Good Partner EP.3-4 อย่าถูกกฎหมายใช้ แต่ให้ใช้กฎหมาย

Good Partner เดินทางมาถึง EP.3-4 อย่างสง่างาม พร้อมๆ กับความชัดเจนแล้วว่าสองทนายหญิง ชาอึนกยอง และฮันยูริ ได้กลายเป็นทีมทนายคู่หูที่พร้อมจัดการทุกคดีหย่าร้าง และตัวซีรีส์เองก็ใช้โอกาสจากการเป็นทนายความคดีหย่าร้างในการขยี้ความรู้สึกได้มากขึ้นไปอีก เพราะเราต่างก็รู้กันดีว่า ‘เรื่องหัวใจ’ ยังไงก็เจ็บปวดเสมอ

คู่ตรงข้ามระหว่างทนายชาอึนกยองและทนายฮันยูริ

ทั้งสองคนเหมือนหยินหยาง คาแรกเตอร์ ไลฟ์สไตล์ แนวคิดแตกต่าง แต่กับจุดมุ่งหมายแล้วนั้น แม้จะเดินคนละทาง แต่ก็อยากให้คดีความเดินทางไปสู่ความยุติธรรม

ชาอึนกยอง เป็นผู้หญิงสวย รวย เก่ง ไม่เคยเสียเวลาไปกับอะไรที่ไม่มีประโยชน์ กล้าพูด กล้าคิด ตรงไปตรงมา วิธีจัดการกับปัญหาก็มาทรงองค์แม่ ฟันไม่เลี้ยง และด้วยประสบการณ์ทนายความ 17 ปี ชั่วโมงบินสูง มาพร้อมทางหนีทีไล่ที่ทำให้ชนะคดี สร้างรายได้ให้กับตัวเองจนได้ขึ้นเป็นทนายหุ้นส่วนกับบริษัทกฎหมายที่สังกัดอยู่

ฮันยูริ เป็นผู้หญิงหัวดีมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยอยากเป็นทนายหย่าร้างเลย แต่ก็โดนดึงตัวมาเป็นทนายในทีมเดียวกับชาอึนกยอง แม้จะเป็นทนายจบใหม่ แต่ก็ไฟแรง และมุ่งมั่นกับการทำงานเอามากๆ 

ฮันยูริเชื่อในความยุติธรรม ขณะเดียวกันก็เชื่อในมนุษยธรรมด้วย นั่นทำให้เธอไม่ค่อยชอบใจที่ต้องว่าความเพื่อให้ลูกความชนะคดี แม้ว่ามันจะไม่เป็นธรรมสักเท่าไรก็ตาม แต่นั่นก็อาจเป็นกระบวนการที่ต้องเรียนรู้ เพราะอย่างที่ชาอึนกยองบอกไว้ว่า ถ้ารักในอุดมการณ์ก็ควรออกไปเปิดบริษัททนายความเอง เพราะกับรูปแบบบริษัทกฎหมาย ก็ย่อมหมายถึงการมองหารายได้เป็นส่วนหนึ่งของการทำงานด้วยเช่นกัน

ใน EP.4 ชาอึนกยองยอมรับว่าฮันยูริเป็นทนายความที่จะมาเติมเต็มในส่วนที่เธอไม่มี เพราะวิธีการมองปัญหาและวิธีหาทางแก้ไขของทั้งคู่ต่างกัน เมื่อมีไม้แข็งแล้ว การมีไม้อ่อนใช้คู่กันย่อมประสบผลสำเร็จที่ดีกว่า เราจึงได้เห็นความตั้งใจของชาอึนกยองที่คอยเอาใจใส่ สอนงานฮันยูริในแบบแข็งๆ ของเธอ และเราได้เห็นการเติบโตในอาชีพทนายความของฮันยูริที่พรวดพราดมากๆ จากการมีโค้ชชื่อชาอึนกยอง

การผนวกเส้นเรื่องหลัก และเส้นเรื่องรองอย่างลงตัว

สำหรับ ดูซีรีส์ให้ซีเรียส มองว่า Good Partner มีความใกล้เคียงอูยองอู Extraordinary Attorney Woo กับทนายชิน Divorce Attorney Shin มากที่สุดแล้ว เพราะต่างมีเส้นเรื่องหลักที่เกี่ยวกับตัวละครหลักนั้นๆ และเส้นเรื่องรองที่เป็นคดีความระดับชาวบ้าน ใต้เตียง เกิดขึ้นและจบไปในแต่ละตอน

เส้นเรื่องหลักของ Good Partner คือการเข้ามาใหม่ของทนายฮันยูริ การทำงานที่ต้องเรียนรู้ทุกๆ วัน หนำซ้ำยังเป็นแผนกหย่าร้างของบริษัทกฎหมายขนาดใหญ่ มีเจ้านายที่เฮี้ยบเหลือเกิน ส่วนที่ชวนให้ขายขำได้ก็ต้องยกให้ จุนอึนโฮ ทีมทนายรุ่นเดียวกันที่เข้ามาก่อนหน้าแค่ 3 เดือน ลิกล๊อกไปมาก็เหมือนว่าจะกลายเป็นเรื่องชวนจิ้นในที่ทำงานเข้าไปอีก 

อีกแกนหลักของ Good Partner คือชีวิตแต่งงานของชาอึนกยองที่น่าจะจบไม่สวย และเธอประกาศจะหย่าร้างอย่างสมบูรณ์แบบที่สุด ซึ่งจุดนี้เดาต่อไม่ได้เลยว่าชาอึนกยองจะไปให้สุดแล้วหยุดที่ตรงไหน? นอกจากนี้ยังมีปมรักซ้อนซ่อนรัก ระหว่างเธอกับทนายจองอูจิน รุ่นน้องมหาวิทยาลัยที่ดูแล้วเหมือนว่าจะดราม่าใต้เตียงดาราอยู่เหมือนกัน

ตัวเส้นเรื่องรองจะมาเป็นเคสๆ ตรงกับชื่อตอนที่เรียกเป็นเคส 1, 2, 3 เราค่อนข้างชอบจังหวะการเรียงเคสที่ปะปนทั้นหญิงร้าย ชายเลว มาตรฐานสังคม ความเชื่อในเกาหลี ฯลฯ จนทำให้เห็นว่าเรื่องของสามีภรรยาคือปัญหาคลาสสิกระดับโลก เพียงแต่แตกต่างกันไปในรายละเอียดเท่านั้นเอง

คำแนะนำจากทนายชาอึนกยอง

และแม้จะเป็นซีรีส์ว่าด้วยทนายความหย่าร้าง แต่ใน Good Partner EP.3-4 ก็ได้มอบคำแนะนำน่าสนใจจากทนายชาอึนกยองมาให้ด้วย ซึ่งเชื่อแน่ว่าเซฟเก็บไว้อ่านตอนที่เกิดปัญหากับตัวเองก็น่าจะดีเหมือนกัน

“ถ้าเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับคุณ ให้ทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น ระหว่างที่เก็บหลักฐาน ตัวจิ๊กซอว์เล็กๆ ที่เก็บสะสมไว้ วันหนึ่งจะกลายเป็นภาพใหญ่”

“อย่าให้อารมณ์ครอบงำ และทำตัวไม่มีเหตุผลเด็ดขาด”

ว่ากันว่าทะเลที่สงบนิ่งมักจะตามมาด้วยคลื่นลูกใหญ่ – การที่เรามีสติอยู่กับปัญหาตรงหน้า และมองหาทางแก้ไข ทางแก้ปัญหานั้นๆ ย่อมดีกว่าการฟูมฟาย ตีอกชกตัว หรือพยายามยัดเยียดความผิดให้ใครสักคน 

ทนายชาอึนกยองที่แม้จะเก่งมาจากไหน กับเรื่องความรักของตัวเองก็ท้อเหมือนกัน แต่ระหว่างที่ท้อ เธอยังคงฟังก์ชันการทำงานไปด้วย เก็บทุกหลักฐานและรายละเอียดเผื่อเอาไว้ก่อน เพราะจนถึงวันหนึ่งที่ยอมรับความจริงได้แล้ว สิ่งที่เก็บไว้เหล่านั้นจะนำไปใช้ประโยชน์ได้

ท้ายที่สุดแล้ว ทุกปัญหาย่อมมีทางออก คดีความหย่าร้างใน Good Partner ต่างก็มีทางออกของมัน บางปัญหาจบ บางปัญหายังค้างคา แต่ไม่ค้างคาใจที่ได้พยายามทำไปแล้ว สำหรับคดีหย่าร้างของทนายตัวท็อปก็เช่นกัน ชาอึนกยองที่ข้างนอกยังเข้มแข็ง ข้างในของเธอก็แตกสลายไม่ต่างกัน 

แต่สุดท้ายชีวิตก็ต้องดำเนินต่อไป อย่างที่เธอบอกเอาไว้ว่า “ขอให้ออกจากอุโมงค์แห่งความทุกข์มาได้ด้วยดีนะคะ”

“อย่าถูกกฎหมายใช้ แต่ให้ใช้กฎหมาย”

ด้วยความที่ซีรีส์ Good Partner เล่าถึงสายอาชีพทนายความแผนกหย่าร้าง ตัวบทเลยใช้ประโยชน์จากคดีความด้านนี้มาลงลึกในรายละเอียดแล้วสนุกมากๆ กับการเป็นละครหลังข่าว เพราะมันเต็มไปด้วยดราม่าที่เราคุ้นเคยมาตลอด สามีมีเมียน้อย, หย่าร้างเพราะอยากได้สมบัติหารครึ่ง, ใครจะมีสิทธิ์เลี้ยงดูลูกกันล่ะ ฯลฯ 

เอาจริงๆ เรื่องผัวๆ เมียๆ ไม่เคยห่างหายไปจากดราม่าในสังคม เพียงแต่ว่ามันจะเกิดขึ้นกับใคร ที่ไหน และเมื่อไรเท่านั้นเอง เพราะขนาดชาอึนกยองยังบอกเอาไว้ในซีรีส์ว่า ปัญหาการนอกใจ-หย่าร้างมักเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว อย่าคิดว่ามันจะไม่มีวันเกิดขึ้นกับชีวิตเรา

“ทำไมคนเราไม่กล้าหย่า ทั้งที่อยู่ในสถานการณ์บ้าบอคอแตก”

“ไม่ใช่ว่าไม่มีความกล้า แต่อาจเป็นความกลัวก็ได้ครับ คนเราต่อให้แข็งแกร่งแค่ไหนก็ยังกลัวการต้องอยู่คนเดียวครับ”

ฮันยูริตั้งคำถามกับทนายจองอูจิน เพราะเธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าทำไมลูกความของเธอโดนกระทำถึงขนาดนี้แล้วยังไม่ยอมหย่า แม้ว่าสามีจะทำร้ายร่างกาย ประเคนเข่า แข้ง ศอก หมัด ไม่เว้นแต่ละวัน แต่ลูกความก็ยังลังเล และรู้สึกว่าการฟ้องหย่าเป็นความผิดของเธอเอง ตามขนบสังคมเกาหลีที่เชื่อว่าหน้าที่แม่และเมียคือการดูแลสามีและครอบครัว

หรือเคสคดีความใน EP.4 ที่ทนายชาอึนกยองโชว์เหนืออีกครั้งด้วยความรอบคอบและช่างสังเกตของเธอ ในการทำคดีหย่าร้างของสามีภรรยาที่ฝ่ายภรรยาต้องการหุ้นบริษัทครึ่งหนึ่ง ชาอึนกยองแสดงให้ฮันยูริได้เห็นว่าการใช้กฎหมายที่ถูกต้องนั้นเป็นอย่างไร 

เพราะขึ้นชื่อว่ากฎหมาย แม้จะเขียนออกมารัดกุมที่สุดอย่างไร ย่อมมีช่องว่าง ช่องโหว่ หรือมีการตีความคลุมเครือ เอื้อประโยชน์บางอย่าง ถ้าเราเลือกใช้มันอย่างถูกต้องก็ย่อมส่งผลดีในการผดุงความยุติธรรมเอาไว้