ลงลึกเบื้องหลัง Doona! สัมภาษณ์ ซูจี ยังเซจง และผู้กำกับ ถึงเรื่องราวก่อนจะมาเป็นซีรีส์โรแมนติกฮีลใจที่น่าประทับใจ

Doona! หรือในชื่อภาษาไทย ดูนา ไอดอลสาวข้างบ้าน ซีรีส์เรื่องล่าสุดจาก Netflix ที่เพิ่งออนแอร์ให้ชมรวดเดียวแบบ 9 ตอนจบไปเมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ดูซีรีส์ให้ซีเรียส มีโอกาสได้ร่วมงานแถลงข่าวของซีรีส์เรื่องนี้ โดยมีทั้งนักแสดงนำอย่าง ซูจี ยังเซจง และผู้กำกับ อีจองฮโย (Crash Landing on You, Romance is a Bonus Book) มาร่วมพูดคุยถึงเรื่องราวสนุกๆ และน่าสนใจให้ได้ฟังกัน

Doona! เป็นซีรีส์แนวโรแมนติกที่ดัดแปลงมาจากเว็บตูนยอดนิยมชื่อเดียวกัน เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของ อีดูนา (รับบทโดย แบซูจี) ไอดอลสาวที่กำลังอยู่ในช่วงที่ป๊อปปูลาร์สุดๆ แต่กลับตัดสินใจลาออกจากวงการบันเทิงด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอเลือกจะอาศัยอยู่ที่แชร์เฮาส์ในย่านใกล้ๆ มหาวิทยาลัย และได้พบกับ อีวอนจุน (รับบทโดย ยังเซจง) นักศึกษาวิทยาลัยธรรมดาๆ คนหนึ่ง และทั้งสองก็ได้แบ่งปันความรู้สึกดีๆ พร้อมกับรักษาบาดแผลในใจซึ่งกันและกัน

ในฐานะผู้กำกับ อยากให้ช่วยอธิบายถึงการตีความซีรีส์เรื่องนี้ และสิ่งที่ให้ความสนใจเป็นพิเศษในการทำงาน

ผู้กำกับอีจองฮโย: สำหรับผม Doona! เป็นเรื่องของคนสองคนที่อาศัยอยู่ในโลกที่แตกต่างกันได้มาพบเจอกัน และค่อยๆ เรียนรู้โลกของอีกฝ่าย พร้อมทั้งปรับตัวเข้าหากัน เป้าหมายของผมจึงอยากจะเน้นการแสดงกระบวนการในการเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และบรรยากาศของวัยหนุ่มสาวในช่วงอายุ 20 ต้นๆ ที่แต่ละคนจะยังมีความใสซื่อ บริสุทธิ์ ไร้เดียงสาต่อความรักและความรู้สึกระหว่างกันอยู่ด้วยครับ

สำหรับซีรีส์โรแมนติก เคมีระหว่างพระเอกกับนางเอกสำคัญที่สุดครับ ผมจึงพยายามฟังความเห็นของนักแสดงทั้งสองคนมากที่สุด การสร้างซีรีส์แบบนี้ ผมมักจะรู้สึกได้ว่า ‘มันจะมีอะไรที่มากกว่าที่เห็นในบทนะ’ สิ่งเหล่านี้เกิดจากเคมีของนักแสดงนำทั้งสองคน เพราะฉะนั้นผมจึงถามความเห็นและเปิดโอกาสให้ทั้งสองคนพูดคุยกันจนสนิทกัน โดยเฉพาะช่วงแรกๆ จะมีการสื่อสารกันเยอะจริงๆ ครับ

มาที่ฝั่งนักแสดงกันบ้าง อยากให้ทั้งสองช่วยแนะนำตัวละครของตัวเองให้ผู้ชมได้รู้จักหน่อย

ซูจี: ดูนาเป็นสมาชิกวงไอดอลชื่อดังที่มีชื่อว่า Dream Sweet และเป็น Main Vocal ของวงค่ะ แต่มีเหตุผลบางอย่างทำให้เธอตัดสินใจหนีจากโลกที่เธอเคยอยู่ แล้วมาเก็บตัวอยู่ที่บ้านเช่ารวมสำหรับนักศึกษา เธอเป็นคนที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวงและบาดแผลในใจ ไม่มีใครสามารถรู้ได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ถ้าได้ทำความรู้จักกันแล้วจะพบว่าจริงๆ เธอเป็นคนที่ชอบอยู่กับผู้คนและโหยหาความรัก  

ฉันมองว่าถึงแม้ดูนาจะเป็นคนที่ดูเข้าใจยาก แต่ก็ยังอยากจะโอบกอดเธอไว้ค่ะ ฉันเคยคุยกับผู้กำกับว่าในช่วงแรกของเรื่องจะต้องมีหลายคนที่เข้าใจผิดในตัวเธอแน่ๆ และเมื่อได้ดูต่อไปแล้วถึงจะเริ่มเข้าใจเธอมากขึ้น ดังนั้นฉันจึงอยากถ่ายทอดตัวละครนี้ในมุมมองที่สร้างความสับสนหรือโอกาสในการเข้าใจผิดในตัวเธอให้ได้มากที่สุดในช่วงแรก เพื่อสื่อถึงสถานการณ์ของเธอให้ได้ตรงตามบทมากที่สุด ดูนาอาจจะดูแข็งกร้าว ไม่แคร์ความรู้สึกของคนอื่นไปบ้าง แต่นี่ก็เป็นอีกมุมของเธอที่อยากให้ผู้ชมได้เห็นค่ะ

ยางเซจง: วอนจุนเป็นเด็กปีหนึ่งธรรมดาๆ คนหนึ่งครับ เขาอายุ 20 ต้นๆ และมีความรับผิดชอบของตัวเองอยู่ เขาได้เจอกับดูนาตอนที่ย้ายเข้าไปในบ้านเช่ารวมสำหรับนักศึกษา ดูนาเป็นคนที่ทำให้เขาสับสนอยู่เสมอ เขาจึงพยายามไม่เข้าใกล้หรือสนิทด้วยในตอนแรก แต่กลายเป็นว่าต่อมาเขาก็กลมกลืนเข้าไปในโลกของดูนามากขึ้นเรื่อยๆ วอนจุนเองก็ไม่รู้ตัวเหมือนกันว่าอยากเป็นที่พึ่งให้กับดูนาตั้งแต่เมื่อไหร่ และในระหว่างนั้นเขาก็ได้สัมผัสความรู้สึกใหม่ๆ เมื่อได้ใกล้ชิดกับดูนาด้วยครับ

เหตุผลที่ตัดสินใจรับบทนำในซีรีส์เรื่องนี้

ซูจี: หลังจากที่ได้อ่านบท ฉันก็ตามไปอ่านเว็บตูนต้นฉบับทันทีเลยค่ะ เพราะอยากเห็นภาพว่าในเว็บตูนเขาถ่ายทอดออกมาอย่างไร ซึ่งตัวละครดูนาเองก็มีเสน่ห์และให้ความรู้สึกที่เป็นเอกลักษณ์ ทำให้เนื้อเรื่องน่าสนใจมากๆ นอกจากนี้ยังมีบางส่วนที่ทำให้ฉันรู้สึกสงสารตัวละครดูนา และอยากจะรู้เรื่องที่เกิดขึ้นต่อๆ ไป ดังนั้นฉันจึงคิดว่าตัวเองน่าจะสามารถถ่ายทอดตัวละครนี้ออกมาได้อย่างดีค่ะ

ยังเซจง: ช่วงแรกที่ได้อ่านบท ผมรู้สึกตื่นเต้น หัวใจเต้นแรงมากครับ และเพราะนี่คงเป็นโอกาสสุดท้ายที่ผมจะสามารถเล่นเป็นตัวละครที่มีอายุ 20 ต้นๆ อย่างวอนจุนได้ เมื่อคำนึงถึงอายุจริงตอนนี้ ผมก็เลยตกลงรับบทนี้ครับ

ทั้งซูจีและยังเซจง มีการเตรียมตัวอย่างไรบ้างเพื่อมาแสดงซีรีส์เรื่องนี้ เพราะบทวอนจุนมีอายุน้อยกว่าอายุจริงของนักแสดงประมาณ 10 ปี ส่วนซูจีเองก็เคยมีประสบการณ์ในการเป็นไอดอลที่ประสบความสำเร็จมาก่อน 

ยังเซจง: ผมตั้งใจอ่านบทมากๆ ครับ สำหรับเรื่องรูปลักษณ์ภายนอก ในครั้งนี้ผมทั้งโกนหนวดและเลเซอร์ด้วย มันเจ็บมากเลยครับ นอกจากนี้ผมยังแช่น้ำครึ่งตัวแล้วก็มาสก์หน้าบ่อยๆ สรุปคือผมพยายามปรับรูปลักษณ์ภายนอกให้ตรงกับบทมากที่สุดครับซูจี: ตอนที่แสดงเป็นดูนา เป็นโอกาสให้ฉันนึกถึงตอนที่เป็นไอดอล จริงๆ แล้วเหมือนฉันไม่รู้ว่าตอนนั้นเป็นช่วงเวลาที่ยากลำบากค่ะ ช่วงเวลาที่ฉันต้องพยายามทำตัวให้สดใสก็มีมาก เมื่อเทียบกับดูนาที่ยอมให้ตัวเองเหนื่อยและแสดงออกอย่างเต็มที่ เธอแสดงออกถึงความรู้สึกเหนื่อยหรือสิ่งต่างๆ ที่ตัวฉันเองเคยพยายามมองข้ามหรือไม่สนใจ อีกทั้งยังยอมให้ตัวเองรู้สึกเจ็บปวดบ้างตามสิ่งที่ได้เจอ ฉันจึงรู้สึกทั้งสงสารและอิจฉาเธอไปพร้อมๆ กันค่ะ พอรู้สึกเข้าใจในตัวเธอมากขึ้นก็เลยอยากที่จะโอบกอดและปลอบใจเธอบ้างค่ะ

ผลงานก่อนหน้านี้ของซูจีได้รับความสนใจและชื่นชมเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเรื่องการแสดง ในขณะที่เซจงเองก็กลับมารับงานแสดงเป็นครั้งแรกหลังปลดประจำการ อยากรู้ว่าทั้งสองรู้สึกกดดันกับการแสดงครั้งนี้บ้างไหม

ซูจี: ไม่รู้สึกกดดันเลยค่ะ เนื่องจากเป็นตัวละครในแบบที่ฉันไม่เคยแสดงมาก่อนเลย จึงรู้สึกตื่นเต้นมากกว่าที่จะได้โชว์ให้เห็นความแตกต่างและความแปลกใหม่นี้ คิดว่าฉันคงรู้สึกตื่นเต้นมากจนไม่รู้สึกกดดันไปเลยค่ะ

ยังเซจง: ผมเองก็ไม่มีความรู้สึกกดดันในการกลับมารับงานนะครับ แต่รู้สึกอยากจะอ่านบทและเริ่มงานเร็วๆ ผมคิดว่านอกจากตอนถ่ายทำแล้ว ผมตื่นเต้นกับงานแถลงข่าวในวันนี้มากที่สุดเลยครับ ไม่รู้ว่าทำไม แต่โดยส่วนตัวแล้วผมคิดว่าน่าจะทำได้ดีกว่าช่วงก่อนเข้ากรมนะครับ

ซีรีส์ Doona! น่าจะเป็นโอกาสในการกลับมาใช้ชีวิตในช่วงอายุ 20 ต้นๆ อีกครั้ง แต่คุณเซจงบอกว่ากลับไม่ได้นึกถึงชีวิตช่วงวัย 20 ของตนเองเท่าไร ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นล่ะ

ยังเซจง: ผมไม่ได้นึกถึงตัวเองในช่วงวัย 20 ในมุมมองของความรักหรือความสัมพันธ์ครับ แต่ผมก็มองกลับไปที่ตัวเองในช่วงอายุ 20 ปีอยู่นะครับ วอนจุนและตัวผมเมื่อสัก 12 ปีที่แล้วใช้ชีวิตไม่เหมือนกัน บรรยากาศรอบตัวก็ไม่เหมือนกันด้วย ผมลองถามคนรอบตัวที่อยู่ในช่วงอายุ 20 ต้นๆ อยู่บ่อยๆ ว่าช่วงนี้ทำกิจกรรมอะไร ออกไปเจอเพื่อนที่ไหน เรียนกันอย่างไร ชอบไปไหนกันบ้าง แล้วก็พบว่ามันแตกต่างจากประสบการณ์ชีวิตของผมอยู่มากเหมือนกันครับ หลังจากปลดประจำการ ผมมีโอกาสใช้ชีวิตในฐานะวอนจุน ผมรู้สึกว่าผู้กำกับกับคุณซูจีคุยกับผมโดยมองผมเป็นวอนจุนในช่วงท้ายๆ ของการถ่ายทำ จึงคิดว่าผมน่าจะทำได้ดีในการแสดงออกถึงตัวตนของวอนจุนครับ

สำหรับผู้กำกับ หลังจากได้ร่วมงานกับนักแสดงนำทั้งสองแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง 

ผู้กำกับอีจองฮโย: ด้วยเนื้อเรื่อง นักแสดงจึงต้องทั้งร้องเพลง ทั้งเต้น และต้องแสดงด้วย มันมีสิ่งที่ต้องทำเยอะมากเลยครับ จึงเป็นธรรมดาที่จะรู้สึกเหนื่อย แต่ซูจีไม่เคยแสดงให้เห็นว่าเหนื่อยเลยครับ เธอทำให้ผมเห็นว่าเธอเป็นนักแสดงที่มีความสามารถและสุดยอดมาก ในขั้นตอนการคัดเลือกนักแสดงสำหรับบทดูนา คนที่ผมนึกถึงขึ้นมาเลยก็คือซูจี ตอนที่ติดต่อไปผมจึงบอกตรงๆ ว่าอยากให้เธอมาแสดงเรื่องนี้จริงๆ ซึ่งเธอก็ตอบตกลงทันที ผมดีใจมากเลยครับ และตอนที่เจอกันก็ยิ่งเป็นการยืนยันว่าผมตัดสินใจไม่ผิดจริงๆ ครับ

จริงๆ แล้วตัววอนจุนในเว็บตูนจะดูธรรมดาๆ แต่สิ่งที่เขามีคือความเป็นเด็กและความไร้เดียงสาครับ ตอนที่ผมเจอยังเซจงครั้งแรก ผมรู้สึกว่าเขาจะต้องเหมาะกับบทนี้แน่ๆ เลยเสนอให้ลองมาแคสติ้ง พอถ่ายทำจริงก็มีโอกาสได้คุยกันเยอะมาก วอนจุนเป็นคาแรกเตอร์ที่ต้องแสดงออกถึงอารมณ์ที่หลากหลาย จึงต้องควบคุมการสื่อถึงความรู้สึกเหล่านั้นให้ดี เลยยิ่งต้องมีการสื่อสารกันมากกับคุณเซจงครับ ระหว่างที่คุยกันผมก็คิดว่า ‘คนนี้นี่แหละคือวอนจุนจริงๆ’ ความรู้สึกหรือเรื่องราวที่เขาอธิบายให้ผมฟัง ฟังแล้วสัมผัสได้ถึงความไร้เดียงสา มันทำให้ผมรู้สึกดีมากๆ และคิดว่าเลือกคนมาได้ดีจริงๆ เลยล่ะครับ

แชร์ให้ฟังหน่อยได้ไหมว่าช่วงเวลาไหนที่ตัวละครของคุณรู้สึกใจเต้นกับอีกฝ่าย

ซูจี: ช่วงแรกที่ดูนายังมีความหวาดระแวงและคอยระวังตัวเสมอ มีวันหนึ่งที่เธอจะเป็นลมและต้องไปโรงพยาบาล วอนจุนเข้ามาช่วยและบอกว่าตนเป็นผู้ปกครองของเธออย่างบริสุทธิ์ใจ น่าจะเป็นตอนนั้นค่ะ ที่ดูนารู้สึกได้ว่าคนคนนี้ไม่มีอันตรายจริงๆ และเริ่มสนใจในตัวของวอนจุนค่ะ

ยังเซจง: ผมแบ่งดูนาออกเป็นสามช่วงครับ คือช่วงต้น – กลาง – ท้ายเรื่อง ผมคิดว่าวอนจุนคงหวั่นไหวตั้งแต่ช่วงแรกๆ แต่เขาแสดงออกในรูปแบบที่แตกต่างกัน คือช่วงแรกเขาพยายามที่จะหลีกเลี่ยงเธอ ปฏิเสธเธอ จนเข้าสู่ช่วงกลางและช่วงท้ายของเรื่อง จริงๆ แล้ววอนจุนเองน่าจะใจเต้นทุกครั้งที่เขาเห็นดูนา ถึงแม้จะมีช่วงที่เสียใจ แต่วอนจุนเองก็มีการเติบโตขึ้น ถึงจะมีอะไรมากมายเกิดขึ้น แต่ความหวั่นไหวในใจที่เกิดขึ้นก็น่าจะไม่เลือนรางหายไปครับ ดังนั้นพอมองดูดีๆ แล้ว ผมว่าวอนจุนคงใจเต้นกับดูนาตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกันเลยครับ

ในซีรีส์ Doona! ซูจีต้องแสดงในสิ่งที่หลากหลายกว่าที่เคย มีทั้งฉากสูบบุหรี่เยอะมาก และมีฉากใต้น้ำด้วย อยากให้เล่าถึงเบื้องหลังการถ่ายทำฉากเหล่านั้นให้ฟังสักหน่อย รวมถึงฉากการพบกันครั้งแรกระหว่างดูนาและวอนจุนด้วย

ซูจี: เรียกว่าเป็นความท้าทายมากกว่าค่ะ ในเว็บตูนดูนาจะมีฉากสูบบุหรี่เยอะมาก ซึ่งผู้กำกับเองก็กังวลเรื่องนี้ตั้งแต่ตอนเจอกันครั้งแรก แต่สำหรับฉันมองว่าบุหรี่ถือเป็นปัจจัยสำคัญที่แสดงถึงตัวตนของดูนา จึงได้พยายามอย่างเต็มที่ค่ะ ส่วนฉากใต้น้ำ ความจริงแล้วฉันกลัวน้ำนิดหน่อย แต่พอเริ่มถ่ายทำก็โอเคขึ้นค่ะ นี่เป็นฉากสำคัญเพื่อที่จะสื่อภาพของดูนาที่แสดงอยู่บนเวที ฉันจึงไม่มีปัญหาที่จะต้องกระโดดลงไปในน้ำค่ะ 

ส่วนฉากที่ดูนากับวอนจุนเจอกันครั้งแรก จำได้ว่าถ่ายฉากนั้นสองครั้งนะคะ เพราะเป็นฉากสำคัญ เลยตั้งใจกันมากในการถ่ายทำ ฉันเน้นการแสดงความหวาดระแวงของดูนาที่ทำให้ดูระมัดระวังตัวต่อวอนจุน และก็ต้องพยายามแสดงถึงตัวดูนาที่มีเสน่ห์น่าประทับใจสำหรับวอนจุน ให้สมกับการพบเจอกันครั้งแรกด้วยค่ะ

ผู้กำกับอีจองฮโย: ฉากที่เจอกันครั้งแรกนั้น ทางนักเขียนได้ลงรายละเอียดต่างๆ ไว้หมดแล้ว แต่ด้วยปัจจัยของบรรยากาศ ภาพที่ได้ในแต่ละฤดูจะต่างกันออกไป เนื่องจากระยะเวลาการถ่ายทำค่อนข้างนาน ทำให้เราได้ภาพจากทั้งฤดูใบไม้ผลิ ฤดูร้อน ฤดูใบไม้ร่วง และฤดูหนาว ตอนที่จัดถ่ายอีกครั้งเพื่อปรับบรรยากาศตามฤดูกาลจึงเป็นการทำงานที่ไม่ลำบาก ทุกคนเข้าใจในตัวละครกันอยู่แล้ว แค่แสดงออกให้เห็นชัดเจนกว่าเดิมก็พอครับ 

ช่วยฝากถึงผู้ชมที่กำลังติดตามซีรีส์ Doona! สักหน่อย

ยังเซจง: ผู้กำกับและทีมงานทุกคนตั้งใจทำงานกันอย่างหนัก บรรยากาศการถ่ายทำเต็มไปด้วยรอยยิ้มและความสุข ดังนั้นช่วยติดตามและมอบความรักให้กับซีรีส์เรื่องนี้กันเยอะๆ นะครับ ขอบคุณครับ

ซูจี: ผลงานชิ้นนี้เป็นความทรงจำที่ดีของฉัน ทีมงานทุกคนก็ทำงานกันอย่างเต็มที่เลยค่ะ หวังว่าจะช่วยส่งกำลังใจและติดตามชมตั้งแต่ตอนแรกจนถึงตอนจบกันเลยนะคะ

ผู้กำกับอีจองฮโย: พวกเราตั้งใจทำงานกันอย่างเต็มที่ครับ ใครที่มองหาเรื่องราวโรแมนติกที่แตกต่างออกไปก็อย่าพลาดกันนะครับ เรื่องนี้สตรีมบน Netflix ผู้ชมจึงไม่ต้องรอตอนต่อๆ ไปด้วย สามารถดูรวดเดียวจบได้เลยนะครับ  ส่วนตัวผมคิดว่าเรื่องนี้เหมาะที่จะดูรวดเดียวจบนะครับ ขอบคุณครับ