เสน่ห์เกินต้านของ Vincenzo ทนายมาเฟีย ผู้มัดใจทุกภาคส่วน!

หลังซีรีส์ Vincenzo ทนายมาเฟีย ประกาศงดออนแอร์ 1 สัปดาห์ และเตรียมปล่อยตอนพิเศษ Vincenzo: Secret Report ที่จะพาไปทำความรู้จักกับจุดเด่นของเลขาฯ นัมจูซอง, ซีนเบื้องหลังที่ยังไม่เคยออกอากาศ และทัวร์กองถ่ายกับ จางฮันซอ (อดีตประธานบาเบล), อีชอลอุก (เจ้าของโรงรับจำนำ) และอันกีซอก (พ่อหนุ่มอัน) ทางช่อง tvN วันเสาร์ (เวลา 21.00 น.​ ตามเวลาเกาหลี) ให้แฟนๆ ได้คลายความคิดถึงทนายมาเฟียในสัปดาห์นี้

ดูซีรีส์ให้ซีเรียส จึงขอหยิบคำอธิบายตัวละครในซีรีส์จากเว็บออฟฟิเชียลมาใช้เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยประกอบสาเหตุที่ทำให้หลายคนต้องพ่ายแพ้ต่อเสน่ห์อันเกินต้านของวินเชนโซให้อ่านกันสนุกๆ ระหว่างรอตอนต่อไป!

ฮงชายอง

คำอธิบายตัวละคร: ทนายความระดับแนวหน้าของบริษัทกฎหมายอูซัง (ปัจจุบันลาออกมาสานต่อสำนักงานกฎหมายฟางข้าวของพ่อ) เธอสามารถทำได้ทุกอย่างเพื่อ ‘ชัยชนะ’ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ฮงชายองไม่สนใจเรื่อง ‘ความยุติธรรม’ เพราะความสำเร็จและเป้าหมายเท่านั้นคือแรงผลักดันของเธอ

จากคำอธิบายข้างต้น ฮงชายองเคยเป็นคนหนึ่งที่ไม่สนใจ ‘วิธีการ’ ขอแค่ได้ ‘ผลลัพธ์’ ที่เธอต้องการก็พอ และเหตุการณ์งานปาร์ตี้หน้าคึมกาพลาซ่าก็กลายเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เธอสนใจใน ‘วิธีการ’ ของวินเชนโซมากขึ้น

แม้เธอจะเคยทดสอบหัวใจของตัวเองมาแล้วว่าอาการใจเต้นตึกตักที่เกิดกับวินเชนโซนั้นเป็นเพราะความตื่นเต้น แต่สุดท้ายด้วยเสน่ห์เกินต้านจากหลายซีน ทั้งขี่ม้า ชุดนอนพร้อมเสื้อคลุม รถสปอร์ตเปิดตัวหน้าศาล ผสมผสานกับความใกล้ชิดในหลายเหตุการณ์ ถ้าฮงชายองยังต้านไหว เราก็ขอนับถือใจ (ซึ่งสุดท้ายเธอก็เสียศูนย์ในหอศิลป์รากูแซงไปเป็นที่เรียบร้อย)

จางฮันซอ

คำอธิบายตัวละคร: ประธาน (ในนาม) ของบริษัท บาเบล กรุ๊ป น้องชายต่างแม่ของจางจุนอู หรือจางฮันซอก ผู้มีงานอดิเรกคือการลงโทษผู้บริหารด้วยอาหารรสเผ็ด เขาไม่ลังเลที่จะใช้ความรุนแรงเพื่อผลประโยชน์ของตัวเอง สามารถพูดโกหกต่อหน้ากล้องได้ตามคำสั่งที่ได้รับมา เพื่อซ่อนความหวาดกลัวที่มีต่อพี่ชายที่นับวันยิ่งอารมณ์ดุเดือดมากขึ้น

จางฮันซอ เป็นอีกหนึ่งตัวละครที่เติบโตขึ้นท่ามกลางความหวาดกลัวพี่ชายต่างแม่ของตัวเองที่เป็นไซโคพาธ ชีวิตวัยเด็กของเขาไม่ค่อยน่าอภิรมย์นักแม้จะเกิดในตระกูลเศรษฐี นำมาซึ่งความคับอกคับใจที่ไม่สามารถระบายออกไปให้ใครฟังได้ แม้จะทำสิ่งที่ท้าทายความกลัวที่สุดในชีวิตด้วยการล่อจางฮันซอกไปยิงในป่าก็ยังทำพลาดจนต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงคูณสิบทุกวัน

เหตุการณ์ ‘สาดเลือดหมู’ ในงานบรรยายพิเศษให้ผู้นำรุ่นเยาว์ (อีพี 13) จึงกลายเป็นแสงสว่างที่ลอดเข้ามาในชีวิตอันมืดมิด ที่ทำให้เขาประทับใจกับ ‘สไตล์การล้างแค้น’ แบบวินเชนโซเข้าอย่างจัง (และเริ่มมีพฤติกรรมเปลี่ยนไป) เพราะจางฮันซอที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างๆ มาตลอด ในช่วงแรกอาจจะขัดใจที่วินเชนโซทำให้เขาต้องแบกหน้าทำตามคำสั่งต่างๆ (แถลงข่าวเท็จ, ก้มหัวขอโทษ ฯลฯ) และเป็นสนามอารมณ์ของพี่ชายมากขึ้น แต่เหตุการณ์สาดเลือดหมูทำให้เขารู้ว่าการต่อกรกับปีศาจแบบพี่ชายไซโคพาธของเขาก็ต้องใช้ปีศาจที่มีวิธีการสุดครีเอทีฟแบบวินเชนโซเท่านั้น! (เราขอเป็นกำลังใจให้จางฮันซอสู้ต่อไป และตอบคำถามง่ายๆ ของวินเชนโซได้ครบทุกข้อสักที)

นัมจูซอง

คำอธิบายตัวละคร: เลขาธิการของสำนักงานกฎหมายฟางข้าว เขาติดตามทนายฮงยูชานมานาน นัมจูซองมีชีวิตอยู่ในความพ่ายแพ้และทำอะไรไม่ถูกเสมอ (แม้สำนักงานฟางข้าวจะทำงานบนความยุติธรรม แต่สุดท้ายก็มักจะพ่ายแพ้ให้กับผู้มีอำนาจและเงินทองเสมอ) การมาถึงของวินเชนโซ่ทำให้เขาได้รู้จักกับความตื่นเต้นและรสชาติของชัยชนะ แม้จะดูแตกต่างจากภายนอก แต่แท้จริงแล้วนัมจูซองเป็นคนที่มีความคล่องแคล่วและเฉลียวฉลาดกว่าที่คิด

ชายโสดร้อยเปอร์เซ็นต์ผู้คอยดูแลเอกสารต่างๆ ให้กับสำนักงานฟางข้าว ถึงจะมีความเคลือบแคลงสงสัยในตัววินเชนโซ่อยู่บ้างในช่วงแรก แต่นัมจูซองก็ไม่ได้แสดงท่าทางหรือสีหน้าที่ชัดเจนเหมือนกับชาวคึมกาพลาซ่าคนอื่นๆ

เขาคอยช่วยเหลือวินเชนโซ่ตามแบบฉบับของเขา (ผ่านเอกสารกองเท่าภูเขา ที่ไม่ว่าอยากได้อะไรเขาให้ได้ในเวลาอันรวดเร็ว) ซึ่งการมีส่วนร่วมเล็กๆ นี้เองที่ทำให้วินเชนโซ่นำข้อมูลที่ได้ไปใช้ครีเอตแผนการสุดปังจนทำให้นัมจูซองตื่นเต้นทุกครั้งที่ได้รับชัยชนะ (ซึ่งเขาไม่เคยได้รับมาก่อนเลย) จุดนี้เองที่น่าจะเป็นสาเหตุให้ชีวิตชายโสดแบบเขาได้มีวันที่สดใสและตื่นเต้นมากขึ้นตั้งแต่ได้พบกับวินเชนโซ่

คิมยองโฮ

คำอธิบายตัวละคร: ลูกชายของกวักฮีซู (เจ้าของร้านยองโฮสแน็ก) เด็กชายที่ไม่ค่อยฟังคำของแม่สักเท่าไร แต่เขาเป็นคนที่มีความฝันของตัวเอง เมื่อได้เจอกับวินเชนโซ่ ชีวิตของเขาก็เข้าที่เข้าทางมากขึ้น เขาเชื่อมั่นในวินเชนโซ่ที่สนับสนุนความฝันของเขา

หนึ่งในตัวละครที่ผลุบๆ โผล่ๆ ในครึ่งแรกบ่อยครั้ง กับน้องนักเรียนคิมยองโฮที่เปิดตัวด้วยซีนถูกแม่ตบหัวด้วยถุงมือล้างจาน (หลังจากได้กลิ่นบุหรี่จากมือและชุดนักเรียนของเขา) และมีซีนสุมหัวกับกลุ่มเพื่อนเกเรจนวินเชนโซ่ต้องมาสั่งสอนให้เขารู้จักหน้าที่ของตัวเองในวัยเรียน

ถึงภายนอกจะดูเป็นแบบนั้น แต่จริงๆ แล้วคิมยองโฮเป็นคนที่มีความสนใจด้านการถ่ายคลิป ไลฟ์ หรือตัดต่อต่างๆ ที่วินเชนโซ่บังเอิญไปล่วงรู้เขาตอนที่เห็นคิมยองโฮไลฟ์ จนทำให้เขาเลือกให้คิมยองโฮมาช่วยเหลือในเหตุการณ์สำคัญๆ อย่างการถ่ายคลิปเหตุการณ์หน้าตึกคึมกาพลาซ่าที่ทำให้มีหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์ของผู้เช่าทุกคนที่ร่วมกันต่อสู้กับแก๊งของพัคซอกโด (อีพี 7) และรายการ ‘แฉหมดเปลือกทีวี’ (อีพี 10) ที่คิมยองโฮมีส่วนร่วมในการถ่ายทำและตัดต่อฉากหลังที่เป็นกรีนสกรีนให้มีสีสันสดใส (วัยอนุบาล) ทำให้ไม่แปลกใจว่าทำไมคิมยองโฮถึงเปลี่ยนตัวเองจากเด็กเกเรกลายเป็นเด็กหนุ่มที่ตาเป็นประกายมากขึ้น เพราะเขาเจอคนที่สนับสนุนความฝันของเขาอย่างวินเชนโซ่นั่นเอง

ทักฮงชิก

คำอธิบายตัวละคร: เจ้าของร้านซักรีดเชอิล ชายผู้เติบโตในชนบทที่มีความดื้อรั้นและความพยายาม เขาเป็นปรมาจารย์ซักอบรีด (?) ที่มั่นใจในฝีมือของตัวเอง และเคยออกรายการตามหาสุดยอดช่างฝีมือ ตอนที่ 57 (อ้างอิงจากกรอบรูปที่ติดอยู่ในร้านที่ทักฮงชิกชี้ให้วินเซนโซ่ดูในอีพี 1 หลังจากทำสูทแบรนด์บูรัลโรหด)

สำหรับทักฮงชิกที่ซีรีส์เพิ่งเปิดเผยได้ไม่นานว่าตัวเขาเองก็มีอดีตสีดำที่ใช้กรรไกรเป็นอาวุธจนได้รับฉายา ‘กรรไกรสายฟ้าแห่งชุงจู’ ไม่ต่างกับวินเชนโซ่ หนึ่งในสมาชิกของคึมกาพลาซ่าที่สร้างความปวดใจให้กับสูทลูกอัณฑะบูรัลโรของวินเชนโซ่ตั้งแต่อีพี 1

จากที่ในตอนแรกเขาไม่ไว้ใจวินเชนโซ่เลยแม้แต่น้อย (แสดงออกทั้งสายตาและการกระทำ) แต่เมื่อเขาได้สัมผัสถึงตัวตนและความช่วยเหลือจากวินเชนโซ่ที่ทำเพื่อชาวคึมกาพลาซ่า รวมถึงเมื่อเขารู้ว่าวินเชนโซ่นั้นมีภูมิหลังคล้ายคลึงกับตัวเขาในอดีต (ที่ก้าวออกจากวงการแล้วเหมือนกัน) ทำให้ทักฮงชิกค่อยๆ เปิดใจให้วินเชนโซ่มากขึ้นทีละน้อย ผ่านการกระทำที่เปลี่ยนไปอย่างการซักรีดสูทสุดเนี้ยบเพื่อให้วินเชนโซ่และฮงชายองใช้สู้ศึกในศาล ร่วมมือในแผนการต่างๆ เพื่อปกป้องคึมกาพลาซ่าและโค่นล้มบาเบลกรุ๊ป ที่นับเป็นความเปลี่ยนแปลงแบบ 360 องศาของทั้งคู่ที่ต่างฝ่ายต่างยอมรับกันและกัน

โตโต้

คำอธิบายตัวละคร: เชฟและเจ้าของร้าน Arno ร้านพาสต้าแบบ Specialty ในคึมกาพลาซ่า เขาเป็นคนใจดีและยิ้มแย้มเสมอ เขามักจะโฆษณาตัวเองอย่างภาคภูมิใจกับคนอื่นๆ ว่าเป็นเชฟจากมิลาน อิตาลี แต่แท้จริงแล้วเขาเรียนการทำอาหารมาจากสถาบันอาหาร ‘ฝีมือแม่’ ในชินชอน จังหวัดชุงชองเหนือ (ชีวิตที่ไม่เคยไปแม้กระทั่งดานังของเขา นับประสาอะไรกับอิตาลี) การปรากฏตัวของวินเชนโซ่ทำให้เขาต้องนอนร้องไห้ทั้งน้ำตา ก่อนที่ต่อมาจะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญหลังผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก

ตัวละครชายหนวดร่างใหญ่แต่ใจจิ๋วหลิวอย่างโตโต้ ก่อนการมาถึงของวินเชนโซ่ เขาค่อนข้างภูมิใจในฝีมือการทำอาหารอิตาลีของตัวเองมาก แต่แล้วภาพที่วินเชนโซ่คายอาหารของเขาต่อหน้าต่อตาทุกครั้งกลับกลายเป็นภาพติดตาตรึงใจไม่รู้ลืมไปเสียแล้ว

ถึงแม้ซีรีส์จะไม่เปิดเผยเบื้องหลังของโตโต้ให้เห็นมากนัก แต่หลายครั้งหลายหนที่เขาพยายามทำอาหารให้วินเชนโซชิมเพื่อการันตีความอร่อย (ที่ส่วนใหญ่วินเชนโซ่จะยอมรับเฉพาะอาหารเกาหลี) นั่นเป็นสิ่งที่ช่วยยืนยันถึงคำอธิบายตัวละครของเขาได้เป็นอย่างดีว่า ถึงแม้เขาจะเกลียดวินเชนโซ่ที่คายอาหารของเขา แต่โตโต้ก็ไม่ยอมแพ้และมุ่งมั่นตั้งใจฝึกฝนฝีมือเงียบๆ เพื่อที่สักวันเขาจะได้รับการยอมรับ และลบภาพติดตาของวินเชนโซ่ที่ทำให้เขาต้องนอนร้องไห้ให้หายไป (ซึ่งจุดนี้เราคิดว่าโตโต้ทำสำเร็จแล้ว หลังจากที่วินเชนโซ่เพิ่งร่วมวงปาร์ตี้กับชาวคึมกาพลาซ่าในอีพี 16 ที่อาหารบนโต๊ะไม่ใช่อาหารเกาหลี)

อันกีซอก

คำอธิบายตัวละคร: หัวหน้าทีมเฝ้าระวังองค์กรอาชญากรรมอิตาลี หน่วยข่าวกรองความปลอดภัยระหว่างประเทศ ชายผู้นอนไม่หลับหลังจากได้รับการแต่งตั้งให้เป็นหัวหน้าทีมเฝ้าระวังองค์กรอาชญากรรมอิตาลี และวาดฝันถึง (ตัวเอง) ว่าเหมือนกับ เจมส์ บอนด์ ในภาพยนตร์สายลับชื่อดัง สำหรับอันกีซอกที่วันๆ นั่ง (ว่าง) ดูวิวทิวทัศน์ของประเทศอิตาลีแบบ 4K นั้น (ซีนที่ปรากฏในอีพี 1 เพราะแผนกอื่นงานยุ่งกันหมด) การปรากฏตัวของวินเชนโซ่คือโอกาสในการปฏิบัติภารกิจที่เขาคาดหวัง และทุ่มเทถึงขนาดแฝงตัวเข้าไปในคึมกาพลาซ่าเพื่อตรวจสอบวินเซนโซ่อย่างใกล้ชิด

พ่อหนุ่มอันผู้ชอบทำพฤติกรรมแปลกประหลาด ที่เมื่อเราได้อ่านคำบรรยายตัวละครของเขาแล้วไม่ค่อยแปลกใจเท่าไร เพราะเขามีชุดความคิดที่ว่าในที่สุดเขาก็จะได้ทำงานในฐานะหน่วยข่าวกรองแบบแผนกอื่นๆ บ้างสักที! ชีวิตสุดเท่เหมือน เจมส์ บอนด์ ของเขาเริ่มขึ้นแล้ว!

ตัดภาพมาสู่ความเป็นจริง หลังจากอันกีซอกได้สัมผัสตัวตนของวินเชนโซ่ที่คอยตักเตือนเด็กนักเรียนเกเรสูบบุหรี่ ปกป้องชาวคึมกาพลาซ่าจากบาเบลกรุ๊ป ไปจนถึงจิตใจบริสุทธิ์จากความศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า (ในมุมมองของเขา) จึงทำให้เขาตกหลุมรักวินเชนโซ่ (หนักกว่าใครเพื่อน) แม้ว่าจะต้องอดทนปกปิดตัวตนมาถึงอีพี 11 แต่การได้สะบัดผ้ากันเปื้อนสู่โค้ตยาวสุดเท่พร้อมฟูลเทิร์นต่อหน้าวินเชนโซ่ก็ดูจะปลดล็อกความปรารถนาในการเป็น เจมส์ บอนด์ ของเขาได้อย่างสมบูรณ์

อินซากี

ไม่มีคำบรรยายเกี่ยวกับนกพิราบอินซากีในเว็บไซต์ออฟฟิเชียล หากอ้างอิงจากภาษาเกาหลี ชื่อของนกพิราบดังกล่าวจะอ่านว่า อินจากี (인자기) (แต่เนื่องจากทุกคนคุ้นเคยกับชื่ออินซากีแล้ว เราจึงขอเรียกว่าอินซากีตามที่ปรากฏในซีรีส์ต่อไป)

หลังจากวินเชนโซ่ตั้งชื่อนกพิราบตัวแสบว่าอินซากี จึงทำให้เราลองเสิร์ชหาเบาะแสจากภาษาเกาหลีที่ปรากฏ จนค้นพบว่าชื่ออินซากีนั้นน่าจะมีที่มาจากนักฟุตบอลที่มีชื่อว่า ฟิลิปโป อินซากี (필리포 인자기)

เมื่อนำมารวมกับคำบรรยายตัวละคร วินเชนโซ่ กาซาโน ที่บอกว่า ‘ทนายความและที่ปรึกษา (Consigliere) ของตระกูลกาซาโน มาเฟียอิตาลี เจ้าของใบหน้า Poker Face ที่สมบูรณ์แบบ ไม่มีใครสามารถปฏิเสธข้อเสนอของเขาได้ ภายนอกดูเหมือนคนเกาหลี แต่ภายในเขาคือผู้ชายอิตาลีที่ชื่นชอบแฟชั่น งานศิลปะ โอเปร่า ฟุตบอล และพาสต้า เป็นสุภาพบุรุษกับผู้หญิง แต่ไม่เชื่อในความรัก’ จึงทำให้ค่อนข้างมั่นใจว่าวินเชนโซ่ตั้งชื่ออินซากีโดยอ้างอิงจากนักฟุตบอลคนดังกล่าวไม่ผิดแน่

และเมื่อลองอ่านกระทู้และบทความต่างๆ เพิ่มเติมจึงพบว่า ฟิลิปโป อินซากี เป็นนักฟุตบอลที่ขึ้นชื่ออยู่ 3 เรื่องคือ 1.ล้ำหน้า 2.ทำฟาวล์ และ 3.ทำประตู (แค่อ่านก็นึกภาพสิ่งที่อินซากีเคยทำกับวินเชนโซ่แบบที่ไม่ต้องบรรยายเพิ่มเติมได้จริงๆ) 

แม้จะเป็นนกพิราบ แต่อินซากีเองก็เป็นหนึ่งในสมาชิกคึมกาพลาซ่าที่ตกหลุมรักกับเสน่ห์เกินต้านของวินเชนโซ่ ที่ถึงจะทะเลาะเบาะแว้งกันตลอดเวลา และเคยยึดห้องนอนของวินเชนโซ่ (พร้อมผองเพื่อน) แต่วินเชนโซ่ก็ไม่เคยใช้วิธีการรุนแรงกับอินซากี และเลือกที่จะถอยออกมานอนข้างนอก (แม้จะหงุดหงิดใจ) ก่อนที่ความสัมพันธ์ของทั้งคู่จะค่อยๆ พัฒนาขึ้น จากความรำคาญสู่ความเคยชิน วินเชนโซ่เริ่มเปิดใจรับอินซากีมากขึ้น คอยดูแลเรื่องอาหารการกินให้นกพิราบตัวแสบเสมอ…จนทำให้ในอีพี 15 วินเชนโซ่รอดตายระยะเผาขนมาได้จากความช่วยเหลือของอินซากีและผองเพื่อนที่ดูเหมือนจะเป็นการตอบแทนบุญคุณกลายๆ (แม้จะดูเป็นมิตรและไว้ใจได้ แต่เราก็ยังคาใจกับเชือกสีน้ำเงินที่ผูกขาของอินซากีอยู่ดี…)