Awaken เมื่อ ‘นัมกุงมิน’ ไม่ใช่พระเอกจ๋า และปริศนาซับซ้อนที่เราอยากกินพาราสักแผง

ต้องยอมรับว่ากระแสซีรีส์ Awaken ที่นำแสดงโดย นัมกุงมิน นั้นค่อนข้างจะเงียบอยู่พอสมควร ไม่รู้ว่าเป็นเพราะไทม์มิ่งในการออกอากาศที่ดันไปตรงกับซีรีส์สายแมสหลายๆ เรื่องเข้าพอดี หรือว่าตัวเนื้อเรื่องมันจะดูลึกลับ ซับซ้อน มืดหม่นจนเกินไป จึงไม่ค่อยสร้างความรู้สึกจรรโลงใจท่ามกลางสภาวะที่ค่อนข้างตึงเครียดของบ้านเรา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเมืองหรือไวรัสตัวร้ายอย่างโควิด-19

แต่ถ้าจะพูดถึงเหตุผลที่ซีรีส์ไม่ค่อยได้รับความนิยม ตรงนี้ก็เข้าใจได้ เพราะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มต้นดูและยังไปไม่ถึงจุดพลิกผันของเรื่อง (ประมาณท้ายอีพี 3) ก็อาจจะโดนความงงเข้าจู่โจมจนทำให้ท้อแท้ไปซะก่อน ด้วยความที่ตัวละครเยอะเหลือเกิน (ขอเตือนว่ายิ่งดูไปเรื่อยๆ ตัวละครจะยิ่งเพิ่มขึ้น) แถมตัวคดีที่ทีมสืบสวนกำลังตามหาความจริงก็ยิ่งซับซ้อนขึ้นเรื่อยๆ (และดูเหมือนจะมีปมตามมาอีกเป็นพรวน) แต่สายดูซีรีส์ให้ซีเรียสอย่างเรามองว่าข้อแม้เหล่านี้คือความท้าทายที่ต้องก้าวข้ามผ่าน!

Awaken เล่าเรื่องราวของคดีลึกลับที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านแห่งหนึ่งเมื่อ 28 ปีก่อน โดยคดีที่ว่านี้ถูกพบว่ามีความเชื่อมโยงกับคดีในปัจจุบันอย่างน่าประหลาด เหล่าตำรวจจากหน่วยสืบสวนคดีพิเศษจึงต้องร่วมมือกับนักจิตวิทยาอาชญากรรมจาก FBI เพื่อร่วมกันไขคดีปริศนานี้ แต่สิ่งที่คิดกลับไม่ง่ายอย่างนั้น เพราะยิ่งถลำลึกกับคดีเข้าไปเท่าไร เรื่องราวมันกลับยิ่งวนมาใกล้ตัวมากขึ้นเท่านั้น

และต่อไปนี้คือ 3 เหตุผลที่ควรต้องตามเก็บซีรีส์ Awaken ให้ทันท่วงทีก่อนถึงตอนจบ ณ ตอนนี้ยังอยู่ที่อีพี 12 วันหยุดเสาร์-อาทิตย์นี้เราแนะนำให้ยิงยาวตามมาให้ทัน แล้ววันอังคาร-พุธเรามารอดูซับไทยอีพี 13 กัน

*คำเตือน: ใครคิดจะดูรวดเดียว 12 ตอน อย่าลืมวางกระปุกยาพาราไว้ข้างตัวด้วยนะ

ภาพลักษณ์ใหม่ของนัมกุงมิน และการแสดงที่ท้าทายไปอีกขั้น

เราคิดว่าคงไม่เกินจริงถ้าจะพูดว่า ‘ซีรีส์เรื่องไหนมีนัมกุงมิน เรื่องนั้นสนุกแน่ๆ’ แม้บางครั้งเรตติ้งอาจจะไม่ได้อยู่ในระดับท็อป แต่ก็ถือว่าไม่ต่ำเตี้ยเรี่ยดิน และถ้าได้ลองเปิดใจดูสักตอนสองตอนแล้วล่ะก็ รับรองว่าหยุดไม่ได้

การรับบทโดจองอูในครั้งนี้ สิ่งแรกที่เห็นชัดเจนคือลุคที่เปลี่ยนไปของนัมกุงมิน จากปกติที่มักจะมาแบบมาดขรึม ลุคเป๊ะ ใส่สูท แต่คราวนี้เขามาพร้อมทรงผมแบบกึ่งสั้นกึ่งยาว จะสกินเฮดไปเลยก็ไม่ใช่ แถมยังปล่อยให้หนวดขึ้นเล็กน้อยเหมือนคนไม่ดูแลตัวเอง ไหนจะเสื้อผ้าที่ดูเยินๆ และใส่ซ้ำไปซ้ำมาอยู่ไม่กี่ชุด ยิ่งกว่านั้นคือนัมกุงมินอินกับตัวละครจริงจังจนถึงกับเอาเสื้อยืดอายุ 10 กว่าปีของตัวเองมาใส่เข้าฉากด้วย ซึ่งหากดูไปเรื่อยๆ ผู้ชมจะค่อยๆ เข้าใจเหตุผลทำไมตัวละครต้องมีคาแรกเตอร์แบบนี้

นัมกุงมิน รับบทเป็น โดจองอู หัวหน้าหน่วยสืบสวนคดีพิเศษที่ไม่เหมือนคนทั่วไป ทั้งไอคิวที่เกินคนธรรมดา ชอบไปนอนในห้องขัง ติดอมยิ้ม และมีอดีตลึกลับที่อาจเกี่ยวพันกับคดีที่กำลังสืบสวน ในแต่ละอีพีที่เรื่องราวดำเนินไป เราไม่อาจรู้ได้เลยว่านี่คือพระเอกที่แสนดีหรือตัวร้ายที่อยู่ในคราบตำรวจ และถ้าคุณเคยผ่านซีรีส์แนวสืบสวนมาแล้วหลายเรื่อง รับรองว่าการแสดงของนัมกุงมินในเรื่องนี้จะแตกต่างจากคาแรกเตอร์ตำรวจสายสืบทุกเรื่องที่เคยดูมา!

“ผมชอบความลึกลับ โดยเฉพาะเมื่อมันเป็นเรื่องราวที่สามารถทำให้หัวใจของผู้ชมเต้นแรงได้โดยไม่จำเป็นต้องมีอะไรมารบกวนสายตามากเกินไป” – นัมกุงมินให้สัมภาษณ์กับ Forbes เกี่ยวกับเหตุผลที่ทำให้เขาตอบรับบทนำในซีรีส์เรื่องนี้

ความสัมพันธ์ของเหล่าตัวละครหลักที่เป็นเหมือนระเบิดเวลา

อีกประเด็นหนึ่งที่น่าจับตามองในซีรีส์เรื่องนี้คือความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนไม่แพ้คดีในเรื่องของตัวละครหลักอย่าง โดจองอู กงฮเยวอน และเจมี่ เลห์ตัน

จากภาพโปรโมตก่อนซีรีส์ออกอากาศ เหมือนเป็นการให้คนดูคิดว่าตัวละครเหล่านี้อาจจะนำไปสู่เรื่องรักสามเส้าในภายหลัง แต่กลายเป็นว่าไม่ใช่ และมันยังซับซ้อนยิ่งกว่านั้น จริงอยู่ที่กงฮเยวอนมีความรู้สึกดีๆ ให้ แต่ฝ่ายโดจองอูจะรู้สึกอย่างไรนั้นยังคงเป็นปริศนา (คนที่ดูทันจนถึงอีพีปัจจุบันแล้วน่าจะรู้คำตอบ #งดสปอยล์)

ส่วนทางด้านของเจมี่ก็ฉีกไปอีกทางเช่นกัน เพราะกลายเป็นว่าทั้งเธอและโดจองอูมีอดีตร่วมกันในคดีสะเทือนขวัญเมื่อ 28 ปีที่แล้ว ทำให้ทั้งคู่เริ่มสงสัยในตัวของกันและกันมากขึ้นเรื่อยๆ โดยที่พวกเขาเองก็ไม่ทันคิดเลยว่ายังมีตัวแปรสำคัญที่กำลังผุดขึ้นมาอีกในอนาคต และจะมาสั่นคลอนจนทำให้ความสัมพันธ์ของตัวละครทั้งสามเป็นเหมือนระเบิดเวลาที่กำลังนับถอยหลัง

ถ้าชอบซีรีส์สายซับซ้อน Awaken จะให้มากกว่าที่คุณคิด

ถ้าเทียบกับซีรีส์สืบสวนเรื่องอื่นๆ โดยมากแล้วจะเจาะไปแค่เพียงเหตุการณ์ใดเหตุการณ์หนึ่ง และเรื่องราวลุ้นระทึกจะดำเนินไปตามกระบวนการสืบสวนเพื่อขุดค้นความจริงที่ซ่อนอยู่ แต่สำหรับ Awaken นั้นเป็นเรื่องลึกลับที่มีโครงสร้างค่อนข้างซับซ้อน เริ่มต้นที่การสืบสวนคดีฆาตกรรมที่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ซึ่งภายหลังก็พบว่ามันเชื่อมโยงกับคดีสะเทือนขวัญในอดีต ตัวเรื่องยังวนกลับมาทำให้ผู้ชมสงสัยในตัวละครหลัก และกลายเป็นตัวละครเหล่านั้นที่สร้างเรื่องราวฉีกออกไปจากเดิมอย่างไม่หยุดหย่อน (ยังไม่นับรวมตัวละครใหม่ๆ ที่จะโผล่ขึ้นมาอีกในอีพีหลัง) จนถึงตอนนี้ที่มาถึงอีพี 12 ก็ยังไม่รู้ว่ามันจะจบลงอย่างไร หรือจะฉีกไปทางไหนได้อีก

แถมตัวเนื้อเรื่องยังเต็มไปด้วยความหนักหน่วง เพราะจุดเริ่มต้นจากเหตุการณ์ในอดีตเมื่อ 28 ปีที่แล้วมันค่อยๆ ซึมลึกพัวพันกับทั้งผู้คนและองค์กรอีกมากมาย จนเกือบจะกลายเป็นการเปิดโปงเบื้องหลังอันเหลวแหลกในหลากหลายวงการ ทั้งตำรวจ การเมือง วิทยาศาสตร์การแพทย์ ยาเสพติด และขบวนการค้ามนุษย์