ถอดรหัส สัญลักษณ์ในซีรีส์ Doona! ดูนา ไอดอลสาวข้างบ้าน มันมีอะไรมากกว่าที่คิส!
ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ดูซีรีส์ Doona! ดูนา ไอดอลสาวข้างบ้าน ครบจบแล้ว ตับไม่พัง เพียงแค่ย้อนหลังไปอ่านตอนจบเว็บตูนใหม่อีกรอบแล้วพบว่านักเขียนและผู้กำกับตีความเวอร์ชันซีรีส์ในแนวทางของตัวเอง ที่สร้างปลายเปิดให้ถกเถียงว่าความสัมพันธ์ระหว่างดูนากับวอนจุนนั้นดำเนินต่อไปอย่างไร
บทความนี้ไม่ได้มาวิเคราะห์ปลายเปิด แต่ซีรีส์แสดงสัญลักษณ์บางอย่างหลายๆ ครั้ง แล้วมันกลายเป็นความหมายที่บ่งบอกอารมณ์ความรู้สึกข้างใน จนเป็นส่วนประกอบในการเอาไปวิเคราะห์ปลายเปิดที่ว่าได้ เหนือสิ่งอื่นใด ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ประทับใจรายละเอียดที่ทีมสร้างและผู้กำกับใส่เข้ามาเหล่านี้มากๆ เช่นเดียวกับ แบซูจี ที่หลงรักในรายละเอียดเหล่านี้เช่นกัน
Symbolic สำคัญในซีรีส์ Doona! ดูนา ไอดอลสาวข้างบ้าน มีอะไรบ้าง ไปถอดรหัสกัน!
โลกใต้น้ำ
มีฉากสำคัญฉากหนึ่งที่ใช้แสดงความรู้สึกในใจของดูนา กับความกลัวไม่เป็นที่รัก ความกดดัน ความต้องการลึกๆ ในจิตใจ จนส่งผลต่อร่างกายของเธอ ฉากนี้ใช้วิธีการถ่ายทำใต้น้ำเพื่อให้เห็นความอึดอัดใจที่เกิดขึ้น จนคล้ายเธอหลุดไปอยู่ในโลกอีกใบ
แบซูจีเล่าถึงฉากนี้ให้ฟังว่า จริงๆ เป็นฉากที่เธอกังวลมาก เพราะเป็นคนที่ไม่ค่อยถูกกับน้ำสักเท่าไหร่ ก่อนถ่ายทำก็กังวลมากๆ แต่พอผู้กำกับสั่งแอ็กชัน เธอกลับทำมันได้อย่างดี และมันก็ออกมาดีจริงๆ อย่างที่เราได้เห็นในซีรีส์
จะสังเกตได้ว่าฉากใต้น้ำใช้ในการอธิบายความรู้สึกของตัวละครอยู่ในหลายๆ ซีรีส์ อย่างที่จำได้มากๆ ก็เช่น Our Blues ที่ทำให้เรารู้สึกมืดทะมึนไปพร้อมๆ กับตัวละคร สำหรับ Doona! ก็ทำให้เราเข้าใจได้ว่า แม้เป็นไอดอล แต่ก็ไม่ใช่มีแต่รอยยิ้ม เบื้องหลังนั้นอาจเป็นความเศร้าระดับลึกของหัวใจก็ได้
แมวที่ถูกทิ้ง
แมวประจำแชร์เฮาส์ที่เห็นเข้าฉากอยู่บ่อยๆ ทั้งที่วอนจุนเอาอาหารมาให้ ดูนามาคุยเล่นด้วย หรือแมวจรที่เดินอยู่ข้างทาง ‘แมว’ เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์สำคัญของ Doona! แบบที่พอเข้าใจความหมายแล้วมันทัชใจมากๆ
แบซูจีให้สัมภาษณ์ไว้ว่า “ช่วงแรกๆ ของซีรีส์จะเห็นว่าดูนานั่งคอยใครสักคนอยู่ตลอด เธออยากได้ความรัก ขณะเดียวกันก็มีการป้องกันตัวเอง ยกการ์ดคอยระวังตัวเอาไว้ ฉันคิดว่าความรู้สึกนั้นแสดงความเป็นดูนาชัดเจน เธอเป็นเหมือนแมวที่ถูกทิ้งเอาไว้”
หรือฉากที่วอนจุนบอกว่าวันนี้จะออกไปตามหาแมวสักหน่อย แล้วปรากฏว่าเขากลับไปเจอดูนายืนรออยู่บนสะพาน ก็น่าจะเป็นคำตอบที่ชัดเจนแล้วว่า ดูนาที่ซ่อนตัวอยู่ในแชร์เฮาส์นั้นก็เหมือนกับแมวที่ถูกทิ้งและรอคอยวันที่จะได้เจอเจ้าของอีกครั้ง
ควันบุหรี่
ใครดูซีรีส์ Doona! ก็น่าจะรู้สึกเหมือนกันว่าดูนาสูบบุหรี่เยอะมาก มีชาวเน็ตตาไวนับไว้ด้วยว่ามี 17 ฉาก! ซึ่งบุหรี่ก็เป็นหนึ่งสัญลักษณ์ของเรื่องที่หลายคนสงสัย
ดูซีรีส์ให้ซีเรียส ก็สงสัยเหมือนกันว่าอะไรจะสูบเยอะขนาดนั้น แต่ถ้าเราไล่เรียงดูชีวิตของดูนาก็พอจะเข้าใจได้ว่าเธอเต็มไปด้วยความเครียด ความกดดัน จนการระบายออกผ่านควันบุหรี่ก็เป็นสิ่งที่เธอพอจะทำได้ และมันก็เป็นการเลียนแบบผู้จัดการที่เป็นเหมือนครอบครัวของเธอ การแสดงความเป็นพวกเดียวกัน และเธอยังเก็บบุหรี่ของเขาเอาไว้ในชั้นที่ว่างเปล่าของห้องครัว นัยว่าอยากเจอ แต่ไม่อยากเห็นให้เจ็บ
แล้วความหมายก็เฉลยตอนที่ผู้กำกับให้สัมภาษณ์ว่า เขากังวลเหมือนกันว่าซูจีจะไหวไหมกับการถ่ายทำที่มีฉากสูบบุหรี่เยอะมาก ซึ่งซูจีกลับไม่ได้คิดแบบนั้น เธอบอกว่าการที่ดูนาสูบบุหรี่มีความหมายในเรื่อง และขณะเดียวกันก็เป็นการแสดงตัวตนของเธอเองในอีกมุมที่ไม่ค่อยได้เห็นกัน เป็นความท้าทายในแง่การแสดงอีกด้วย
ถุงเท้า
จำได้ไหมเอ่ย ถุงเท้ามีนิ้วสีชมพูของดูนา นี่ก็คือ Symbolic ในซีรีส์ที่ทำให้เรารู้ได้เลยว่าเธอเองก็ชอบวอนจุนอยู่เหมือนกัน
จากเท้าเปล่าของดูนาในตอนที่อากาศหนาวจัด ที่หมายถึงความโดดเดี่ยวของเธอ ไปสู่ถุงเท้ามีนิ้วสีชมพูที่วอนจุนซื้อมาให้ แม้มันจะไม่ได้แพง เป็นถุงเท้าธรรมดา แต่แสดงความเป็นห่วงเป็นใยและความเป็นคนละเอียดลออของวอนจุน ที่เลือกถุงเท้านิ้วเพราะมันกันหนาวได้ดีกว่า แล้วเลือกสีชมพูเพราะมันน่าจะเข้ากับผู้หญิงได้ดีกว่า
ถุงเท้า เป็นสิ่งของธรรมดาที่สะท้อนความคิดดูนาได้เป็นอย่างดี ตรงที่เธอบอกอยู่บ่อยๆ ว่าเธอชอบอะไรธรรมดาๆ แต่ขณะเดียวกันเธอก็ยังต้องการอะไรที่พิเศษ
คอมฟอร์ตโซนของเด็กดี
จินจู กับ วอนจุน ที่มองว่าเป็น Soulmate ด้วยความที่เหมือนกันมาก คือตั้งใจเรียนเพื่อมีชีวิตที่ดี คอมฟอร์ตโซนของพวกเขาคือการทำตัวอยู่ตามกรอบแบบนั้น ซึ่งจริงๆ แล้วมันก็ไม่ใช่ทุกสิ่ง
เหมือนอย่างที่วอนจุนบอกกับดูนาว่า เขาเองก็รู้สึกโล่งใจอยู่ลึกๆ ที่ออกจากบ้านมาอยู่แชร์เฮาส์ ไม่ต้องดูแลน้อง ดูแลบ้านแล้ว รู้สึกดีทั้งๆ ที่รู้สึกผิดในเวลาเดียวกัน
จินจูที่เติบโตมาในครอบครัวสุดบีบคั้น การอยู่ในกรอบศีลธรรมที่พ่อกำหนด มันอึดอัดคับใจ แต่เธอก็ยอมทนอย่างนั้น เพราะอยากเป็นลูกที่ดี จนสุดท้ายมองเห็นว่ามันไม่ใช่การแก้ปัญหาที่ถูกต้อง เมื่อได้เห็นตัวอย่างจากคนรอบตัวและเรียนรู้โลกมากขึ้น จินจูก็ตัดสินใจเลือกทางเดินของตัวเอง