Hospital Playlist 2 EP.9 เพราะในเรื่องแย่ๆ ก็ไม่ใช่จะมีแต่เรื่องแย่ๆ แบบนั้น

Hospital Playlist 2 EP.9 เป็นอีพีที่อิ่มอุ่นในความรู้สึกและเต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ ซึ่งเป็นการพิสูจน์แล้วว่าพีดีชินวอนโฮ นักเขียนอีอูจอง รวมถึงทีมนักแสดง ทุกคนเก่งมากในการทำให้เราดูซีรีส์แบบน้ำตาปริ่มอยู่ดีๆ ก็ต้องหัวเราะแบบคุมตัวเองไม่อยู่

และเป็นอีพีสำคัญที่คลี่คลายความรู้สึกหลากหลาย โดยเฉพาะทีมเรือหลวงอิกซง ทีมนกพิราบ แฟนคลับหมอชูชู และแฟนคลับอินเทิร์นหน้าใหม่ไฟแรง จะบอกว่าอีพีนี้สีชมพูก็ไม่ผิดแต่อย่างใด (ก่อนที่อีพีต่อไป เรายังไม่อาจรู้ชะตากรรมใดๆ ได้แน่ชัด)

“เธอสบายดีไหม” “ฉันก็เรื่อยๆ”

อิกจุน กามเทพแห่งโรงพยาบาลยุลเจ ได้ทำหน้าที่สำคัญอีกครั้ง เมื่อเขารู้แล้วว่าระหว่าง อิกซุน น้องสาวคนเดียว กับ จุนวาน เพื่อนสนิทสมัยมัธยม ยังคงมีความรู้สึกลึกซึ้ง และยังไม่ลืมกันและกัน

เมื่อเกิดเหตุให้แผลงศรได้ เขาจึงไม่ลังเลที่จะจัดฉากการพบกันในรอบกว่าหนึ่งปีของอิกซุนและจุนวาน บนรถทัวร์สายชางวอน-โซล รอบเที่ยงคืน

ทำไมต้องเป็นรอบเที่ยงคืน ซึ่งเป็นรอบสุดท้ายของวันนั้น?

สำหรับคู่อิกซุน-จุนวาน ถ้าตามทฤษฎีแล้ว อิกซุนเป็นตัวแทนของฤดูร้อน/พระอาทิตย์ อย่างที่เราจะได้เห็นพวกเขามักพบกันตอนเช้าตรู่ที่พระอาทิตย์เพิ่งขึ้น หรือช่วงก่อนพระอาทิตย์จะตก

ซึ่ง ‘เที่ยงคืน’ คือสัญลักษณ์การเปลี่ยนผ่านของวัน เวลาแห่งการเริ่มต้นของวันใหม่ การรีเซ็ตอะไรใหม่ๆ ให้เกิดขึ้น ซึ่งเป็นไปได้สูงว่านี่คือการเริ่มต้นใหม่อีกครั้งระหว่างพวกเขา

เวลาเกือบ 4 ชั่วโมงบนรถทัวร์ระหว่างชางวอนบ้านเกิดของพวกเขาไปยังโซล เป็นช่วงเวลาที่น่าตกใจ ดีใจ ไม่คาดฝัน มีความหวัง ปนเปกันไปมา จนมองเห็นผ่านสีหน้าของพวกเขาชัดเจน และบทสนทนาที่เกิดขึ้นเมื่อรถทัวร์มาถึงโซลก็ดูเหมือนเรื่องจริงที่เกิดขึ้นได้ ด้วยบทพูดที่ไม่ฟูมฟาย ตรงไปตรงมาอย่างที่อยากรู้ที่สุดว่าเขาคนนี้สบายดีไหม และมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเรากันแน่

“สบายดีไหม”
“อืม พี่ล่ะ”
“ก็เรื่อยๆ”
“ฉันอยากเจอเธอนะ ปฏิเสธก็ได้ ถ้าลำบากใจ
ฉันอยากให้เรามาเจอกัน แล้วคุยกันสักแป๊บ”

หมอชูชู สู้สู้นะ!

รอยยิ้มของซอกฮยองตอนรับไอศกรีมจากมินฮา แล้วยิ้มอีกรอบตอนได้รับมินิฮาร์ทแบบไม่ทันตั้งตัว ก็น่าจะเป็นอย่างที่จองวอนเคาะแล้วว่า “ใช่แน่ๆ” และจองวอนคนเดิมก็ยังมองขาดว่าเพื่อนตั้งแต่มัธยมของเขาคิดช้า ตัดสินใจยิ่งช้ากว่า แต่ท่าทีตอนนี้ เป็นไปได้ว่าเจ้าหมีโง่ซอกฮยองไปไหนไม่ได้แล้ว และเรื่องเซอร์ไพรส์กำลังจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้แน่นอน

แล้ว ‘เร็วๆ นี้’ คือตอนไหน?

ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ต้องคาดเดาด้วยทฤษฎี 4 ฤดูที่หมอชูชูของเราน่าจะได้รับชัยในฤดูใบไม้ร่วง ฤดูแห่งการเปลี่ยนแปลงสีสันของธรรมชาติ หรือการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของซอกฮยอง ซึ่งระหว่างนี้เธอน่าจะใช้สิทธิ์สารภาพรักครั้งสุดท้าย แล้วทิ้งช่วงให้หมอหมีจัดการถางเส้นทางที่เต็มไปด้วยอุปสรรค ก่อนจะเปิดเผยความรู้สึกข้างในใจ

เพราะถ้าเปรียบเทียบความช้าของซอกฮยองกับเพื่อนๆ ที่เริ่มต้นความรักไล่เลี่ยกันใน Hospital Playlist ซีซัน 1 ก็ต้องบอกว่าระหว่างซอกฮยองกับมินฮามีพัฒนาการที่คืบคลานมากๆ ในขณะที่จองวอนเตรียมแหวนแต่งงาน เช่นเดียวกับจุนวานที่ก็มอบแหวนไปเรียบร้อยแล้ว (แม้สุดท้ายจะไปไม่ถึงมือก็ตาม)

แต่ซีรีส์ก็ยังอธิบายให้เข้าใจได้ในความเป็นหมีโง่ เพราะฉากที่ซอกฮยองให้กำลังใจพยาบาลแผนกสูตินรีเวชจนทำให้พยาบาลเวรวันนั้นช็อกไปตามๆ กัน ก็เพราะพวกเธอใช้เวลา 6 เดือนในการทำให้หมอหมีอินโทรเวิร์ทกล้าสบตาเวลาพูด และใช้เวลาอีก 6 เดือนกว่าจะได้ไปกินข้าวที่โรงอาหารด้วยกัน

ดังนั้นหัวใจนักสู้ของมินฮาที่ใช้เวลาเป็นปีในการ ‘หยดน้ำลงหิน’ จนสุดท้ายหมอหมีก็รู้ตัวและรู้หัวใจตัวเองเสียที จึงเป็นสิ่งที่ยืนยันในความมุ่งมั่นและไม่ยอมแพ้ของเธอ ที่เชื่อได้ว่าอุปสรรคอะไรก็ขัดขวางเธอไม่ได้

สู้ๆ นะหมอชูชู พวกเราเป็นกำลังใจให้!

เมื่อความรักเกิดในสถานการณ์คับขัน

การเรียนแพทย์ต้องทุ่มเททั้งชีวิต เราสามารถพูดแบบนี้ได้ เพราะกว่าจะรู้ตัวว่าเหมาะกับวิชาชีพนี้ เรียนหนังสือหามรุ่งหามค่ำเพื่อให้มีชื่อตัวเองติดอยู่ในคณะแพทยศาสตร์ ใช้เวลา 6 ปีเป็นนักศึกษาแพทย์ ซึ่งช่วงปี 4-6 เป็นช่วงที่ได้ลงทำงานในโรงพยาบาล ก่อนจะจบสอบได้ใบประกอบโรคศิลป์ แล้วไปเป็นแพทย์ใช้ทุน จากนั้นจึงจะได้ตำแหน่งแพทย์ประจำบ้าน หรือเรสซิเดนท์

เส้นทางการเป็นแพทย์ใช้เวลาเรียนรู้ทั้งในตำราและประสบการณ์จริง ชนิดที่เรียกว่าเรียนเท่าไหร่ไม่มีวันจบ ภาระตรงหน้าหนักหนาอย่างที่เราได้เห็นชีวิตจำลองในโรงพยาบาลยุลเจ

ด้วยความที่ไม่มีเวลาออกไปเจอใครเท่าไหร่ เพราะใช้เวลาหมดไปกับงานและการเรียนตรงหน้า ความรักจึงมักผลิบานอยู่รอบๆ ตัว รอบๆ คนที่ได้เจอในแต่ละวัน

ตอนที่ซองยองชงกาแฟให้ยุนบก และยังคอยให้กำลังใจจนทำให้เธอเคลิ้มตามไปนั้น ซอนบินก็รีบเข้ามาจับหน้าจับตัวให้เธอตั้งสติ เพราะในช่วงที่เหน็ดเหนื่อยอ่อนล้า เพียงแค่มีคนมาทำดีกับเราก็พร้อมจะคล้อยตามได้ง่ายๆ เพราะกระทั่งตัวซอนบินเองก็ยังตกหลุมรักในหน้าที่กับซอกมิน ที่ตอนนี้มาเป็นแพทย์ต่อยอดในแผนกของหมอซงฮวาเช่นกัน

คิมกอน เรสซิเดนท์ศัลยศาสตร์ ปี 2 ที่อยู่แผนกศัลยกรรมตับและตับอ่อน เช่นเดียวกับคยออุล ก็สัมผัสได้ถึงความสนใจของเขาที่มีต่อรุ่นพี่คนนี้ตั้งแต่แรกพบ และในอีพีนี้ก็ชัดเจนแล้วว่าเขามีความรู้สึกดีๆ ให้กับคยออุล ที่มักจะปล่อยผมเปียกหมาดๆ มานั่งทำงานจนผมแห้งไปเอง มันอาจเป็นความเรียบง่ายและจริงใจของผู้หญิงคนหนึ่งที่เขามองเห็น รวมทั้งความใส่ใจของรุ่นพี่ที่ช่วยติวจนเขาเองก็ต้องหลงไปกับความรู้สึกเช่นกัน

ความรักที่เกิดขึ้นในโรงพยาบาล เอาเข้าจริงก็เหมือนความรักที่เกิดขึ้นทุกสถานที่บนโลกใบนี้ เราพบกัน รักกัน หัวเราะด้วยกัน ร้องไห้กัน บางครั้งก็ถึงเวลาต้องบอกลา เก็บเอาไว้เพียงความทรงจำที่อยากจำหรืออยากลืม

อิกจุน-ซงฮวา ฉันจะอยู่ข้างๆ เธอไปแบบนี้

“ตกหลุมรักฉันเข้าแล้ว ท่ามกลางแสงไฟวิบวับที่ส่องประกาย
เธอตกหลุมรักฉันเข้าแล้ว อย่ามัวแต่ยิ้มแล้วตอบฉันมา”

วันเกิดซงฮวา เดือนเมษายนปีนี้ เธอได้ร้องนำให้วงแล้ว และเพลงที่เลือกมาก็เป็น You Have a Crush on Me ของวง No Brain ซึ่งเป็นเพลงบอกความรู้สึกมวลรวมของอีพีนี้ที่พูดถึงการ ‘ตกหลุมรัก’

สำหรับคู่เรือหลวงอิกจุน-ซงฮวา การได้ดู Hospital Playlist 2 EP.9 คือการเติมเต็มความรู้สึกในทุกภาคส่วน ทั้งความงดงามของมิตรภาพตลอด 20 กว่าปี ที่ความรู้สึกของเพื่อนกลายเป็นมากกว่าเพื่อน และถึงวันนี้ก็คงไม่ต้องค้นหาคำอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างกันอีกแล้ว

ดังนั้นฉากสำคัญที่ทำให้เราได้เห็นสกินชิพเพียงหนึ่งวินาที ก็เพียงพอที่จะทำให้เราฟังเสียงร้องเพลงหลงๆ ของซงฮวา 3.40 นาทีด้วยรอยยิ้ม และดูซีรีส์ตลอด 1.44 ชั่วโมงของอีพีนี้ด้วยความสุข เป็นช่วงเวลาที่รอคอยมาตลอดปีที่ผ่านมา เหมือนพายเรือข้ามมหาสมุทรมาสำเร็จ

ไม่น่าเชื่อว่าคนดูซีรีส์มามากมาย ผ่านชีวิตมาไม่น้อยอย่างเราๆ จะเขินและขนลุกแค่กับฉากจับมือเพียงวินาทีของพวกเขา และเราอยากเห็นมันอีกครั้ง สองครั้ง สิบครั้ง เช่นเดียวกับที่อยากดูซีรีส์ Hospital Playlist ไปจนถึงซีซั่น 5 ซีซัน 10 และซีซัน 200