Extraordinary Attorney Woo EP.15-16 เลือกที่จะภักดีต่อลูกความ หรือผลประโยชน์ต่อสาธารณะ
Extraordinary Attorney Woo EP.15-16 สองตอนสุดท้ายของซีซันแรกจบไปเป็นที่เรียบร้อยเมื่อคืนที่ผ่านมา (18 สิงหาคม) โดยเนื้อหาเล่าถึงคดีการรั่วไหลของข้อมูลผู้ใช้งานแอปพลิเคชั่นราอน ซึ่งก่อให้เกิดการฟ้องร้องมากกว่า 3 แสนล้านวอน เท่ากับการล้มละลายของบริษัทช้อปปิ้งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของเกาหลี ครอบคลุมผู้ใช้งานกว่า 40 ล้านคน หรือกว่า 80% ของประชากรเกาหลี
ต้นเรื่องของคดีคือการที่บริษัทราอนแจ้งความว่าถูกเจาะข้อมูลจากแฮ็กเกอร์ที่ไม่สามารถตามหาตัวได้ จากนั้นได้ลงประกาศในเว็บไซต์ว่าข้อมูลของผู้ใช้งานรั่วไหลไปจากการถูกแฮ็กข้อมูลดังกล่าว อินชอล และชานฮง ผู้ก่อตั้งแอปพลิเคชั่นราอน ได้มาขอให้สำนักงานกฎหมายฮันบาดาช่วยเหลือ เพราะนี่คือเส้นชี้เป็นชี้ตายของอนาคตบริษัทที่พวกเขาสร้างขึ้นมาจากจุดเริ่มต้นเพียงแค่สองคน
ส่วนประเด็นแวดล้อมตัวละครอูยองอูก็ยังคงดำเนินต่อไป ทั้งความค้างคาเรื่องความสัมพันธ์กับอีจุนโฮ, ปมเรื่องแม่ที่ยังไม่เปิดเผย, พ่อที่พบศึกหนักจากเงื่อนไขของประธานฮันบาดา, อาการบาดเจ็บของทนายจองมยองซอก และเพื่อนร่วมทีมที่ดูเหมือนจะกลับตัวกลับใจ สังคมยังให้อภัย
ซึ่งจริงๆ แล้วทุกปมปัญหาล้วนยืนอยู่บนทางแยกที่มีสองเส้นทางให้เลือกคล้ายๆ กัน และซีรีส์ Extraordinary Attorney Woo ก็เลือกการเดินทางที่เหมาะสมให้กับทุกตัวละคร จนนำพาให้ซีรีส์ ตัวละคร และเรื่องราวที่เราผูกพันมาตลอด 2 เดือนกลายเป็นที่รักของผู้คนมากมาย
ดูซีรีส์ให้ซีเรียส จะพาทุกคนลงไปตรงทางแยกของแต่ละตัวละครเพื่อตรวจสอบรายละเอียดอีกครั้ง เพราะคุณก็รู้ว่าเรามันเป็นแฟนซีรีส์ที่ซีเรียสนั่นแหละ
อินชอล ชานฮง เมื่อจำนวนเงินมีค่ามากกว่าอุดมการณ์ตั้งต้น
กรณีบริษัทราอน น่าจะเป็นตัวอย่างสุดคลาสสิกในสังคมสมัยใหม่ที่ธุรกิจในเริ่มก่อตั้งต่างมีอุดมการณ์และความเชื่อไว้ยึดถือ แต่พอยิ่งลงไปในตลาดจริง การแข่งขัน ความไว การก้าวขึ้นเป็นที่หนึ่ง ในบางครั้งก็ทำให้เราละวางอุดมการณ์เหล่านั้น พร้อมๆ กับการบอกตัวเองว่า “เอาไว้ก่อน” หรือ “อุดมการณ์กินไม่ได้ แต่เงินซื้อข้าวได้” เป็นต้น ยิ่งบริษัทราอนประสบความสำเร็จจนกลายเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับประเทศ อุดมการณ์ที่เคยวางไว้ เราก็ไม่แน่ใจว่ามีใครสักคนหยิบมันขึ้นมาปัดฝุ่นหรือยัง
ปัญหาระหว่าง CEO อย่างอินชอลที่ต้องการสร้างผลกำไรให้มากยิ่งขึ้นไปกว่าเดิม โดยอาจละเลยการพัฒนาด้านอื่นๆ กับ CTO อย่างชานฮง ที่หวังว่าเพื่อนจะยังคงยึดถืออุดมการณ์ในการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อให้ราอนเป็นแอปพลิเคชั่นเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง ความขัดแย้งนี้กลายเป็นประเด็นสำคัญที่สุดท้ายบานปลายไปเกินกว่าที่ใครจะคาดคิด
แทซูมี กับโอกาสครั้งที่สองในการเป็นแม่ที่ดี
นับเป็นฉากที่ทัชใจมากในซีรีส์ Extraordinary Attorney Woo กับการที่อูยองอูเกลี้ยกล่อมประธานแทซูมีให้เห็นความเป็นจริงที่เธอเองยึดถือมาตลอด ความยุติธรรมที่อยู่ในสายเลือด การทำผิดและยอมรับผิดที่แม่ ลูกสาว ลูกชาย เชื่อในกันและกันมาตลอด
ดังนั้นบนทางแยกที่แสนยากลำบากนั้น แทซูมีที่เหลืออีกไม่กี่วันจะได้เป็นรัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรม กับการเป็นแทซูมี แม่ที่ลูกๆ ยึดถือได้ เป็นทางเลือกที่น่าคิดว่าเธอจะก้าวเท้าไปบนทางเดินไหน เพราะถ้าเราลองสวมตัวเองลงไปในตัวละครนี้ ก็คงยากที่จะตัดสินใจเหมือนกัน กับความก้าวหน้าในสถานะทางสังคมที่จะช่วยเหลือคนอื่นได้อีกมากมาย กับการสร้างแผลในใจให้ใครบางคน ที่อาจเติบโตเป็นคนดีหรือเลวได้เพียงแค่พลิกฝ่ามือ
อูยองอู กับทางเลือกที่จะหนีหรือเผชิญหน้า
ด้วยความรักและความห่วงใยที่ทำให้ประธานแทซูมียื่นข้อเสนอให้อูยองอูและพ่อไปทำงานที่สำนักงานสาขาบอสตัน ขณะที่ประธานฮันบาดาก็ยื่นข้อเสนอให้คู่พ่อลูกหลบไปพักร้อนในชนบทสัก 2-3 เดือน
อูยองอูกลับเลือกในเส้นทางที่แตกต่าง เราเข้าใจว่ากว่าที่อูยองอูจะตอบคำถามของพ่อออกมา คงใช้เวลาในการเรียบเรียง ตรวจสอบความรู้สึก และวิเคราะห์ข้อดี-ข้อเสียไว้ในหัวแล้ว ในความเป็นไปได้มากมายเหล่านั้น จริงอยู่ว่าอาจจะดีกับตัวอูยองอูเองในระยะสั้น แต่ในระยะยาวล่ะ? มันจะกลายเป็นบาดแผลที่ไม่อาจรักษาหรือเปล่า และแม้ว่าจะหนีหายไปจากข่าวร้อนๆ ที่เกิดขึ้นตรงหน้า ก็ใช่ว่าตัวเราเองจะไม่รู้สึก ไม่ว่าอยู่บอสตัน หรือหนีหายไปจากพื้นผิวโลกได้ ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รับรู้และไม่วิตกกังวล
ฟังก์ชั่นความคิด ประสบการณ์ที่ได้รับ หรืออะไรก็ตาม คงบอกอูยองอูว่าต้องเผชิญหน้าให้จบ แล้วเราจะเดินหน้าต่อไปได้อย่างสง่างาม อย่างที่อูยองอูบอกเอาไว้ว่า
“ชีวิตฉัน แม้จะแปลกและแตกต่าง แต่ก็มีค่าและงดงาม”
อีจุนโฮ เลือกที่จะรักข้างเดียว หรือยอมเป็นทาสแมวที่แท้ทรู
อีจุนโฮกับความสัมพันธ์กับอูยองอูที่ค้างคามาตั้งแต่อีพีก่อนหน้า เมื่อเธอบอกกับเขาว่า “เราอย่าคบกันเลยค่ะ” นั่นเป็นเพราะเธอรู้แล้วว่าการคบกับเธอ จุนโฮจะต้องเหงาเพียงลำพัง เพราะโลกของเธอมีเพียง งาน วาฬ นั่นทำให้จุนโฮเองก็ค่อนข้างตกใจที่รู้ว่าอูยองอู เข้าใจสิ่งที่เขายังกังวลข้างในจิตใจ
ใน EP.16 อีจุนโฮกลับมาหาอูยองอูอีกครั้งอย่างมั่นใจ หลังจากไปตกตะกอนกับความรู้สึก ความคิด ความสัมพันธ์มาแล้ว ฉากการพูดคุยในรถหน้ารัฐสภาจึงเป็นการสารภาพความในใจที่งดงาม เปรียบเทียบได้เข้าใจง่าย และยังคงความสัมพันธ์ที่ไม่สัมผัสตัวกัน จนทำให้คนดูอินเป็น #ทีมทาสแมวที่แท้ทรู กันไปหมดแล้ว
“ความรู้สึกผมที่มีต่อคุณทนาย มันเหมือนกับรักข้างเดียวที่มีให้แมวครับ
บางครั้งน้องแมวก็ทำให้เจ้าของรู้สึกเหงา แต่น้องก็ทำให้มีความสุขพอๆ กันครับ
เวลาที่กินข้าวเที่ยงกับคุณทนาย แล้วก็ฟังเรื่องวาฬไปพร้อมกัน
เวลาเราทำตามลิสต์การเดตแปลกๆ ที่คุณทนายคิดมาไปทีละอย่างๆ
เวลาที่ผมจับมือกับคุณทนายในเวลา 57 วิ
เวลาที่เราจูบแล้วฟันชนกัน
เวลาที่ผมมองแววตาที่เป็นประกายในตอนที่คุณทนายนึกอะไรดีๆ ออก
เวลาที่ผมทำให้คุณทนายสงบได้ด้วยการกอดแน่นๆ ในตอนที่คุณรู้สึกไม่ปลอดภัย
ผมมีความสุขนะครับ
เพราะงั้นเรา… อย่าเลิกกันเลยนะครับ”
ควอนมินอู คนฉลาดเอาตัวรอด หรือคนโง่ที่ยิ้มได้
โดยส่วนตัว เส้นทางของควอนมินอูน่าสนใจมากๆ และน่าจะใกล้เคียงชีวิตจริงผู้คนในสังคมทุกวันนี้ได้จริงด้วยเช่นกัน คนคนหนึ่งที่ผ่านร้อนหนาว ผ่านความไม่ยุติธรรม เรียนรู้จากประสบการณ์เพื่อที่จะพาตัวเองรอดพ้นและเติบโตได้ ท่ามกลางความยากลำบากของชีวิต ควอนมินอูพาตัวเองมาเป็นทนายความในสำนักงานกฎหมายยักษ์ใหญ่ได้ ก็ต้องเรียกว่าเป็นคนฉลาดในการใช้ชีวิตอย่างมาก
การที่ช่วงแรกของซีรีส์ Extraordinary Attorney Woo เขาทำอะไรที่ขัดหูขัดตาเยอะมาก แต่ถ้ามองให้ดีๆ มันก็อาจเป็นผลอย่างเดียวกับวัฒนธรรม “ดีครับท่าน ทันครับผม เหมาะสมครับเจ้านาย” อย่างที่เราคุ้นเคยกันหรือเปล่า
จริงๆ แล้วสิ่งที่พวกเขาทำอยู่ก็ไม่ใช่เรื่องผิดบาป เพราะมันคือความฉลาดในการเอาตัวรอด แต่วันไหนที่คนเหล่านี้ลุกขึ้นมาเป็นตัวของตัวเอง เพียงแค่ครึ่งหนึ่งของที่เป็นอยู่ ก็คงสร้างความแตกต่างให้สังคมได้มหาศาล และซีรีส์เรื่องนี้ได้พยายามบอกคนดูเอาไว้อย่างนั้น การเลือกเป็นคนที่แตกต่าง การเลือกเป็นคนโง่ การเลือกเป็นคนที่ภาคภูมิในตัวเองได้ ไม่ใช่สิ่งที่น่ารังเกียจ ก็คงเหมือนกับควอนมินอูที่ได้เรียนรู้ในปีแรกของการทำงานที่ฮันบาดาแล้วว่าการรวมพลังกันเพื่อผลักดันสังคมไปข้างหน้า ไม่ใช่แค่ปรับเปลี่ยนโลกให้น่าอยู่ แต่กับตัวเขาเองก็รับรู้ได้ถึงความปลื้มใจที่เป็นหนึ่งในแรงผลักดันนั้น
จองมยองซอก จงรักภักดีต่อลูกความ หรือผลประโยชน์ต่อสาธารณะ
ความเด็ดขาดของ Extraordinary Attorney Woo EP.15-16 ก็คือการโยนคำถามสุดคลาสสิกว่าเราจะบาลานซ์อย่างไร ระหว่างผลประโยชน์ต่อลูกความ หรือผลประโยชน์ต่อสาธารณะ ซึ่งเป็นปัญหาระดับชาติไม่เฉพาะแต่ทนายในเกาหลี
ซึ่งจองมยองซอกเองก็ตอบคำถามนี้ให้กับอูยองอูได้อย่างตรงไปตรงมา ว่าตัวเขาเองเป็นทนายของฮันบาดามาเกือบ 20 ปี เพราะฉะนั้นเขาบอกได้ว่า เขาเลือกจะรักษาผลประโยชน์ของลูกความ แต่สำหรับ “อูยองอู ที่แตกต่างจากทนายทั่วไป” ย่อมจะเลือกทางที่แตกต่างได้ ไม่จำเป็นต้องเหมือนเขา แต่อูยองอูรู้ว่าตัวเองจะเลือกเส้นทางเดินไหน
แต่สุดท้ายด้วยความเป็นอูยองอู ทนายอัจฉริยะ เธอก็เลือกเส้นทางที่บาลานซ์ทุกอย่างเอาไว้ด้วยกัน โดยเน้นย้ำที่ความถูกต้องเที่ยงธรรมที่สุด และผลประโยชน์ต่อสารธารณะยังคงชัดเจน
การทำงานของอูยองอูใน EP.15-16 นี้แสดงให้เห็นว่า เมื่อเกิดปัญหาหนึ่งขึ้น มีทางออกของปัญหาอยู่มากมาย แต่ทางไหนคือทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งการจะพบทางแก้ปัญหาที่ดีที่สุดได้นั้น ไม่ใช่การนั่งอยู่เฉยๆ แล้วรอสิ่งเหนือธรรมชาติจัดสรร แต่คือการตั้งใจศึกษาลงลึกในรายละเอียด ตรวจสอบทุกความเป็นไปได้ และวางตัวเองไว้ตรงกลางตาชั่งที่จะไม่โอนเอียงไปข้างใดข้างหนึ่ง แม้ว่าฝ่ายหนึ่งจะเป็นลูกความของเธอเอง ฝ่ายหนึ่งจะเป็นครอบครัว หรือเป็นคนที่สำคัญกับชีวิตของเธอก็ตาม