาหลี สิ่งนี้เป็นช่วงเริ่มต้นของการยอมรับ ตัวละครมกวอนจึงถูกแสดงออกอย่างขัดแย้งผ่านอาชีพ ครอบครัว และชีวิตส่วนตัวอย่างเห็นได้ชัด

somebody-kdrama-netflix

ความเหมือนและความต่าง คือเรื่องปกติที่เราพบเจอได้ในชีวิตประจำวัน

อีกหนึ่งเหตุผลที่ซีรีส์เลือกใช้แอปหาคู่เป็นตัวกลางในการเล่าเรื่อง เพราะต้องการให้เห็นว่ามนุษย์ทุกคนล้วนมีความเหมือนและความต่างมากมาย เช่น ลักษณะภายนอก ทัศนคติ ซึ่งเราสามารถพบเห็นได้ในชีวิตประจำวัน 

แน่นอนว่ากว่าเราจะหาคนที่มีความชอบหรือทัศนคติที่เหมือนๆ กันได้ก็ต้องใช้เวลาไม่น้อยทีเดียว ซึ่งการมาถึงของอินเทอร์เน็ตทำให้สังคมที่เรารู้จักกว้างมากขึ้น และสามารถลดเวลาในการหาคู่ลงไปได้อย่างมาก เราไม่ต้องเสียเวลาไปทำความรู้จักคนอื่นผ่านเพื่อนร่วมงาน เพื่อนสมัยเรียน หรือญาติแบบสมัยก่อนอีกแล้ว

แอปหาคู่ส่วนใหญ่มักจะหาคู่ที่มีลักษณะความชอบที่ตรงกันเพื่อสานสัมพันธ์ จากจุดนี้เองทำให้ตัวละครยุนโอใช้ช่องโหว่การหาคนที่จะต้องการฆ่าโดยแสร้งทำเหมือนกันกับอีกฝั่ง เพื่อให้เธอรู้สึกถึงความสบายใจนั้นเอง ซึ่งก็เคยมีงานวิจัยออกมาว่าคนเราจะรู้สึกสบายใจเมื่อคุยกับคนแปลกหน้าที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเรา โดยมีงานวิจัยในปี 2017 จาก Journal of Personality and Social Psychology ก็ได้ออกมาสนับสนุนในเรื่องนี้เช่นกัน โดยศึกษาถึงความสัมพันธ์ของคู่รักจำนวน 1,523 คู่ ให้พวกเขาทำแบบทดสอบความคลึงกันจากปัจจัยต่างๆ สรุปได้ว่าคนเรามักดึงดูดเข้าหาคนที่มีนิสัยและทัศนคติใกล้เคียงกัน และคู่รักแต่ละคู่ก็มีแนวโน้มจะคล้ายกันถึง 86%

review-somebody-netflix

ความปลอดภัยในการใช้แอปหาคู่

แน่นอนว่าหลังจากดูซีรีส์ Somebody จบ หลายคนอาจมีมุมมองที่เปลี่ยนแปลงไปเกี่ยวกับแอปหาคู่ว่ามันปลอดภัยจริงไหม การป้องกันตัวเองเมื่อเริ่มต้นแชทที่เราต่างก็รู้ว่าควรสังเกตคู่สนทนาว่ามีพฤติกรรมหลอกลวงหรืออันตรายหรือเปล่า นอกจากนี้ยังต้องรู้จักป้องกันตัวในการทำความรู้จักกันมากยิ่งขึ้น 

ข้อมูลจาก BBC ได้เคยเผยแพร่เช็กลิสต์เพื่อป้องกันตัวจากแอปหาคู่เอาไว้ ดังนี้

– ถ้าจะนัดเจอตัว เดตแรกควรนัดเจอในที่สาธารณะ เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดอาชญากรรมในที่ลับตา

– อย่าให้ใครมารับคุณ เพราะอาชญากรรมมักจะเกิดในพื้นที่ปิด หากอยู่ในรถกับคนแปลกหน้า เราจะไม่สามารถหนีหรือขัดขืนได้เลย

– อย่าให้ข้อมูลส่วนตัว เช่น ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ เพราะในปัจจุบันข้อมูลเหล่านี้มักถูกใช้ในการยืนยันตัวตนสำหรับธุรกรรมสำคัญต่างๆ

– บอกให้คนใกล้ตัวคุณรู้ว่าคุณกำลังไปที่ไหน เพื่อที่ว่าหากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น คนรอบตัวจะสามารถช่วยเหลือคุณได้

– เปิดระบบติดตามที่อยู่ตามช่วงเวลาจริงเอาไว้ในโทรศัพท์ของคุณด้วย เพื่อให้ใครสักคนตามหาและแกะรอยมาช่วยเหลือได้

review-somebody-netflix

เรื่อง: ชานน มณี
ภาพ: Netflix
อ้างอิง: happyhomeclinic.com, hani.co.kr, bbc.com, thematter.co, researchgate.net,

ติดตามเนื้อหาสนุกๆ ของ ‘ดูซีรีส์ให้ซีเรียส’ ได้ที่ช่องทางต่างๆ ดังนี้
Facebook: TheSeriousSeries.TH
Twitter: TheSeriousSerie
YouTube: The Serious Series
Website: Theseriousseries.com
สมัครสมาชิกเพื่อรับข่าวสารและสิทธิพิเศษก่อนใครได้ที่ Link นี้