Money Heist: Korea ว้าวไม่สุด แต่ไม่หยุดดู รีวิวจากใจแฟนซีรีส์ เวอร์ชันสเปน

***บทความนี้เปิดเผยเนื้อหาของซีรีส์บางส่วน***

บอกก่อนเลยว่าถ้าใครที่ไม่เคยดู Money Heist เวอร์ชันสเปน แล้วมาเริ่มที่ Money Heist: Korea – Joint Economuc Area เลย อาจจะรู้สึกชอบ รู้สึกตื่นตาตื่นใจไปกับแผนการปล้นโรงกษาปณ์ และการรับมือของศาสตราจารย์ กับเหล่าโจรที่คิด-เตรียมการมาพร้อมต่อกรกับพวกตำรวจ ไว้แบบเตรียมทุกทางหนีทีไล่ ทุกแพลน A B C D หรือ Worst Case Scenario ทุกรูปแบบ 

แต่สำหรับคนที่เคยดู Money Heist เวอร์ชันต้นฉบับมาแล้ว แล้วหลงรักตัวละครทุกๆ ตัว มันก็ยากที่จะไม่คิดเปรียบเทียบ เพราะการที่ Money Heist: Korea จั่วหัวว่าเป็นรีเมก ก็หมายถึงว่าจะต้องมีการนำพล็อตหลัก ตัวละคร แผนการ รวมถึงการจัดวางในองค์ประกอบที่คล้ายกัน ซึ่งพอได้ดูครบทั้ง 6 อีพีก็ต้องบอกเลยว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ได้ว้าวมากนัก แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ได้แย่จนเกินจะไม่เปิดใจดู แอบโกรธก็ตรงที่ไม่มี Bella Ciao เพลงปลุกใจอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีส์ให้ได้ฟัง 

เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงการเปรียบเทียบอย่างจังๆ ทีมเกาหลีได้มีการเพิ่มกิมมิกการควบรวมของประเทศเกาหลีเหนือ-เกาหลีใต้ เกิดเป็นเขตเศรษฐกิจร่วม JEA มีการใช้เงินสกุลเดียวกัน และเป็นจุดที่ทำให้เกิดการวางแผนปล้นเงินเหล่านี้ 

ด้วยความต่างของเกาหลีเหนือและใต้ ทั้งสังคม ความคิดทางการเมือง อุดมการณ์ต่างๆ ทำให้เห็นว่าถึงแม้จะรวมประเทศแล้วก็ยังมีความขัดแย้งทางความคิดอยู่ ซึ่งก็จะเห็นได้ชัดมากๆ ในการปฏิบัติหน้าที่ของกองกำลังพิเศษที่ต้องมีทั้งเหนือและใต้มาร่วมทีมกัน ประเด็นนี้ช่วยสร้างความวุ่นวายได้ดี และคิดว่าความแตกต่างของเหนือใต้ยังทำให้ซีรีส์รีเมกนี้ไปต่อได้ เพราะโจรและตัวประกันก็มีคนจากทั้งเหนือ-ใต้ จะทำยังไงให้คนที่มีความคิดแตกต่างยอมคล้อยตามและอยู่ข้างโจร

ในส่วนของตัวละคร ต้องบอกว่านี่อาจจะเป็นจุดใหญ่ที่ทำให้ Money Heist: Korea ไม่ค่อยสร้างความรู้สึกเอาใจช่วยเหล่าโจรเกาหลีเท่าไหร่ พูดได้เลยว่าถ้าไม่ได้ดูสเปนมาก่อน เราคงไม่รู้สึกอะไรกับโจรพวกนี้เลย ยกเว้นเบอร์ลินและไนโรบีที่ทำให้คิดถึงโจรสเปนมากจริงๆ ต้องยอมรับว่าความรักในตัวละครสเปนทำให้เราดูโจรเกาหลีต่อจนจบ

ปัญหาหลักๆ ของ Money Heist: Korea คือไม่ได้ดึงดูดคนดูเข้าไปอินร่วมขนาดนั้น  อาจจะด้วยความที่เราไม่ใช่คนเกาหลีที่อยู่ในพื้นฐานทางสังคมและการเติบโตแบบเดียวกัน แต่การเพิ่มภูมิหลังและเปลี่ยนแปลงรายละเอียดต่างๆ ที่แตกต่างจากต้นฉบับเป็นเรื่องที่ดี และวิธีการเล่าโคตรจะเกาหลี แต่ถ้าเปรียบเทียบกับต้นฉบับ มันก็อาจทำให้ความสัมพันธ์แน่นแฟ้นและความเป็นทีมเวิร์กของทีมโจรหายไป

ยกตัวอย่างให้เห็นชัดๆ ต้นฉบับเบอร์ลินและโปรเฟสเซอร์เป็นพี่น้องกัน ช่วยกันวางแผนมาตั้งแต่ต้น ไม่ใช่แค่โปรเฟสเซอร์ที่รู้แผนการทั้งหมดอยู่คนเดียว ซึ่งพอเกาหลีเอามารีเมก กลายเป็นว่าเบอร์ลินเป็นนักโทษเกาหลีเหนือและดูมีความคิดไม่ค่อยไปทางเดียวกันกับโปรเฟสเซอร์หน่อยๆ ซึ่งในพาร์ตแรกก็ยังไม่เปิดเผยภูมิหลังของเบอร์ลินและโปรเฟสเซอร์ แต่สำหรับ 6 อีพีนี้รู้สึกว่าตัวละครเวอร์ชันเกาหลีขาดเสน่ห์ดึงดูดไปเยอะเหมือนกัน

น่าจะเป็นเพราะว่าการเล่าเรื่องที่รวดเร็วด้วย เร็วจริง แต่ไม่ไต่กราฟ เป็นเส้นตรง นิ่งๆ จนผิดแผนถึงจะรู้สึกตื่นเต้นมานิดนึง แต่ส่วนตัวรู้สึกว่ามันตัดฉับๆๆ เรายังไม่ทันได้รู้จักใครเลยก็เข้าไปในโรงกษาปณ์แล้ว ยึดแล้ว พิมพ์แบงค์แล้ว ยิงแล้ว และกำลังจะออกมาแล้ว 

เราไม่เห็นปฏิสัมพันธ์ของทีมโจร หรือการดื่มด่ำหลงระเริงไปกับเงินทองที่ตัวเองทำตามแผนได้เท่าไหร่ ไม่ค่อยเล่าให้เห็นถึงแผนการปล้นและการหนีออกมาเท่าไหร่นัก โดยเฉพาะฉากที่มอสโคบอกว่าขุดจนเจอดินแล้ว สำหรับคนที่ดูต้นฉบับมาก็คงรู้ว่านี่แหละทางหนี และต้นฉบับเล่าไว้ละเอียดกว่านี้ แต่ในเวอร์ชันเกาหลีไม่ได้เน้นหรือพูดถึงมากขนาดนั้น เพราะเนื้อเรื่องส่วนใหญ่เทไปที่ตัวประกันสุดป่วนอย่างผู้อำนวยการโรงกษาปณ์ ทำให้สัดส่วนที่เล่าถึงแผนการปล้นน้อยมาก ซึ่งการให้น้ำหนักตรงนี้น้อย ส่งผลถึงการเอาใจช่วยโจรของเรามาก 

อีกสิ่งหนึ่งที่ค่อนข้างทำให้ไม่ว้าว เพราะโจรดูใจดีเกินไป ฟีลแบบ ‘ขออนุญาตปล้นนะครับ’ มันไม่ค่อยดุดันหรือดิบเถื่อน ริโอก็ฟีลเด็กน้อยแบบเด็กเลย ในขณะที่ต้นฉบับจะไม่ได้เด็กขนาดนี้

ส่วนโตเกียวเวอร์ชันเกาหลีแค่ห้าว ยังไม่เห็นมุมแสบ นิสัยเสีย หัวร้อน ตัวละครอย่างเฮลซิงกิ ออสโล แทบไม่มีบทบาท

ส่วนเดนเวอร์ดีเลย มีการตีความสร้างภาพจำเสียงหัวเราะของตัวเอง พร้อมความซื่อจนลุ้นตามไปด้วย

ไนโรบีมาน้อยแต่มาแน่น ได้กลิ่นเจ๊ใหญ่ตามต้นฉบับ ส่วนเบอร์ลินขึ้นหิ้งไปเลย ที่สุดของการแสดง เก็บรายละเอียดได้ดีมากๆ ความเนี้ยบ ความมั่นในตัวเอง โรคจิตหน่อยๆ น่ากลัว เดาทางไม่ได้ เป็นงานแสดงของพัคแฮซูที่เปลี่ยนตัวตนไปเลยอีกครั้ง อันนี้ขอเชิดชู

ส่วนโปรเฟสเซอร์ก็มีความคล้าย แต่จะซอฟต์ลง ยังไม่ค่อยเห็นความเป็น Perfectionist หรือคนคุมเกม เวลาโมโหเลยจะต่างจากต้นฉบับสักหน่อย แต่ก็ถือว่าดีเลย

ในส่วนของงานภาพ ภาพสวยสะอาดตาแบบเกาหลี แต่มันดูไม่ค่อยสมจริง โดยเฉพาะห้องเก็บเงินที่ดูไม่เข้ากับโรงกษาปณ์ แล้วแอบสงสัยว่าข้างในมันมีหลายชั้นขนาดนั้นเลยหรือ ทั้งๆ ที่ข้างนอกดูเหมือนจะไม่ได้สูงมาก แล้วก็งานเมคอัพทั้งโจรทั้งตัวประกันคือสวยสะบัด ไม่โทรมเลย ดูไม่สมจริง นี่ปล้นอยู่รึเปล่า

โดยสรุปรวมๆ Money Heist: Korea ถือว่าโอเค ไม่แย่ ไม่ว้าว ดูเรื่อยๆ มีได้ลุ้นบ้างบางช่วง แต่สุดท้ายเราที่เป็นแฟนเวอร์ชันสเปนก็ดูจนจบ

เรื่องโดย อภิชญา จิราพงษ์