อวยยศ Mr. Sunshine ทำไมถึงซีรีส์ท็อปลิสต์ตลอดกาลของ ดูซีรีส์ให้ซีเรียส

“ประเทศแห่งนี้ที่คุณกำลังปกป้อง มันเพื่อใครกัน เพื่อชนชั้นสูงหรือชีวิตที่ดีขึ้นของเหล่าทาส” – ชเวยูจีน

ประโยคสั้นๆ จากชายที่ถูกประเทศทอดทิ้ง ถึงหญิงสาวที่กำลังพยายามปกป้องประเทศ จากซีรีส์ Mr. Sunshine งานดราม่า โรแมนติก อิงประวัติศาสตร์เรื่องหนึ่งในดวงใจของใครหลายคน ได้กลายเป็นคำถามที่ยังคงติดอยู่ในใจ แม้ว่าซีรีส์เรื่องนี้จะออนแอร์ผ่านไปแล้วหลายปี 

และถึงแม้ว่า Mr. Sunshine จะเป็นซีรีส์ติดอันดับในดวงใจของใครหลายคน แต่ก็น่าจะมีแฟนซีรีส์อีกจำนวนไม่น้อยที่ยังไม่รู้จัก หรือยังไม่เคยดู ดูซีรีส์ให้ซีเรียส จึงขอมาอวยยศ Mr. Sunshine ให้ฟังกันว่าเป็นงานซีรีส์ที่ทรงคุณค่ามากแค่ไหน และทำไมเราถึงอยากบอกว่าเรื่องนี้คือ A Must!

อีบยองฮอน นักแสดงชายรุ่นใหญ่ และ คิมแทรี นักแสดงหญิงมากฝีมือ ผนวกพลังกับงานเขียนบท คิมอึนซุก และผู้กำกับ อีอึงบก เจ้าของผลงานชื่อดังอย่าง Descendants of the Sun และ Goblin ก็น่าจะช่วยการันตีความอลังการของซีรีส์เรื่องนี้แล้ว 

ถึงแม้จะมี 24 อีพี ซึ่งมากกว่าซีรีส์ทั่วไปที่เราคุ้นเคย แต่ Mr. Sunshine ก็มีเรตติ้ง 2 หลักแทบทุกอีพี และมีเรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 18.1% ครองอันดับ 6 ซีรีส์เรตติ้งสูงสุดตลอดกาลของช่องเคเบิลเกาหลีใต้

ในปี 2018 ที่ออนแอร์ นับว่าเป็นปีทองของวงการบันเทิงเกาหลีที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เรียกได้ว่าแย่งชิงถ้วยในงานประกาศรางวัลกันอย่างดุเดือด และอีบยองฮอนก็คว้ารางวัลนักแสดงนำชายยอดเยี่ยมในงาน BaekSang Arts Awards ครั้งที่ 55 ไปครอง จนทำให้นักแสดงนำทั้ง 5 กลายเป็นพรีเซนเตอร์สินค้าจำนวนมากมายหลังจากนั้น

แต่ถึงอย่างนั้นก็มีประเด็นดราม่าซึ่งเกิดขึ้นจากผู้ชมชาวเกาหลีนี่เอง นักเขียนถูกกล่าวหาว่าบิดเบือนประวัติศาสตร์ กับประเด็นที่ว่าทำให้โชซอนดูเป็นประเทศล้าหลัง ขาดการพัฒนา และทอดทิ้งประชาชน อีกทั้งยังกล่าวถึงญี่ปุ่นในแง่ดีเกินไป โดยมีผู้ชมร่วมลงชื่อเห็นด้วยถึงหลักหมื่นเลยทีเดียว ขณะเดียวกัน เพื่อลดทอนกระแสดราม่าจากฝั่งญี่ปุ่น Mr. Sunshine ที่ออกอากาศผ่านทาง Netflix ก็ดึงเวลาการออกอากาศให้ช้ากว่าทางเกาหลีประมาณ 2-3 สัปดาห์

ซีรีส์ Mr. Sunshine ออกอากาศทาง Netflix ไปกว่า 190 ประเทศทั่วโลก และยังได้ถูกโปรโมตแบบอลังการงานสร้างในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ที่มีป้ายโปรโมตตามสถานีรถไฟฟ้าแบบเล่นใหญ่เช่นกัน 

Mr. Sunshine ประวัติศาสตร์ที่เจ็บปวด กับความรักที่งดงาม 

ในปี 1854 สหรัฐอเมริกาได้ทำข้อตกลงทางการค้ากับญี่ปุ่นที่เป็นมหาอำนาจของเอเชียในขณะนั้น ทำให้อเมริกาขยายพื้นที่ทางการค้ามาถึงเกาหลีด้วย 

ต่อมาในปี 1882 อเมริกาและชาติตะวันตกก็ได้ทำสนธิสัญญาทางการค้ากับเกาหลีเช่นกัน ทำให้วัฒนธรรมตะวันตกแพร่หลายในเกาหลีมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการพยายามแทรกแซงเกาหลีของชาติตะวันตกด้วย

ในปี 1905 หลังจากที่ญี่ปุ่นเป็นฝ่ายชนะสงครามกับรัสเซีย จักวรรดิญี่ปุ่นก็ได้เริ่มแผ่ขยายอำนาจไปทั่วทั้งเอเชีย รวมถึงเกาหลีที่อยู่ใกล้ที่สุด และญี่ปุ่นก็ยึดอาณานิคมเกาหลีได้สำเร็จ

ในปี 1910 จักรวรรดิโชซอนล่มสลาย และเป็นการสิ้นสุดระบอบกษัตริย์ของราชวงศ์เกาหลี พระเจ้าซุนจงที่ดำรงตำแหน่งเป็นสมเด็จพระจักรพรรดิซุนจงแห่งจักรวรรดิเกาหลี ถูกถอดออกจากตำแหน่ง เหลือยศเพียงกษัตริย์เท่านั้น 

ญี่ปุ่นผนวกรวมเกาหลีเข้าเป็นมณฑลหนึ่งของญี่ปุ่น ควบคุมตัวราชวงศ์ไปไว้ที่ญี่ปุ่น และแต่งตั้ง เทราอูจิ มาซาตาเกะ เป็นผู้สำเร็จราชการในเกาหลี 

เรื่องราวในซีรีส์ Mr. Sunshine นั้นเกิดขึ้นในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ก่อนที่จักรวรรดิญี่ปุ่นจะเข้ามายึดครอง เป็นช่วงที่เกาหลีกำลังสั่นคลอนและระส่ำระสายอย่างหนักจากการถูกแทรกแซงจากสองประเทศมหาอำนาจทั้งสหรัฐอเมริกาและญี่ปุ่น เกิดกบฏภายในราชสำนักและความขัดแย้งในหมู่ขุนนาง กษัตริย์อ่อนแอเนื่องจากยังอายุน้อย รวมถึงปัญหาการคานอำนาจภายในราชสำนัก ชาวโชซอนถูกกดขี่และพยายามสู้ทุกวิถีทางเพื่อปกป้องประเทศของตัวเองไม่ให้กลายเป็นเมืองขึ้นของชาติอื่น

Mr. Sunshine ได้แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติของญี่ปุ่นต่อเกาหลี ไม่ว่าจะเป็นการห้ามสอนภาษาหรือประวัติศาสตร์เกาหลี ห้ามจัดทำหนังสือพิมพ์เผยแพร่สถานการณ์ในสมัยนั้น ห้ามแสดงออกถึงวัฒนธรรมและความเป็นเกาหลี หรือหนึ่งในสิ่งที่ทำให้ชาวเกาหลีโกรธมากที่สุดก็คือการใช้ผู้หญิงเกาหลีเป็นสิ่งบำเรอของผู้ชายญี่ปุ่นในสมัยนั้น ความบาดหมางระหว่างสองประเทศที่เกิดขึ้นในอดีตยังส่งผลมาจนถึงปัจจุบัน อย่างที่เราทราบกันดีว่าสองชาตินี้ไม่ค่อยจะญาติดีกันสักเท่าไหร่

สำหรับทางฝั่งสหรัฐอเมริกาที่ไม่แน่ใจว่าจะมาด้วยเจตนาดีหรือร้าย ได้มีการตั้งฐานทัพในเกาหลี ทำการค้า และยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในด้านต่างๆ นัยว่าเพื่อคานอำนาจกับฝ่ายรัสเซียในช่วงเวลานั้น การเข้ามาของกองทัพอเมริกานี้ทำให้วัฒนธรรมตะวันตกถูกเผยแพร่ในเกาหลีมากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การแต่งกายด้วยชุดสูท อาหารการกิน ความล้ำสมัยของอาวุธยุทโธปกรณ์ และภาษาอังกฤษ

Mr. Sunshine กับขบวนการกู้ชาติ และความจริงในประวัติศาสตร์

ซีรีส์ส่วนมากมักจะนำเสนอเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นในสมัยนั้น แต่มีไม่กี่เรื่องที่พูดถึงการล่มสลายของระบอบกษัตริย์และประเทศชาติ แน่นอนว่านั่นเป็นช่วงเวลาที่ทุกคนไม่อยากพูดถึง เพราะก็คงไม่ต่างอะไรกับการตอกย้ำความพ่ายแพ้ของตัวเอง แต่ที่ซีรีส์ Mr. Sunshine ได้รับความนิยมถึงแม้จะนำเสนอช่วงเวลาที่เลวร้าย อาจเป็นเพราะว่าได้มีการกล่าวถึง ‘ขบวนการกู้ชาติ’ กลุ่มคนที่มีตัวตนอยู่จริงในประวัติศาสตร์ กลุ่มคนที่ลุกขึ้นต่อสู้เพื่อประเทศตัวเอง ถึงแม้หนทางที่ได้รับชัยชนะนั้นจะริบหรี่มากก็ตาม 

ขบวนการกู้ชาติ ในซีรีส์ Mr. Sunshine ได้รับแรงบันดาลมาจากกลุ่มที่ถูกเรียกว่า กองทัพผู้ชอบธรรม (Righteous Army) กลุ่มคนที่จับปืนต่อสู้เพื่อขัดขวางการรุกรานของญี่ปุ่น และไม่ให้เกาหลีต้องตกเป็นเมืองขึ้น ภาพนี้ถูกถ่ายโดย Frederick Arthur McKenzie นักข่าวชาวอังกฤษ ในปี 1907 โดยทหายนายหนึ่งได้บอกกับนักข่าวไว้ว่า “เรารู้ว่าเราทุกคนต้องตายถ้าเรายังสู้ต่อไป แต่พวกเราเกลียดการใช้ชีวิตอยู่อย่างทาสญี่ปุ่นที่สุด เราขอยอมตายอย่างเป็นอิสระเสียดีกว่า”

เรื่องรักระหว่างรบ 

เรื่องราวความรักก็เข้มข้นไม่แพ้กัน ชเวยูจีน (รับบทโดย อีบยองฮอน) ลูกชายครอบครัวทาสที่ระหกระเหินไปกับเรือขนส่งสินค้าอเมริกาตั้งแต่เด็ก  30 ปีต่อมาเขากลับมาเหยียบบ้านเกิดในฐานะกัปตันแห่งนาวิกโยธินสหรัฐฯ พ่วงด้วยตำแหน่งรักษาการกงสุล สถานกงสุลอเมริกาประจำโชซอน หลงรักกับ โกแอชิน (รับบทโดย คิมแทรี) หลานสาวตระกูลสูงศักดิ์ คุณปู่ของเธอคืออดีตอาจารย์ของสมเด็จพระจักรพรรดิ ถือเป็นเรื่องราวความรักที่ขัดแย้งกันตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่ม 

เมื่อความรักของคนสองคนขัดแย้งกับอุดมการณ์ที่เลือกในตอนต้น ชเวยูจีนตั้งใจเริ่มต้นชีวิตใหม่ในดินแดนที่มอบชีวิตใหม่ให้กับเขา ฉากที่เขาตัดผมเปียยาวทิ้งไปนั้นเป็นสัญลักษณ์แล้วว่าเขาตัดขาดจากแผ่นดินแม่ที่มีแต่สร้างบาดแผลเหวอะหวะให้กับชีวิต การกลับมาโชซอนอีกครั้งก็เป็นการมาปฏิบัติหน้าที่ในฐานะทหารอเมริกา โดยไม่ได้คิดว่าจะมีอะไรมาสั่นคลอนความคิดของเขาได้

โกแอชิน หญิงสาวสูงศักดิ์ที่ค้นหาตัวตนของตัวเองเจออย่างรวดเร็ว ความสดใสร่าเริง ความฉลาด ความอยากเปิดโลกกว้าง และเป็นมากกว่าผู้หญิงที่เตรียมตัวออกเรือนอย่างเช่นผู้หญิงคนอื่นๆ ในวัยเดียวกัน เธอเรียนรู้การยิงธนู ขี่ม้า ยิงปืน เขียนอ่านหนังสือ ด้วยความเชื่อว่ามีอะไรที่ผู้หญิงทำได้ และโชซอนก็ต้องการเธอในการเป็นนักรบกู้ชาติ โชซอนสำหรับโกแอชินคือบ้านเกิด แผ่นดินที่เธอรัก และไม่อยากให้มันล่มสลาย

Mr. Sunshine นับเป็นการผสมผสานประวัติศาสตร์ที่แสนเจ็บปวดกับเรื่องราวความรักที่แสนงดงามได้อย่างลงตัว ถึงแม้ซีรีส์เรื่องนี้นำเสนอเรื่องราวที่ไม่น่าจดจำสักเท่าไหร่ แต่ก็ยังได้รับคำชมอย่างล้นหลาม เป็นเครื่องพิสูจน์ที่เห็นได้ชัดว่า Mr. Sunshine มีความพิเศษมากขนาดไหน

ชนชั้น ชาติกำเนิด เพราะทุกชีวิตควรยืนอยู่บนความเท่าเทียม? 

ชนชั้น เป็นโครงสร้างทางสังคมที่ฝังรากลึกในเกาหลี ไม่เว้นแม้แต่ในยุคสมัยสุดท้ายของโชซอน ซีรีส์ Mr. Sunshine แสดงให้เห็นถึงความขัดแย้งมากมายของคนชาติเดียวกันเองที่ระบบชนชั้นทำให้ค่าของคนไม่เท่ากัน และปัญหาช่องว่างระหว่างชนชั้นยิ่งเข้นข้นเท่าไหร่ ก็ยิ่งสร้างบาดแผลลึกขึ้นไปอีก เมื่อมีชาติอื่นยื่นมาเข้ามาและมอบทางเลือกใหม่ให้กับคนที่อยู่ในชนชั้นต่ำที่สุดให้มีโอกาสขึ้นไปยืนบนจุดที่สูงที่สุดได้

สังคมในสมัยโชซอนถูกแบ่งเป็น 4 ชนชั้น ได้แก่
– ชนชั้นสูงสุด: เชื้อพระวงศ์ ราชตระกูลในราชสํานักรวมทั้งขุนนางชั้นผู้ใหญ่
– ชนชั้นกลาง: กลุ่มอาชีพที่มีความเฉพาะทาง รวมไปถึงข้าราชการระดับกลาง
– ชนชั้นสามัญ: พวกสามัญชน พ่อค้ารายย่อย หรือชาวนา
– ชนชั้นต่ํา: ทาส พวกเต้นรํา นักแสดง คนทรง และคนฆ่าสัตว์

กลุ่มชนชั้นที่สูงที่สุด

ชนชั้นที่สูงที่สุดในสมัยนั้น อ้างอิงตามซีรีส์ Mr. Sunshine ซึ่งเป็นช่วงท้ายของระบอบกษัตริย์ เพราะฉะนั้นชนชั้นที่สูงที่สุดจึงมีทั้งกษัตริย์หรือราชวงศ์เกาหลี ชาติที่เข้ามารุกรานคือญี่ปุ่นและอเมริกา แต่ในความเป็นจริงแล้ว จากเรื่องราวในซีรีส์เราจะเห็นว่ากษัตริย์และราชวงศ์เกาหลีไร้ซึ่งความศรัทธา ไม่มีอำนาจไปต่อกรกับต่างชาติหรือแม้แต่ปกป้องประเทศ ญี่ปุ่นมีอำนาจแทบจะเบ็ดเสร็จ สามารถออกกฎต่างๆ ทำให้เกาหลีตกอยู่ใต้คำสั่งจนกษัตริย์ต้องขอความช่วยเหลือจากอเมริกาและชาติอื่นๆ แต่ก็ไม่เป็นผล คนเกาหลีถูกกดขี่และถูกตราหน้าว่าเป็นชนชั้นต่ำ ถึงแม้จะอาศัยอยู่ในประเทศตัวเองก็ตาม 

กลุ่มที่ทำลายชาติ

ขุนนางและข้าราชการชั้นสูง เป็นกลุ่มคนที่มีอำนาจในการกำหนดทิศทางประเทศ คนชนชั้นนี้มีทั้งคนที่พยายามปกป้องประเทศชาติ และคนที่พยายามทำลาย คนกลุ่มหลังนี้สามารถทำทุกวิถีทางเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นการก่อกบฏ ยุยงปลุกปั่นเหล่าขุนนางด้วยกันเอง หรือกำจัดคนที่พยายามปกป้องประเทศ รวมไปถึงการทรยศแผ่นดินเกิด

ขณะเดียวกัน กลุ่มขุนนางที่จงรักภักดีและหวังดีต่อประเทศชาติกลับถูกกลั่นแกล้ง บางรายต้องเสียชีวิต นั่นก็เป็นเพราะความโลภอันไม่มีที่สิ้นสุดของเหล่าขุนนางที่มองเห็นแต่ประโยชน์และอำนาจของตนเอง

กลุ่มที่ต่อสู้เพื่อชาติ

คนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เป็นคนชนชั้นล่างที่ถูกกดขี่มากที่สุด หนทางเดียวที่จะทำได้เพื่อปกป้องชาติบ้านเกิดคือการต่อสู้ พวกเขายอมแลกด้วยทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตในการต่อสู้ครั้งนี้ แต่ก็ไม่ใช่คนชนชั้นล่างทั้งหมดเสียทีเดียวที่เข้าร่วมขบวนการนี้ ยังมีคนชนชั้นสูงบางกลุ่มที่อยู่เบื้องหลังการต่อสู้นี้ด้วยเช่นกัน ถึงแม้จะมีความสับสนและความขัดแย้งในระหว่างทาง แต่ก็ไม่ได้ทำให้อุดมการณ์ของพวกเขาลดลงแต่อย่างใด

กลุ่มคนที่ถูกทอดทิ้ง

การแบ่งคนชนชั้นในซีรีส์ Mr. Sunshine เป็นสาเหตุของบาดแผลที่แสนเจ็บปวดของคนกลุ่มหนึ่ง พวกเขารู้สึกว่าประเทศนี้ไม่ใช่บ้านเกิดที่เขาจะใช้ชีวิตได้อย่างปกติสุข มิหนำซ้ำกลับทอดทิ้งเขาเสียอีก บางคนจึงระหกระเหินไปใช้ชีวิตอยู่ต่างประเทศ ถึงแม้จะได้กลับมาที่เกาหลี พวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกถึงคำว่า ‘บ้าน’ ในที่แห่งนี้ หรือบางคนที่ไร้โอกาสที่จะเดินทางออกจากบ้านเกิด ก็พยายามหาทางแก้แค้นประเทศที่ทอดทิ้งพวกเขา แต่ลึกๆ แล้วความสำนึกรักและความต่อต้านในชาติบ้านเกิดก็ยังขัดแย้งกันในใจของพวกเขาเอง

Mr. Sunshine กับมิตรภาพที่น่าประทับใจ

Mr. Sunshine เล่าเรื่องราวผ่าน 5 ตัวละครหลัก พวกเขาต่างมีภูมิหลังและลักษณะนิสัยที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง สาเหตุของบาดแผลของบางตัวละครก็เกิดจากหนึ่งในครอบครัวของพวกเขาด้วยกันเอง และสิ่งเหล่านี้มีส่วนทำให้เรื่องราวสมบูรณ์แบบมากขึ้นไปอีก 

ชเวยูจีน (รับบทโดย อีบยองฮอน) 
ชายชาวโชซอนโดยกำเนิด ลูกทาสที่ต้องหลบหนีไปกับเรือขนส่งสินค้าอเมริกันตั้งแต่ยังเด็กเพราะโดนโชซอนทำลายครอบครัว 30 ปีต่อมา เขากลับมาบ้านเกิดอีกครั้งในฐานะชายชาวอเมริกันกับตำแหน่งที่สำคัญทั้งทางการทหารและการทูต การกลับมาครั้งนี้สร้างคำถามสำคัญให้กับตัวเขาเองว่าแท้จริงแล้วเขาคือ ‘ใคร’ และที่ไหนคือ ‘บ้าน’ ของเขา

โกแอชิน (รับบทโดย คิมแทรี) 
หญิงชนชั้นสูง หลานสาวเพียงคนเดียวของตระกูลขุนนาง ถึงแม้จะมีทุกอย่างเพียบพร้อมและไม่ได้มีความเดือดร้อนอะไร แต่ด้วยความที่สามารถเข้าถึงและรับรู้ความเป็นไปของประเทศชาติมากกว่าคนอื่นๆ เธอจึงคอยสอดส่องสถานการณ์บ้านเมืองอยู่ตลอด และเป็นด่านหน้าในการปกป้องชาติด้วยเช่นกัน

คิมฮีซอง (รับบทโดย บยอนโยฮัน) 

คู่หมั้นของโกแอชิน ชายหนุ่มตระกูลผู้มีอันจะกิน เติบโตอยู่ญี่ปุ่นและกลับมายังโซชอนตามคำสั่งของพ่อแม่ ชายหนุ่มเสเพลได้พบจุดมุ่งหมายในชีวิตหลังจากได้เจอกับโกแอชิน และกลายเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องชาติ แถมยังมีปมในใจเกี่ยวกับครอบครัวตัวเองในอดีตที่ได้สร้างบาดแผลให้กับคนอื่น เขาจึงพยายามที่จะแก้ปมนั้นอย่างดีที่สุด

กูดงแม (รับบทโดย ยูยอนซอก) 

ซามูไรนักดาบ ลูกชายครอบครัวค้าเนื้อที่ถูกดูแคลนว่าเป็นชนชั้นต่ำยิ่งกว่าทาสด้วยซ้ำ เขาถูกเหยียดหยามจนตัดสินใจหนีไปญี่ปุ่นและได้เข้าร่วมแก๊งซามูไร ต่อมาได้กลับมาเหยียบแผ่นดินบ้านเกิดในฐานะหัวหน้าแก๊งนักดาบผู้เลือดเย็น เขาไม่ได้มีความรู้สึกดีที่ได้กลับมาบ้านเกิดแม้แต่น้อย เพราะโชซอนสร้างบาดแผลในใจให้เขามากมาย

คุโดะ ฮินะ (รับบทโดย คิมมินจอง) 

คิมมินจอง หรืออียังฮวา หญิงสาวชาวโชซอน ถูกพ่อผู้มีอำนาจบังคับแต่งงานกับชาวญี่ปุ่น หลังจากสามีตายเธอจึงกลับโชซอนและเปิดโรงแรมชื่อ Glory เป็นที่พักสำหรับทหารต่างชาติที่เข้ามาโชซอนในสมัยนั้น ดูภายนอกเธอเหมือนจะไม่ได้มีบทบาทในการกอบกู้ชาติมากนัก แต่แท้จริงแล้วเธอเป็นหนึ่งในตัวแปรสำคัญด้วยเช่นกัน

ถึงแม้พวกเขาทั้งห้าจะมีความแตกต่างและความขัดแย้งระหว่างกัน แต่มิตรภาพที่เกิดขึ้นระหว่างทั้งห้าคนนั้นดีมากๆ เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของเรื่องที่ผู้เขียนประทับใจเลย เรื่องราวได้เล่าถึงปมของแต่ละคน และคล่อยๆ คลายปมเหล่านั้นด้วยเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นได้อย่างลงตัว ถึงแม้ตัวละครจะมีความขัดแย้งในตัวเองหรือระหว่างกันเองก็ตาม

องค์ประกอบที่สมบูรณ์แบบ 

Mr .Sunshine เป็นการกลับมารับงานซีรีส์ในรอบเกือบ 10 ปีของอีบยองฮอน นักแสดงเบอร์ใหญ่ของเกาหลีที่ผ่านงานระดับฮอลลีวูดมาแล้ว และเป็นซีรีส์เรื่องแรกของคิมแทรีที่เดินสายภาพยนตร์เป็นส่วนใหญ่ พร้อมกับอีก 3 นักแสดงหลัก พ่วงด้วยนักแสดงสมทบระดับแนวหน้าอีกหลายคน เรียกได้ว่าเป็นซีรีส์รวมดาวอีกเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้

มาทางฝั่งเบื้องหลังกันบ้าง ซีรีส์เรื่องนี้เป็นผลงานของนักเขียน คิมอึนซุก เจ้าของผลงานชื่อดังอย่าง Goblin (2016), Descendants of the Sun (2016), The Heirs (2013) และ Secret Garden (2010) โดยเรื่องนี้เธอได้ถ่ายทอดเรื่องราวประวัติศาสตร์รวมเข้ากับความรักโรแมนติกแนวที่ถนัดได้อย่างลงตัว อีกทั้งยังได้ผู้กำกับคู่บุญอย่าง อีอึงบก ที่เคยร่วมงานกันใน Descendants of the Sun และ Goblin และพาทั้งสองเรื่องติดท็อปซีรีส์ชื่อดังที่ไม่ว่าใครก็ต้องรู้จัก และสำหรับ Mr. Sunshine นั้นผลตอบรับก็ดีตามคาดเช่นกัน 

งานภาพ แสง สี องค์ประกอบฉาก ของซีรีส์ Mr. Sunshine สวยงามอลังการไม่แพ้กัน ทำให้รู้สึกเหมือนได้เสพงานศิลป์ดีๆ สักชิ้น คอสตูมนักแสดงมีทั้งชุดฮันบก ชุดกิโมโน สูทแบบตะวันตก หรือเครื่องแบบทหารที่เรียกได้ว่าจัดเต็ม ถึงแม้จะมีความแตกต่าง แต่เมื่อนำมาอยู่ในฉากเดียวกันกลับงดงามลงตัว 

การถ่ายทำก็ได้ทุ่มทุนสร้างกว่าพันล้านบาท ยกกองไปถ่ายทำกันในหลายจังหวัด แถมยังเนรมิตเมืองขึ้นมาใหม่ทั้งเมือง ยิ่งไปกว่านั้นคือสตูดิโอใช้ถ่ายทำที่เมืองนนซาน จังหวัดชุงชอนใต้ ยังเปิดให้เข้าชมอีกด้วย ใครที่ยังอินและประทับใจกับซีรีส์เรื่องนี้ก็สามารถไปตามรอยกันได้

การแสดงของนักแสดงทุกคนที่ละเอียดลออ ทั้งตัวละครหลักที่ทำให้เราเห็นใจและเอาใจช่วย หรือตัวร้ายที่ร้ายจนเราสาปส่ง บวกกับฝีมือของนักเขียน ผู้กำกับ และองค์ประกอบต่างๆ ที่ประณีตสวยงาม เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ผู้ชมออกปากเป็นเสียงเดียวกันว่าสมบูรณ์แบบไร้ที่ติ

ป้ายยา ทำไมต้องดู Mr. Sunshine  

ขอมัดรวมสั้นๆ ฉบับย่อยง่ายให้ทุกคนได้เข้าใจว่าทำไม ‘ต้อง’ ดูซีรีส์เรื่องนี้

– เป็นเหตุการณ์ที่ผู้คนอยากจะลืม หน้าประวัติศาสตร์ที่ไม่ค่อยถูกนำเสนอนัก แต่เรื่องนี้สามารถทำออกมาได้ดี ใครที่เป็นสายประวัติศาสตร์รับรองว่าต้องชอบ
– เส้นเรื่องความรักโรแมนติกที่รวมเข้ากับประวัติศาสตร์อย่างลงตัว 
– เรื่องราวมิตรภาพของตัวละครภายใต้ความขัดแย้งที่ถูกออกแบบมาอย่างดี 
– ทักษะการแสดงที่ยอดเยี่ยมของนักแสดงมากฝีมือทั้งหลาย บวกกับนักเขียนและผู้กำกับเจ้าของผลงานที่การันตีฝีมือ การรวมตัวครั้งนี้ไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน 
– องค์ประกอบที่จัดเต็ม ฉาก แสงสี และคอสตูมสุดอลังการ ทำให้เรื่องนี้ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นซีรีส์งานศิลป์ที่ยอดเยี่ยมอีกหนึ่งเรื่อง 

ส่วนตัวผู้เขียนได้ดู Mr. Sunshine เรื่องนี้ช่วงออนแอร์ เมื่อดูจบก็ยกให้เป็นซีรีส์อันดับหนึ่งในใจทันที หลังจากนั้นก็วนดูอีกหลายรอบและแนะนำให้คนรอบข้างอีก ทุกคนที่ได้ดูต่างก็ยกให้ซีรีส์เรื่องนี้เป็นหนึ่งในซีรีส์เรื่องโปรดเช่นกัน ดูซีรีส์ให้ซีเรียส จึงอยากขอมาป้ายยาให้คนที่ยังไม่ได้ดูหรือยังลังเลอยู่ได้เปิดใจดู 

พูดมาขนาดนี้แล้ว หลังจากอ่านบทความนี้จบ แนะนำให้เปิด Netflix ดูได้เลย แล้วจะพบว่า  Mr. Sunshine ที่ทุกคนต่างบอกว่าเป็นงานมาสเตอร์พีซนั้น เหมาะสมกับคำนี้มากแค่ไหน

อ่านต่อ: Mr. Sunshine เรื่องรักระหว่างรบ สงครามเกาหลี-ญี่ปุ่น | ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ซีซัน 2 EP.2

เรื่องโดย  ธัญฐรัตน์ โกมลวัฒน์
อ้างอิง scmp.com, ru.ac.th, koreatimes.co.kr